องค์กรต่างชาติแนะไทยให้สัตยาบันแก้ปัญหาค้ามนุษย์-ประมงเถื่อน
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) เพื่อติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยที่ประชุมระบุว่าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์มีความคืบหน้า เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่จริงจังและบูรณาการ จึงทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ ได้ดี
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีความเห็นว่าปัญหาค้ามนุษย์เชื่อมโยงกับปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย ส่งผลให้การแก้ไขปัญหามีความซับซ้อนและยากลำบาก แต่รัฐบาลจะเดินหน้าขับเคลื่อนแก้ปัญหาต่อไป โดยจะดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย และพิจารณาจากภาพรวมทั้งระบบ รวมถึงจะเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการคัดแยกและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตลอดจนมีมาตรการคุ้มครองพยานเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน มูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (EJF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรจากสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์สนับสนุนการบังคับใช้อนุสัญญามาตรา 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมง ขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ระบุว่าประเทศภาคีอนุสัญญาดังกล่าวจะต้องคุ้มครองแรงงานประมงให้ได้รับเงินเทียบเท่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ต้องมีบริการรักษาพยาบาลบนเรือประมง ตลอดจนมีการทำสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร
เนื้อหาในแถลงการณ์ของ EJF ยังระบุด้วยว่ารัฐบาลไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าประมงรายใหญ่เป็นอันดับ 27 ของโลก และมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนบนเรือประมง ทำให้สหภาพยุโรป (EU) ออกใบเหลืองแก่แวดวงอุตสาหกรรมประมงไทย และรัฐบาลสหรัฐฯ จัดอันดับให้ไทยติดกลุ่มเฝ้าระวัง หรือ Tier 2 ในรายงานการค้ามนุษย์ (TIP Report) ในปีนี้ และรัฐบาลไทยควรให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญามาตรา 188 ดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์และการทำประมงผิดกฎหมาย