ดีเอสไอแจ้งดำเนินคดีโฆษกวัดพระธรรมกายข้อหายุยงปลุกปั่น

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ (13 ธ.ค.) เพื่อหารือความคืบหน้าในการดำเนินคดีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินร่วมกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด รวมถึงคดีรุกที่ป่าเพื่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม แต่ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าจะมีการบุกตรวจค้นวัดพระธรรมกายในเวลา 24 ชั่วโมงต่อจากนี้หรือไม่

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระมัดระวังเรื่องการให้ข่าว พร้อมย้ำว่าการตัดสินถูกหรือผิดต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยไม่ใช้ความรู้สึกตัดสิน แต่สื่อมวลชนและสังคมต้องตระหนักว่าการประโคมข่าวจะไม่เกิดประโยชน์ เพราะจะทำให้การแก้ปัญหายุ่งยากและยิ่งเลวร้ายมากขึ้น

ส่วนบรรยากาศที่วัดพระธรรมกายในช่วงเช้าและบ่าย มีคณะลูกศิษย์จำนวนมากทยอยเดินทางเข้าไปภายในวัด เพื่อร่วมสวดมนต์ภาวนา ทั้งยังมีการตั้งด่านสกัดไม่ให้ผู้สื่อข่าวหรือบุคคลภายนอกเข้าไปในอาณาบริเวณวัด โดยให้เหตุผลว่าเกรงจะมีกลุ่มก่อเหตุสร้างสถานการณ์ และมีผู้นำแท่งคอนกรีตและตะปูเรือใบมาโปรยบนถนนสาธารณะที่เป็นเส้นทางเข้าและออกวัดพระธรรมกาย แต่คณะศิษยานุศิษย์ของทางวัดปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวไทยรายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ ซึ่งเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย สืบเนื่องจากที่นายองอาจแถลงจุดยืนของคณะศิษยานุศิษย์ 9 ข้อ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116 (2) ตามประมวลกฎหมายอาญา ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องได้กำหนดเส้นตายในการมอบตัวของพระธัมมชโยในคืนวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งเป็นการขยายเวลามาจากปีที่แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากทางวัด แต่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจไม่จู่โจมวัดพระธรรมกายซึ่งมีลูกศิษย์ผู้สนับสนุนจำนวนมาก เพราะเกรงจะเกิดเหตุปะทะหรือทำให้มีผู้บาดเจ็บ

ขณะที่วัดพระธรรมกายยืนยันว่าข้อกล่าวหาที่มีต่อพระธัมมชโยเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล ส่วนที่พระธัมมชโยไม่ได้เดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นเพราะกำลังอาพาธ