นายกฯ เผยในหลวง ร.10 ทรงห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยวันนี้ (13 ม.ค.) ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และองคมนตรี เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์เมื่อคืนวานนี้ (12 ม.ค.) พร้อมระบุว่าพระองค์ทรงห่วงใยในสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เป็นหลัก และทรงรับสั่งให้ช่วยเหลือประชาชนให้กลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด

นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานลายพระหัตถ์ถึงประชาชนทุกคนว่า "ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนา เพื่อขวัญที่ดี จิตใจ และร่างกายที่เข้มแข็ง นำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ" ทั้งยังทรงรับสั่งให้นำแนวพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติตาม รวมถึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานให้หน่วยถวายความปลอดภัยลงไปช่วยเหลือประชาชนร่วมกับรัฐบาล ทั้งยังพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บและผู้สูญเสียอีกด้วย ถือเป็นสิริมงคลกับประชาชนทุกคน

ขณะเดียวกันในเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง นายกรัฐมนตรีระบุว่า พระองค์ท่านอยากให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี อยู่ในความสงบและทำให้บ้านเมืองมีความปลอดภัยและยั่งยืน เป็นที่เชื่อมั่นของนานาประเทศ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยผลประเมินเบื้องต้นเรื่องผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยอ้างอิงความเห็นของ นางสุรีรัตน์ ลัคนานิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส แบงก์ชาติ สำนักงานภาคใต้ ซึ่งประเมินสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ช่วงวันที่ 1-10 มกราคม 2560 ว่ามีผลกระทบต่อทรัพย์สินและต่อครัวเรือนเกิดขึ้นในวงกว้าง โดย 11 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง และกระบี่

นางสุรีรัตน์ระบุว่าผลกระทบระยะสั้นที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลกระทบในภาคเกษตร ทั้งชาวสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และฟาร์มกุ้ง ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้เนื่องจากน้ำท่วมและฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ยางพาราที่ได้รับผลกระทบ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75% ของพื้นที่สวนยางภาคใต้ทั้งหมด จึงคาดว่าผลผลิตยางในเดือน ม.ค.จะลดลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ปีที่แล้ว และอาจจะส่งผลให้มีวัตถุดิบเข้าสู่โรงงานน้อยลง ซึ่งเป็นผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม รวมถึงประสบปัญหาการเดินทางของแรงงาน

ในส่วนของการท่องเที่ยว นางสุรีรัตน์ประเมินว่าได้รับผลกระทบไม่มาก มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองเกิดขึ้นบ้างในพื้นที่ฝั่งอันดามันซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่ภาคการค้าพบว่ามีผลกระทบเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กใน อ.ทุ่งสง และ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่รายได้บางส่วนจะถูกชดเชยด้วยการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคบริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม การเร่งใช้จ่ายหลังน้ำลดเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้หลังน้ำท่วม