เพิ่มเติม -- ศาลฎีกาสั่งรัฐบาลอังกฤษต้องขอรัฐสภาก่อนเริ่มเจรจาเบร็กสิต

เพิ่มเติม -- ศาลฎีกาสั่งรัฐบาลอังกฤษต้องขอรัฐสภาก่อนเริ่มเจรจาเบร็กสิต

ศาลฎีกาแห่งสหราชอาณาจักรปฏิเสธคำอุทธรณ์ของรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ ลงมติ 8-3 สั่งให้รัฐบาลต้องขออนุญาตรัฐสภาในกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กสิต)

คำวินิจฉัยจะส่งผลให้นางเมย์ไม่สามารถเริ่มกระบวนการเจรจากับอียูจนกว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระบวนการขอความเห็นชอบ จะเสร็จสิ้นภายในเส้นตายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 31 มี.ค.

ศาลฎีกาแห่งสหราชอาณาจักรอ่านคำตัดสินชี้ขาดดังกล่าวในเวลา 9.30 น. ตามเวลาในอังกฤษ วันนี้ (24 ม.ค.)

คำวินิจฉัยของศาลในครั้งนี้ถือว่าเป็นที่สุด หลังจากที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์ให้ศาลฎีกาพิจารณาทบทวนคำตัดสินก่อนหน้านี้ ซึ่งได้วินิจฉัยให้รัฐบาลต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเสียก่อน จึงจะแจ้งเริ่มกระบวนการเจรจาเบร็กสิตกับสหภาพยุโรป (อียู) ตามมาตราที่ 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนได้

ในการแถลงคำตัดสินวันนี้ ลอร์ดนิวเบอร์เกอร์ ประธานศาลฎีกาแห่งสหราชอาณาจักรจะเป็นผู้อ่านแถลงสรุปคำวินิจฉัยโดยคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 5 นาที และจะมีการเผยแพร่คำวินิจฉัยของศาลโดยละเอียดในเว็บไซต์ของศาลฎีกาหลังจากนั้น

เดิมทีแล้ว รัฐบาลสหราชอาณาจักรโดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าคณะรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในการแจ้งเริ่มกระบวนการเจรจาเบร็กสิตกับอียู โดยคาดว่าจะดำเนินการภายในเดือนมีนาคมนี้ แต่มีผู้ร้องคัดค้านต่อศาลว่ากระบวนการดังกล่าวต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาโดยออกเป็นกฎหมายเสียก่อน โดยผู้ยื่นฟ้องคัดค้านนำโดยนางจีน่า มิลเลอร์ ผู้จัดการด้านการลงทุน และนางเดร์ โทเซ็ตติ ดอส ซานตอส ช่างทำผม

นางมิลเลอร์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนว่า ที่ตนยื่นฟ้องต่อศาลในครั้งนี้ ไม่มีเจตนาจะทำให้กระบวนการเบร็กสิตล่าช้าหรือสับสน แต่ต้องการทำให้กระบวนการดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ โดยตนหวังว่ารัฐบาลจะเสนอกฎหมายที่รัดกุมให้รัฐสภาผ่านความเห็นชอบเสียก่อน เพื่อป้องกันช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นจากการเร่งถอนตัวจากอียู

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประธานศาลฎีกาแห่งสหราชอาณาจักรได้ออกมาระบุว่า ศาลจะไม่วินิจฉัยเพื่อล้มเลิกผลการลงประชามติที่ให้สหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกอียูโดยเด็ดขาด แต่การวินิจฉัยของศาลครั้งนี้ จะเป็นไปเพื่อมุ่งให้สามารถนำผลประชามติมาปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากศาลมีคำวินิจฉัยยืนให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนแจ้งเริ่มกระบวนการเบร็กสิต หลายฝ่ายคาดว่าจะมีสมาชิกรัฐสภาจำนวนมาก รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาจากสก็อตแลนด์ที่ออกเสียงคัดค้านไม่ให้เริ่มกระบวนการเบร็กสิต แม้รัฐสภาจะถูกคาดหวังให้ออกเสียงสนับสนุนตามผลประชามติส่วนใหญ่ก็ตาม