เพิ่มเติม -- ดีเอสไอยุติค้นวัดธรรมกายวันแรกแล้ว ยังไม่พบ ”ธัมมชโย” เตรียมค้นหาต่อพรุ่งนี้
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจค้นและจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน วันนี้ (16 ก.พ.) ว่า ปฏิบัติการตรวจค้นในวันแรก เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ในการเข้าค้นพื้นที่สำคัญในวัดที่เชื่อว่าพระธัมมชโยพักอาศัยอยู่ แต่ก็ยังไม่พบตัวพระธัมมชโย จึงยุติการค้นหาลง และจะเริ่มการตรวจค้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
มติชนออนไลน์ รายงานอ้าง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ ที่ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าค้นพื้นที่ของมูลนิธิต่าง ๆ ของวัด เช่น อาคาร 100 ปี อาคารอุบาสก และอาคารสงฆ์ รวมถึงพื้นที่อื่นที่เหลือ เช่น อาคารมหาธรรมกายเจดีย์ และอาคารรัตนวิหารคต
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำกุญแจพร้อมโซ่ไปล็อคที่ประตู 6 ของวัดธรรมกาย เพื่อไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านเข้าออก พร้อมตรึงกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความเรียบร้อยบริเวณดังกล่าว
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย
สาระสำคัญของคำสั่งหัวหน้า คสช. นี้ คือการประกาศให้วัดพระธรรมกาย ตลอดจนพื้นที่โดยรอบในหมู่ 7-13 ต.คลองสอง และหมู่ 7-11 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็น "พื้นที่ควบคุม" และให้อำนาจ "พนักงานเจ้าหน้าที่" จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งมีอธิบดีดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการในพื้นที่ควบคุม อาทิ ไม่ให้เข้าออกจากพื้นที่ สั่งให้บุคคลใดออกจากพื้นที่ ออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัว จับกุมบุคคลที่ทำผิดอาญาซึ่งหน้า เข้าไปในเคหสถานใดเพื่อตรวจค้น ควบคุมระบบการสื่อสาร ฯลฯ
โดยกำหนดโทษของผู้ที่ขัดขวางหรือฝ่าฝืนไว้คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ให้นำมาตรา 17 ของพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งนิรโทษกรรมให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย หากปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุ มาใช้บังคับกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. นี้
รวมถึงกำหนดให้ไม่สามารถจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ด้วย
ยันเลี่ยงรุนแรง ใช้อำนาจเท่าที่จำเป็น
เช้าตรู่วันเดียวกัน กำลังผสมจากดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าปิดกั้นทางเข้าออกโดยรอบวัดพระธรรมกาย โดยสื่อมวลชนไทยหลายสำนักรายงานจำนวนกำลังเจ้าหน้าที่ มีระหว่าง 1,350 - 1,500 คน ขณะที่ดีเอสไอยังได้ประกาศปิดกั้นถนนโดยรอบวัดธรรมกายตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2560 จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า เหตุที่มีการใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. นี้ เนื่องจากพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินหรือรับของโจรจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวมเป็นเงิน 1,400 ล้านบาท ในคดีพิเศษที่ 27/2559 มีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้ศาลอาญาจะออกหมายจับ และต่อมา อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องคดีดังกล่าว และมีคำสั่งให้ดีเอสไอนำตัวพระเทพญาณมุนีมาดำเนินคดี แต่กลับถูกลูกศิษย์ของวัดขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงต้อง
"จึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อนำตัวพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ยืนยันว่าจะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงความรุนแรงทุกอย่าง และจะเข้าตรวจค้นโดยไม่มีอาวุธ" พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
พ.ต.อ.ไพสิฐยังเปิดเผยว่า การขอเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ศาลได้อนุมัติหมายค้นเป็นเวลาหลายวัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า ให้เวลากี่วัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า คืนวานนี้ (15 ก.พ. 2560) นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมิ่นประมาท และยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยนายองอาจกล่าวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามสร้างความวุ่นวาย และห้ามยุยงปลุกปั่น
ก่อนหน้านี้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ในหมายค้น ศาลให้เวลาเป็นสัปดาห์ ส่วนจะดำเนินมาตรการใดๆ หลังจากนี้ เช่น ตัดน้ำ ตัดไฟ ให้เป็นดุลยพินิจของอธิบดีดีเอสไอ"ตอนนี้เรายังยึดไว้ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัด ไม่เช่นนั้นศาลคงไม่อนุมัติหมายค้นให้" นายสุวพันธุ์กล่าว
เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มาเจรจากับตัวแทนวัดพระธรรมกาย ซึ่งนำโดยพระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ที่ประตู 7 เพื่อขอเข้าตรวจค้นภายในวัด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พ.ต.อ.ไพสิฐ ระบุว่า ทางวัดพระธรรมกายให้ความร่วมมืออย่างดี โดยเจ้าหน้าที่จะนำกำลังตรวจค้นทุกประตูตามหมายจับ เริ่มจากประตู 8 ก่อน และจะตรวจค้นให้ครบพื้นที่ ทั้ง 2,000 ไร่ของวัด
ด้านพระมหานพพร กล่าวว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัดหรือไม่ เพราะไม่ได้พบมา 8 เดือนแล้วเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐเดินทางมาที่ประตู 1 ที่อยู่ใกล้เคียงกับอาคารภาวนาและอาคารดาวดึงส์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่พักรักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย เพื่อขอเข้าตรวจค้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางวัดไม่ยอมเปิดที่ล็อกกุญแจทำให้ต้องใช้คีมตัดกุญแจ ทั้งนี้ในการตรวจค้นทั้ง 2 จุด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว