ชายประท้วงม.44 แขวนคอตาย ส่วนนายกฯ ปลดผอ.สำนักพุทธฯ ตั้งคนดีเอสไอนั่งแทน
ชายคนที่ปีนขึ้นไปบนเสาส่งโทรศัพท์เพื่อประท้วงให้ยกเลิกม.44 กับธรรมกาย ได้ผูกคอฆ่าตัวตายแล้ว ก่อนหน้านี้ คสช. ปลดนายพนม ศรศิลป์ พ้นผอ.สำนักงานพุทธศาสนา และให้ พตท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ทำหน้าที่แทน ขณะที่โฆษกรัฐบาลย้ำใช้ม.44 เพราะพระสงฆ์ที่กระทำความผิดเป็นอาชญากรแต่ไม่ยอมรับกฎหมาย
มีรายงานว่าชายผู้เสียชีวิตอายุประมาณ 60 ปี โดยเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (25 ก.พ.) เขาได้ปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ขนาดความสูงราว 30 เมตร ในบริเวณชุมสายโทรศัพท์คลองหลวง ที่อยู่ด้านหลังตลาดกลางคลองหลวง โดยเขาได้เขียนข้อความลงบนกระดาษขนาดใหญ่มีใจความว่า "ขอความเมตตากรุณายกเลิกมาตรา 44 หากทำไม่ได้ภายในเวลา 21.00 น. เก็บศพได้เลย"
ต่อมาเวลา 21.00 น. ชายคนดังกล่าวได้ปีนลงมาถึงเกือบกลางเสา ต่อมาได้ใช้เชือกผูกคอตนเองและทิ้งตัวลงมาจนเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือนำร่างลงมาด้านล่างและนำส่งโรงพยาบาลแล้ว
พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ชายคนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย แต่เป็นความคิดส่วนตัว และทางวัดไม่สนับสนุนวิธีการดังกล่าว
ในวันเดียวกันนี้ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามม.44 ปลดนายพนม ศรศิลป์ พ้นตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และให้ดํารงตําแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตรวจราชการหรือปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย คำสั่งตามอำนาจในม.44 นี้ แต่งตั้งให้พตท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการสํานักคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทน
ก่อนหน้านี้ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงเหตุผลที่คสช.ต้องใช้มาตรา 44 ในการควบคุมวัดพระธรรมกายว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองหรือศาสนา แต่เป็นเรื่องของพระสงฆ์ที่กระทำความผิดเป็นอาชญากรแต่ไม่ยอมรับกฎหมาย และยังพยายามนำเรื่องของตนไปผูกโยงกับศาสนา เพื่อสร้างกระแสปลุกระดมมวลชนให้ออกมาปกป้องตนเอง และกดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้สามารถเข้าจับกุมตัวในวัดได้