ธรรมกาย “ยอมงอ” ไม่ “ยอมหัก” เสนอ “คนกลาง” ดูแลค้นวัด

พระรูปสำคัญของวัดพระธรรมกายเริ่มทยอยเข้ากระบวนการทางกฎหมาย ระบุ พร้อมให้ความร่วมมือดีเอสไอในการเข้าตรวจค้น แต่ต้องมี "คนกลาง" ร่วม เพราะต้องการให้จบโดยสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้าวันนี้ (9 มี.ค.) พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อหาตามที่ศาลอาญา อนุมัติหมายจับ 2 ข้อหาที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ ความผิดตาม ม.116

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยหลังการสอบปากคำว่าพระสนิทวงศ์ให้การรับในข้อเท็จจริง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยได้ซักถามพระสนิทวงศ์ในเรื่องหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรของวัด และประเด็นความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของวัด ที่ได้รับคำยืนยันจากพระสนิทวงศ์ ว่า มีเพียง 197 ไร่ ส่วนอีกกว่า 2,000 ไร่ อยู่ในความครอบครองของมูลนิธิวัดพระธรรมกาย

กรุงเทพธุรกิจอ้าง พล.ต.อ.ศรีวราห์ อีกว่า การสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น โดยหลังจากสอบปากคำและแจ้งข้อหาแล้ว จะนำตัวพระสนิทวงศ์ ไปขออำนาจศาล เพื่อฝากขังต่อไป โดยท้ายคำร้องสำนวน พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง

ด้านพระภาสุระ ทนฺตมโน หัวหน้ากององค์กรระหว่างประเทศ สำนักต่างประเทศ ซึ่งเป็นพระ 1 ใน 14 รูปของวัดพระธรรมกาย ที่ถูกเรียกให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ กล่าวกับบีบีซีไทยว่าได้ไปรายงานตัวต่ออัยการแล้ว หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอไปร้องทุกข์ต่อตำรวจว่าตนขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามมาตรา 44 ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557

ซึ่งหลังจากนี้จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าอัยการจะส่งเรื่องฟ้องศาลต่อไปหรือไม่

พระภาสุระเปิดเผยว่า การที่ตนไปพบอัยการและพระสนิทวงศ์เข้ามอบตัว รวมทั้งพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) รักษาการเจ้าอาวาสและพระธัมมชโยอดีตเจ้าอาวาสได้ถูกถอดสมณศักดิ์ไปแล้วนั้น ไม่ได้หมายความว่าวัดได้ยอมปรับเปลี่ยนท่าที เพราะที่ผ่านมาพระในวัดไม่ได้ต้านทานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และพยายามจะเข้ากระบวนการมาโดยตลอดแต่เห็นว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่มีความตั้งใจจะดำเนินการโดยข้ามขั้นตอนที่ถูกต้อง

หัวหน้ากององค์กรระหว่างประเทศ วัดพระธรรมกาย ตอบคำถามเกี่ยวกับพระธัมมชโยว่าไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน และไม่ได้พบมาเป็นเวลานาน "เจอก็ไม่เคยเจอ และไม่ได้ต้องการรู้ว่าอยู่ที่ไหน"

ด้านบุคคลใกล้ชิดวัดพระธรรมกายเปิดเผยกับบีบีซีไทยว่าขณะนี้ฝ่ายบริหารของวัดกำลังเจรจากับดีเอสไอ ในเรื่องการเข้าตรวจค้นวัดอีกครั้ง โดยทางวัดและญาติโยมที่ยังอยู่ในวัดกว่า 2 หมื่นคนนั้น ไม่วางใจดีเอสไอ และเห็นว่าหากจะมีการตรวจค้นจะต้องมีบุคคลกลาง เช่นพระในสายปกครองเข้ามาเป็นคนกลางร่วมเป็นพยานในการตรวจค้นด้วย

แหล่งข่าวบอกด้วยว่าขณะนี้เสบียงอาหารในวัดเริ่มร่อยหรอและญาติโยมบางส่วนมีอาการเจ็บป่วย ทุกฝ่ายจึงต้องการให้เรื่องจบลงโดยสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาพระและลูกศิษย์วัดพระธรรมกายได้เผชิญหน้ากับทหารที่เข้าควบคุมพื้นที่แต่ไม่ได้เกิดเหตุร้ายแรง