เตรียมประมูล 2 แหล่งก๊าซธรรมชาติ ธ.ค.นี้ ไม่รอบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ

รมว.พลังงาน เผยเตรียมประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ "บงกช-เอราวัณ" ในเดือน ธ.ค.นี้ ไม่รอตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ว่า กระทรวงพลังงานได้เตรียมออกกฎกระทรวง จำนวน 5 ฉบับ และประกาศอีก 1 ฉบับ ที่ทำควบคู่ไปกับร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับแหล่งก๊าซธรรมชาติ ได้แก่แหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ ที่จะทยอยหมดสัมปทานไปในปี 2565 และปี 2566 ตามลำดับ โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ภายในเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในเดือน ธ.ค. ของปีนี้ เนื่องจากการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติดังกล่าว จะต้องทำล่วงหน้าก่อนหมดสัมปทาน 5 ปี

"สำหรับการประมูลจะเป็นระบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสัมปทาน แบ่งปันผลผลิต หรือจ้างสำรวจและผลิต แต่ขั้นต้นคิดว่าน่าจะนำระบบแบ่งปันผลผลิตมาใช้" พล.อ.อนันตพรกล่าว

รมว.พลังงานยังเปิดเผยว่า ในร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ไม่ได้บอกให้รอการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ เพราะหากรอให้สัมปทานหมดอายุ อาจจะทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานอาจจะให้หน่วยงานอื่นที่มีความเป็นกลาง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้ามาเป็นหน่วยงานหลักในการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม. ตัดสินใจ

"การจะจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติต้องออกเป็นกฎหมายขึ้นมารองรับอีกฉบับ" พล.อ.อนันตพรกล่าว

สำหรับร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ที่ สนช. มีมติเห็นชอบให้ใช้บังคับเป็นกฎหมาย มีการตัดมาตรา 10/1 ว่าด้วยการจัดตั้ง "บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ" ออกจากเนื้อหา และโยกไปใส่ไว้ในข้อสังเกตแทน โดยระบุว่าให้ ครม. จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาภายใน 60 วัน และให้ระยะเวลาในการศึกษาไม่เกิน 1 ปี