ทักษิณยื่นอุทธรณ์ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้านแล้ว

เจ้าหน้าที่สรรพากรนำหนังสือแจ้งประเมินภาษีขายหุ้นชินคอร์ปไปติดไว้หน้าบ้านนายทักษิณ

ที่มาของภาพ, Wasawat Lukharang/BBC Thai

คำบรรยายภาพ, เจ้าหน้าที่สรรพากรนำหนังสือแจ้งประเมินภาษีขายหุ้นชินคอร์ป ไปติดไว้หน้าบ้านนายทักษิณ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ยื่นอุทธรณ์ภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้านแล้ว กรมสรรพากรมองโอกาสชนะคดีแค่ 50%

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นอุทธรณ์การประเมินภาษีเพื่อเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป เมื่อปี 2549 รวมเป็นเงินกว่า 17,629 ล้านบาทแล้ว หลังถูกเรียกประเมินเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าอยู่ในกรอบระยะเวลา 30 วันตามกฎหมาย

จำนวนภาษีขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อปี 2549 ที่นายทักษิณถูกเรียกเก็บคือ 17,629 ล้านบาท

ที่มาของภาพ, Wasawat Lukharang/BBC Thai

คำบรรยายภาพ, จำนวนภาษีขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อปี 2549 ที่นายทักษิณถูกเรียกเก็บคือ 17,629 ล้านบาท

เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ยอมรับว่า ทีมกฎหมายของนายทักษิณได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา

เว็บไซต์เดียวกันยังรายงานความเห็นของแหล่งข่าวภายในกรมสรรพากร ที่ว่า คดีนี้มีโอกาสชนะหรือแพ้ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ ต่อ 50 เปอร์เซ็นต์ "เนื่องจากการใช้มาตรา 61 แห่งประมวลรัษฎากรมาแจ้งประเมินภาษีตัวแทน และตัวการ ไม่เคยปรากฎมาก่อน อีกทั้งไม่เคยมีคำพิพากษาของศาลในอดีตรองรับ"

ปัจจุบัน นายทักษิณยังอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับในคดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี

ที่มาของภาพ, Chumsak Kanoknan/Getty Images

คำบรรยายภาพ, ปัจจุบัน นายทักษิณยังอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับในคดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี

ด้านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ระบุว่า หลังจากรับหนังสืออุทธรณ์จากนายทักษิณแล้ว กรมสรรพากรจะตั้งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากกรมสรรพากรและบุคคลภายนอก เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เสียภาษี

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของนายทักษิณ กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข่าว แต่เรื่องรายละเอียดของคดี ต้องไปถามจากทีมทนายความ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุว่า การเรียกเก็บภาษีครั้งนี้ ทำได้เพราะใช้ "อภินิหารทางกฎหมาย"

ที่มาของภาพ, Royal Thai Government

คำบรรยายภาพ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุว่า การเรียกเก็บภาษีครั้งนี้ ทำได้เพราะใช้ "อภินิหารทางกฎหมาย"
line

เส้นทางเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปจากทักษิณ

  • 23 ม.ค.2549 นายทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกองทุนเทมาเส็ก จำนวน 1,487 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท รวมเป็นเงินกว่า 73,271 ล้านบาท หลังซื้อมาจากบริษัท แอมเพิ้ลรัช จำกัด ในราคาเพียงหุ้นละ 1 บาท
  • หน่วยงานรัฐเคยเห็นต่างเรื่อง "อายุความ" โดยกรมสรรพากรมองว่า หมดไปตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2555 เนื่องจากกรณีที่ผู้เสียภาษีมาเสียภาษีเงินได้ไม่ครบถ้วน ประมวลรัษฎากรให้กรมสรรพากรออกหมายเรียกมาไต่สวนภายใน 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยมีการออกหมายเรียกนายทักษิณมาไต่สวนแต่อย่างใด
  • 13 มี.ค.2560 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม และเห็นว่ากรมสรรพากรเคยออกหมายเรียกนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา นอมินีที่ถือหุ้นแทนนายทักษิณ มาไต่สวนเมื่อปี 2555 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820 - 821 ให้ถือว่าเคยออกหมายเรียกนายทักษิณมาไต่สวนแล้ว และทำให้อายุความขยายมาจนถึง 31 มี.ค. 2560
  • นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังสามารถประเมินภาษีนายทักษิณได้ โดยไม่ต้องออกหมายเรียกมาไต่สวนอีก และทันทีที่ส่งหนังสือประเมินให้นายทักษิณ "อายุความ" ก็จะหยุดลง
  • พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างคำพูดของนายวิษณุที่รายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2560 ว่าเรื่องนี้ถือเป็น "อภินิหารทางกฎหมาย"
  • แม้ต่อมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย จะโต้แย้งว่า ศาลภาษีอากรกลางเคยสั่งเพิกถอนหมายเรียกนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทามาไต่สวน ทำให้อายุความสิ้นสุดลงไปนานแล้ว ก็ตาม
  • 28 มี.ค.2560 เจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรนำหนังสือแจ้งประเมินภาษีการขายหุ้นชินคอร์ปของนายทักษิณ รวมเป็นเงินกว่า 17,629 ล้านบาท ไปติดไว้บริเวณหน้าบ้านพักของนายทักษิณ