เผยกองเรือโจมตีสหรัฐฯยังไปไม่ถึงคาบสมุทรเกาหลี

กองเรือโจมตี คาร์ล วินสัน ของสหรัฐฯ

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, กองเรือโจมตี คาร์ล วินสัน ของสหรัฐฯ

ภาพถ่ายที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 เม.ย.) แสดงให้เห็นว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกองเรือโจมตี คาร์ล วินสัน ที่สหรัฐฯอ้างว่าได้ส่งไปประจำการในคาบสมุทรเกาหลีตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ยังคงอยู่ในน่านน้ำบริเวณช่องแคบซุนดาของอินโดนีเซียเมื่อวันเสาร์ที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นเวลา 4 วันหลังจากที่มีการประกาศข่าวดังกล่าว

รายละเอียดในเว็บไซต์ของกองทัพเรือสหรัฐฯระบุว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน ได้ออกเดินทางจากท่าเรือของสิงคโปร์เมื่อวันที่ 9 เม.ย. เพื่อไปร่วมซ้อมรบกับกองกำลังออสเตรเลียตามกำหนดการเดิม และขณะนี้กำลังเดินทางกลับโดยข้ามช่องแคบซุนดาของอินโดนีเซีย ซึ่งกั้นกลางระหว่างเกาะชวาและเกาะสุมาตรา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯผู้หนึ่งชี้แจงว่า ขณะนี้กองเรือโจมตีดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลีตามที่ได้รับคำสั่งแล้ว และคาดว่าจะเดินทางไปถึงในสัปดาห์หน้า

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวการส่งกองเรือโจมตีไปยังคาบสมุทรเกาหลีคนแรก ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชน และขอให้สอบถามไปยังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแทน

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเพิ่มเติมว่า ความผิดพลาดดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากกองบัญชาการแปซิฟิกของกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่สามารถยกเลิกปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับออสเตรเลียเพื่อเดินทางไปคาบสมุทรเกาหลีในทันทีที่ได้รับคำสั่งได้ เนื่องจากการซ้อมรบร่วมครั้งนี้มีความสำคัญในระดับสูง โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการลงทุนและเตรียมการมานาน เมื่อได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนแผนการอย่างกะทันหัน ทางกองบัญชาการแปซิฟิกจึงเพียงแจ้งกลับไปว่า ได้ยกเลิกกำหนดเข้าประจำการที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ไม่ได้แจ้งว่ายกเลิกกำหนดการซ้อมรบแต่อย่างใด

กองทัพเกาหลีเหนือสวนสนามแสดงแสนยานุภาพก่อนการยิงขีปนาวุธที่ล้มเหลวหนึ่งวัน

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, กองทัพเกาหลีเหนือสวนสนามแสดงแสนยานุภาพก่อนการยิงขีปนาวุธที่ล้มเหลวหนึ่งวัน

ข่าวที่สหรัฐฯมีคำสั่งให้กองเรือโจมตีมุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี ยกระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ในภูมิภาคให้พุ่งสูงขึ้นในทันที โดยล่าสุดนายเจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ เผยว่าขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบแต่ล้มเหลวครั้งล่าสุดนั้น ไม่ใช่ขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำยั่วยุ ซึ่งในขณะนี้สหรัฐฯกำลังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจีนเพื่อควบคุมสถานการณ์และทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน รายงานว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณายิงทำลายขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือจะยิงทดสอบในครั้งต่อไป เพื่อแสดงแสนยานุภาพให้ประจักษ์ ทั้งยังพิจารณาจะออกมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้น ซึ่งรวมถึงการห้ามส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ สกัดเรือสินค้าเกาหลีเหนือทุกลำ และลงโทษธนาคารจีนที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ