รมต.ตปท.รัสเซีย ชื่นชมปธน.ทรัมป์หลังหารือ

นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การหารือประเด็นซีเรีย เป็นไปอย่างสร้างสรรค์

ที่มาของภาพ, EPA

คำบรรยายภาพ, นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การหารือประเด็นซีเรีย เป็นไปอย่างสร้างสรรค์

นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวหลังจากพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวว่า รัฐบาลรัสเซียและสหรัฐฯ กำลังมองหาหนทาง 'กำจัดสิ่งกีดขวางทั้งหมด' เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

การหารือที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (10 พ.ค.) เน้นไปที่การปรับปรุงความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสซีย และประเด็นซีเรีย แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ได้ตั้งคำถามถึงจังหวะเวลาในการหารือ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งปลดนายเจมส์ คอมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ที่เป็นผู้รับผิดชอบการสอบสวนข้อกล่าวหาที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา

นายลาฟรอฟ ดูมีท่าทีหงุดหงิดกับทำถามของนักข่าว เกี่ยวกับกรณีสั่งปลดนายคอมีย์ และได้กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยใช้คำว่า 'เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น'

ประเด็นที่ถูกนำมาหารือ รวมถึงแผนการจัดตั้ง 'เซฟโซน' ในซีเรีย ซึ่งนายลาฟรอฟ กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์ และนายทิลเลอร์สัน ว่าทำให้การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับแผนของรัสเซียในแนวคิดกว้าง ๆ แต่ได้แสดงความกังวล ที่รัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัดซาดของซีเรีย และบทบาทของอิหร่าน รวมถึงกลุ่มที่เป็นตัวแทนของอิหร่านในประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ กล่าวว่า จำเป็นต้องดูรายละเอียดก่อนว่า ฝ่ายใดจะเป็นผู้ดูแลโซนที่เสนอมาบ้าง และจะมีวิธีการบังคับใช้อย่างไร

จังหวะเวลาการหารือ ระหว่างนายลาฟรอฟ (จากซ้ายไปขวา) ประธานาธิบดีทรัมป์ และนายเซอร์เกย์ คิสเซิลยัค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจ

ที่มาของภาพ, EPA

คำบรรยายภาพ, จังหวะเวลาการหารือ ระหว่างนายลาฟรอฟ (จากซ้ายไปขวา) ประธานาธิบดีทรัมป์ และนายเซอร์เกย์ คิสเซิลยัค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจ

'เปิดเผย แต่ยังมีข้อกังขา'

บทวิเคราห์ โดย บาร์บาร่า เพลท-อัชเชอร์

ผู้สื่อข่าวบีบีซี ประจำกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

ทั้งประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เคยกล่าวถึงการเปิดรับแนวคิดโดยรวมของการจัดตั้งเซฟโซนในซีเรีย โดยนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ใช้คำว่า 'โซนรักษาสเถียรภาพ' ซึ่งจะช่วยให้สามารถฟื้นฟูความมั่นคงและอำนาจการบริหารประเทศของหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ผู้ลี้ภัยเดินทางกลับไปได้

แนวคิดนี้ นายลาฟรอฟ กล่าวว่า ที่จริงเกิดขึ้นจากการหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ และนายทิลเลอร์สัน ซึ่งเขาได้นำเสนอต่อ ในที่ประชุมข้อตกลงหยุดยิงที่กรุงอัสตาน่า

ส่วนในการประชุมที่ทำเนียบขาว เป็นการหารือในรายละเอียดของความร่วมมือโดยเฉพาะการจัดตั้งและบังคับใช้เขตเซฟโซนทั้ง 4 จุด ซึ่งนายลาฟรอฟคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะมีข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะจุดที่อยู่บริเวณชายแดนซีเรีย อิสราเอล และจอร์แดน

ด้านสหรัฐฯ แม้จะต้อนรับแผนที่อาจช่วยลดความรุนแรงและสามารถใช้เป็นเวทีเพื่อหาข้อยุติทางการเมืองได้ แต่ก็ยังต่อต้านการมีส่วนร่วมของอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่รับรองข้อตกลงที่กรุงอัสตานา

สหรัฐฯ ยังมีความแคลงใจอยู่ว่า แผนนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากความพยายามครั้งที่ผ่านมาทั้งหมดล้มเหลว และสหรัฐฯ ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โดยนานเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมกล่าวว่า ขณะนี้กำลังศึกษาข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งเซฟโซนอย่างใกล้ชิด แต่ยังต้องการรายละเอียดอีกมากในแง่ของวิธีดำเนินการ

นายลาฟรอฟ (ซ้าย) และนายทิลเลอร์สัน

ที่มาของภาพ, Alexander Shcherbak\TASS/Getty Images

นายลาฟรอฟ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า 'ผมขอบอกว่า การพูดคุยเท่าที่เป็นมาตอนนี้ ปราศจากคตินิยมที่พบได้ในสมัยของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบารัคโอบามา ทั้งนายทรัมป์ และรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลนี้ อย่างที่ผมได้รับทราบในวันนี้อีกครั้ง ว่าเป็นผู้ที่มีความเป็นนักธุรกิจ และพวกเขาต้องการบรรลุข้อตกลง ซึ่งเป้าหมายของทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีปูติน คือการบรรลุผลที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาต่าง ๆ รวมถึงเรื่องในเวทีสากลด้วย'

นายลาฟรอฟ พบหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ในห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในของทำเนียบขาว จึงนับเป็นคำเชิญที่พบไม่ได้บ่อยนักในการต้อนรับตัวแทนรัฐบาลจากต่างประเทศที่ไม่ใช่ระดับผู้นำ

สื่อของสหรัฐฯ ถูกกันให้รออยู่นอกห้อง โดยภาพที่ได้มา ถ่ายโดยช่างภาพของรัฐบาลรัสเซีย

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า 'เป็นการประชุมที่ดีมาก' โดยมีความคืบหน้าในประเด็นซีเรีย และกล่าวเสริมว่า 'เราจะหยุดยั้งการเข่นฆ่า และการเสียชีวิต'

ส่วนก่อนหน้านั้น ตอนที่นายลาฟรอฟ เดินทางไปพบกับนายทิลเลอร์สัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ เขายังกล่าวติดตลก เกี่ยวกับการสั่งปลดนายคอมีย์ ท่ามกลางเสียงของนักข่าวที่ตะโกนถามเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า 'เขาโดนปลดหรือ ล้อเล่นใช่ไหม คุณล้อผมเล่นใช่ไหม'