พล.อ.ประยุทธ์ : ไม่มีรัฐบาลบ้าที่ไหนวางระเบิด

ทหารคุ้มกันบริเวณด้านหน้า รพ.พระมงกุฎเกล้า หลังเหตุระเบิดในวันครบรอบ 3 ปี รัฐประหาร (22 พ.ค.)

ที่มาของภาพ, LILLIAN SUWANRUMPHA/AFP/GETTY IMAGES

คำบรรยายภาพ, ทหารคุ้มกันบริเวณด้านหน้า รพ.พระมงกุฎเกล้า หลังเหตุระเบิดในวันครบรอบ 3 ปี รัฐประหาร (22 พ.ค.)

นายกฯ ไม่โยงระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ เกี่ยวข้อง 3 ปี คสช. ขออย่าบิดเบือนว่ารัฐบาลเป็นคนทำ เว้นแต่คนที่อยากเป็นรัฐบาล ไม่เชื่อก่อเหตุหน้าห้องรับรองวงษ์สุวรรณเพื่อต้องการ "ท้าทาย" รัฐบาล ด้านแม่ทัพภาคที่ 1 เผยกลุ่มผู้ต้องสงสัยมีหลายกลุ่มทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังไม่ดำเนินการ รอหลักฐานชัดก่อน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หลังเกิดเหตุระเบิดวานนี้ (22 พ.ค.) แต่ยอมรับว่าอาจมีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นพื้นที่สาธารณะ อาจทำให้ความเข้มงวดมีน้อย พร้อมสั่งการให้มีการทบทวนพื้นที่สาธารณะที่ไม่ใช่เพียงโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว

นายกฯ ยังกล่าวถึงการสอบสวนหาผู้ก่อเหตุว่า "อย่าให้ไปบิดเบือนว่ารัฐบาลเป็นคนทำเอง ไม่มีรัฐบาลบ้าที่ไหนทำแบบนั้นหรอก เว้นแต่คนที่อยากเป็นรัฐบาลแล้วคิดจะทำ" พร้อมปฏิเสธว่าการก่อเหตุระเบิดที่หน้าห้องรับรองวงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นนามสกุลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นการท้าทายรัฐบาล และไม่ใช่การโจมตีเพราะไม่ได้อยู่ในภาวะสู้รบ

ด้าน พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ทุกหน่วยของกองทัพภาคที่ 1 เตรียมการเรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วจึงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะผู้ที่จ้องลงมือ ก็พยายามหาโอกาส นอกจากนี้ยังขอให้ประณามผู้ที่อยู่เบื้องหลังและสนับสนุนการก่อเหตุ และชี้ว่าไม่ว่าจะลงมือด้วยวิธีใดเป็นสิ่งที่โลกนี้รับไม่ได้

ส่วนติดตามเบาะแสผู้ก่อเหตุ แม่ทัพภาคที่ 1 บอกว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยมีหลายกลุ่ม ทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ทั้งนี้หากหลักฐานชัดเจนเพียงพอ ก็พร้อมจะนำตัวมาสอบสวน

"กลุ่มผู้ต้องสงสัยมีหลายกลุ่ม และทางนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร และ ผบ.ทบ. มีความใจเย็นมากแล้ว ที่ไม่ดำเนินการต่อกลุ่มต่างๆ ที่ต้องสงสัย ซึ่งหน่วยกำลังมีความพร้อมที่จะเข้าดำเนินการต่อกลุ่มผู้ต้องสงสัยทันที หากมีการสั่งการมาให้ดำเนินการกับกลุ่มผู้ต้องสงสัย ผมและลูกน้องของผมทุกคนพร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่" พล.ท.อภิรัชต์กล่าว

บรรยากาศหลังเหตุระเบิดที่ รพ.มงกุฎเกล้า วันที่ 22 พ.ค.2560

ที่มาของภาพ, Dario Pignatelli/Getty Images

ผบ.ตร.ย้ำคำเดิมระเบิด 3 แห่ง ใน กทม.ฝีมือกลุ่มเดียวกัน

มติชนออนไลน์รายงานวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยังคงย้ำถึงข้อมูลการสอบสวนเช่นเดียวกับที่ให้ข่าววานนี้ว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดที่กองสลากฯ เก่า โรงละครแห่งชาติ และรพ.พระมงกุฎเกล้า เป็นกลุ่มเดียวกัน ผู้ชำนาญการด้านระเบิดชี้ว่าซิกเนเจอร์การทำระเบิดเป็นคนคนเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสืบสวน

ตามหาภาพกล้องวงจรปิด

มติชนออนไลน์ยังรายงานคำพูดของ ผบ.ตร. กรณีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุใช้ได้หรือไม่ ต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อน

ด้านเว็บไซต์ไทยพีบีเอส รายงานว่า พ.ท.นายแพทย์สุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม รอง ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎเกล้า ยอมรับว่ามีกล้องวงจรปิดบางจุดเสียจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเสียตรงจุดที่เกิดเหตุหรือไม่ต้องรอตรวจสอบ และได้ส่งหลักฐานจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหมดแล้ว

อังกฤษออกคำแนะนำเดินทางพลเมืองในไทยหลังเหตุระเบิด

สำนักงานการต่างประเทศและเครือจักรภพ (เอฟซีโอ) ได้เพิ่มเติมคำแนะนำการเดินทางท่องเที่ยวแก่พลเมืองชาวอังกฤษ หลังเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยขอให้พลเมืองชาวอังกฤษปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทางการไทยอย่างเคร่งครัด หากต้องเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าว

หลายองค์กรประณามวางระเบิดในโรงพยาบาล

แพทยสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ประณามการวางระเบิดใน รพ.พระมงกุฎเกล้า ชี้เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง พร้อมเรียกร้องให้รัฐหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

นายแบรด อดัมส์ ผอ.ภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์ ย้ำว่าการสอบสวนจะต้องดำเนินการทันที อย่างไม่ลำเอียง และโปร่งใส ด้านแอมเนสตี้ฯ ชี้ว่า การโจมตีโรงพยาบาลเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่สุด เพราะถือเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ว่าในความขัดแย้งหรือการสู้รบใดๆ