"อุดมเดช" ชี้บีอาร์เอ็นเกี่ยวข้องเหตุปล้นเต็นท์รถมือสองที่สงขลา

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมระบุกลุ่มบีอาร์เอ็นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุปล้นเต็นท์รถมือสองที่สงขลา ยอมรับคาดไม่ถึง ด้าน กอ.รมน.บูรณาการกำลังในพื้นที่เพิ่มอีก หาดใหญ่ยกระดับรักษาความปลอดภัยสูงสุด

พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายบุกปล้นเต็นท์รถมือสอง ที่จังหวัดสงขลา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่า เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิม ๆ อย่างบีอาร์เอ็น ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่อยู่นอกกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม บอกกับผู้สื่อข่าวว่าวิธีการก่อเหตุด้วยการปล้นเต็นท์รถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่คาดไม่ถึง และยอมรับว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ในบางพื้นที่มีช่องโหว่ จึงทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถหาจังหวะลงมือได้เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของสงขลามีพื้นที่กว้าง

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความ "อหังการ" ของคนร้าย อย่างไรก็ดีขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถชี้ตัวได้แล้ว 4 คน

ก่อนหน้านี้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดแถลงข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยกล่าวว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ และผู้ก่อเหตุที่ถูกสังหารเป็นแนวร่วมในพื้นที่

พ.อ.ปราโมทย์ บอกกับบีบีซีไทยว่าเชื่อว่าผู้บัญชาการระดับสูงได้หารือกันจนแล้วจึงระบุได้ว่าผู้ลงมือมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น "ถามว่าเหตุที่เกิดในภาคใต้ที่ผ่านมาใช่บีอาร์เอ็นหรือไม่ล่ะ"

พ.อ.ปราโมทย์ ให้รายละเอียดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเมื่อวานนี้มีจำนวน 10 คนแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ ส่วนรถยนต์ที่ถูกปล้นมีทั้งสิ้น 7 คัน คันแรกเป็นของสามีภรรยาชาวบ้านในพื้นที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ซึ่งคนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุปล้นรถยนต์มือสองที่เต๊นท์รถในอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลาอีก 6 คัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ที่ถูกปล้นแล้ว 6 คัน

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่าในการปฏิบัติการเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ยิงสกัดคนร้ายที่ขับรถยนต์แหกด่านตรวจในพื้นที่เสียชีวิต โดยคนร้ายคือนายลูอาซัน อาแว อายุ 27 ปี ชาวอำเภอเมือง ปัตตานี เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายลูอาซันเป็นแนวร่วมในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้พบอาวุธปืนครกหนึ่งกระบอก

นอกจากผู้ก่อเหตุแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานยังมีผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งคนเป็นพนักงานวัย 19 ปี ของเต๊นท์รถที่ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน และยิง โดยพนักงานคนดังกล่าวได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

"เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนร้ายพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ และการปล้นรถจากเต๊นท์มือสองถือว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก" พ.อ.ปราโมทย์ ระบุ และกล่าวด้วยว่านับจากนี้จะบูรณาการการใช้กำลังทั้งภาคประชาชนและกำลังประจำถิ่นเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ให้มากขึ้น

ทั้งนี้ มีรายงานว่าขณะนี้ได้มีการประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแผนพิทักษ์เมืองหาดใหญ่ขั้นสูงสุดระดับ 3 โดยมีการผสานกำลังฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการตรวจค้นเป้าหมาย ตั้งด่านตรวจเส้นทางหลักและรองที่จะเข้าเมืองหาดใหญ่กับมีการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ 24 ชั่วโมง รวมทั้งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ได้พบรถคันสุดท้ายที่ถูกปล้นไปแล้ว

ฐานข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Incident Database-DSID) พบว่า ในระหว่างเดือนมกราคมปี 2547 ถึงเดือนเมษายน 2560 มีเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้รวมทั้งสิ้น 19,279 เหตุการณ์ ในช่วงเวลาดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 6,544 ราย มีผู้บาดเจ็บ 12,963 ราย สรุปได้ว่าในรอบ 13 ปี ระหว่างปี 2547-2559 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวม 19,507 ราย