ชาวบ้านอีสาน ร้องผลกระทบนโยบายทวงคืนป่า
- นันท์ชนก วงษ์สมุทร์
- ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย
ชาวบ้านที่ทำกินในภาคอีสานออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิก "นโยบายทวงคืนผืนป่า" ทั่วประเทศ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้
เครือข่ายชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ภาคอีสาน ออกแถลงการณ์ยกเลิกมาตรการทวงคืนผืนป่าที่สร้างผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั้งหมดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ทำการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น
แถลงการณ์ดังกล่าวยังเรียกร้องให้ภาครัฐยุติการดำเนินการที่กระทบสิทธิกับชาวบ้านในทุกพื้นที่ และให้ชาวบ้านสามารถทำประโยชน์ที่ดินโดยปกติสุข ในกรณีที่มีการแจ้งความ ดำเนินคดี หรือมีการตัดฟันทำลายอาสิน (พืชไร่ ผลิตผลทางการเกษตร) ไปแล้ว ให้มีมาตรการเยียวยา และชะลอการดำเนินการด้วยความเป็นธรรม
นโยบายดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากคำสั่ง คสช. ที่ 64/2557 ว่าด้วยเรื่อง การปราบปรามและการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 ที่พูดถึงกรณีคนจน ผู้ยากไร้ ให้ดำเนินการโดยไม่ให้เกิดผลกระทบ ส่วนคนรวย นายทุน ผู้มีอิทธิพล ให้ดำเนินคดีทุกราย
นางอรนุช ผลภิญโญ กรรมการบริหารเครือข่ายปฏิรูปดินภาคอีสาน กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านในภาคอีสาน ได้แก่ การติดป้ายขับไล่ออกจากพื้นที่ การตัดฟันทำลายผลผลิต และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และบังคับให้เซ็นยินยอมออกจากพื้นที่
"ข้อมูลที่เครือข่ายมีอยู่พบว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นคนจน" นางอรนุชกล่าว
นายไพโรจน์ วงงาน เกษตรกร ต.วังฒะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ในชุมชนมีการข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่อุทยานให้เซ็นยินยอมคืนพื้นที่ให้แก่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งชาวบ้านก็ต้องยอมเซ็นไปก่อน เนื่องจากกลัว เพราะเจ้าหน้าที่มากันเยอะและประกบตัวต่อตัว รวมถึงมีประชาชนหลายรายที่ทำกินก่อนที่จะมีการประกาศตั้งพื้นที่อุทยานเมื่อปี 2535 แต่ก็ถูกไล่ออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ สำนักข่าวไทยรายงานว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เปิดเผยว่า หลังจาก คสช. ประกาศแผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ป่าไม้จากที่มีอยู่ประมาณ 102 ล้านไร่เป็น 128 ล้านไร่ในระยะเวลา 10 ปี ปัจจุบันสามารถยึดคืนผืนป่าได้แล้วกว่า 500,000 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินคดีอีกจำนวนหนึ่ง
ผศ.ดร.อลงกรณ์ อรรคแสง อาจารย์ประจำวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า รัฐบาลต้องยับยั้งหรือชะลอนโยบายทวงคืนผืนป่า เนื่องจากการทวงแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนำมาซึ่งผลกระทบหลายอย่าง รวมถึงขาดการมีส่วนร่วมชาวบ้าน
"ผมสะเทือนใจรุนแรงตั้งแต่มีภาพข่าว เห็นพี่น้องนั่งร้องไห้จากการที่ป่าไม้เข้าไปตามประกาศ คสช. … ตัวทหารเองมีความพยายามที่จะบอกว่าปฏิรูปประเทศ จะคืนความสุข แต่สิ่งที่เราเห็นมันไม่เกิดขึ้น เกิดปัญหาขึ้นมากมาย เขาอยากได้ตัวเลขมาโชว์โดยไม่สนใจว่าพี่น้องเดือดร้อนขนาดไหน" ผศ.ดร.อลงกรณ์ กล่าว "การที่ออกมาพูดอย่างภูมิใจว่าทวงคืนผืนป่า เป็นการทวงบนคราบน้ำตาและความทุกข์ยาก"
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวกับบีบีซีไทยว่า เป้าหมายของนโยบายทวงคืนผืนป่าคือนายทุนอย่างเดียว ดังนั้น ผู้ยากไร้จะได้รับการยกเว้นตามคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 ยกเว้นผู้ยากไร้ที่เป็นนอมินีนายทุน และที่บุกรุกที่ดินหลังปี 2557
"ยืนยันว่าไม่มีการดำเนินคดี [กับคนจน] แน่นอน อาจจะเป็นการเข้าไปพูดคุย เจรจา ตกลง ว่าคุณยังอยู่ได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ๆ ควบคุม ไม่ใช่ขยายต่อ แต่มีบางพื้นที่ๆ มันล่อแหลมที่อยู่บนยอดเขา เราก็จะใช้วิธีการเจรจาขอคืน"