แรงงานเมียนมาเล่าสภาพการทำงานบนเรือประมงไทย ขณะ ยูเอ็นลงพื้นที่สำรวจสภาพการทำงานของแรงงานข้ามชาติ
เมื่อสองปีก่อน "วิน" จากเมียนมา ถูกขายในราคา 6,000 บาท ให้มาทำงานบนเรือประมงในไทย เขาต้องทำงานวันละ 19 ชั่วโมง บางครั้งในช่วงฤดูที่หาปลาได้มาก ลูกเรือจำนวน 30 คน ไม่ได้พักผ่อนเลย จนกระทั่งเขาเสียแขนซ้ายจากอุบัติเหตุบนเรือในปีนี้
"เป็นชาวประมงในเมียนมา ชีวิตลำบากมาก ผมเลยคิดว่าชีวิตคงจะดีขึ้น ถ้ามาทำงานในประเทศไทย" คุณพ่อลูกสี่วัย 39 ปี กล่าวกับมูลนิธิทอมป์สันรอยเตอร์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติกำลังออกตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ทารุณภายในสัปดาห์นี้ในไทย
"'นายหน้า' ไม่ได้บอกว่าผมจะได้ทำงานอะไร หรือได้ค่าจ้างเท่าไหร่ สุดท้ายผมได้ไปทำงานบนเรือ"
ไทยเป็นประเทศส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่อันดับสามของโลก อุตสาหกรรมประมงจ้างงานมากกว่า 3 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน
อุตสาหกรรมนี้เผชิญกับข้อกล่าวหากระทำทารุณแรงงานมาเป็นเวลานานและกำลังถูกตรวจสอบจากคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติในการลงพื้นที่ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนในภาคธุรกิจต่าง ๆ ของไทยเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารทะเลและประมงด้วย
วิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ศูนย์กลางการประมงที่สำคัญของไทย และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เล่าว่า เขาเสียแขนซ้าย หลังจากติดอยู่ในล้อเลื่อนขณะกำลังดึงอวนขึ้นจากทะเล
นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้กับเขาเพียง 10,000 บาท ซึ่งเขาไม่พอใจ และกำลังร้องเรียนต่อทางการไทยเพื่อขอค่าชดเชยที่สูงขึ้น
ถูกมีดยาวตีหัว
วินกล่าวว่า ก่อนเสียแขน เขาก็รู้สึกว่าได้รับค่าจ้างต่ำเกิน โดยเริ่มจาก 10,000 บาทที่ได้ในเดือนแรก แล้วลดลงมาที่ 4,000 บาท ขณะที่ค่าจ้างรายเดือนขั้นต่ำตามกฎหมายของไทยอยู่ที่ราว 9,000 บาท
"ทุกครั้งที่เราทำอะไรผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เราจะถูกด่าหรือทุบตี ผมเคยถูกตีสองครั้ง ครึ่งหนึ่งเขาใช้มีดยาวตีที่หัวผม" วิน ซึ่งขอไม่ให้ใช้ชื่อเต็ม เพราะกลัวว่าจะส่งผลต่อคดีที่ดำเนินการกับทางการไทย กล่าว
อุตสาหกรรมอาหารทะเลมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของไทย ถูกตรวจสอบมาโดยตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากสื่อและกลุ่มสิทธิมนุษยชนพบว่ามีการใช้แรงงานทาส ค้ามนุษย์ และความรุนแรง บนเรือหาปลา และตามสถานที่แปรรูปอาหารทะเลบนชายฝั่งด้วย
กองทัพซึ่งขึ้นมามีอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2557 พยายามปฏิรูปหลายเรื่อง หลังสหภาพยุโรปขู่ในปี 2558 ว่าจะห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจากไทย ถ้าไม่ทำให้อุตสาหกรรมนี้ใสสะอาด
งานวิจัยขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ในเดือนนี้ระบุว่า นายจ้างปฏิบัติตามกฎใหม่มากขึ้น เช่น การจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำให้แก่ชาวประมง และการทำสัญญา แต่ ILO ก็พบด้วยว่า ยังคงมีการปฏิบัติหลายเรื่องที่เป็นการบังคับใช้แรงงาน แม้ว่ามีแรงกดดันจากบริษัทผู้นำเข้า ให้แก้ปัญหาในอุตสากรรมนี้ รวมถึง สภาพการทำงานที่ละเมิดสิทธิคนงาน และการทำงานล่วงเวลามากเกินไป โดยเฉพาะในหมู่แรงงานต่างด้าวจากกัมพูชา และเมียนมา
จากการสำรวจแรงงานประมง 260 คน ขององค์การยุติธรรมนานาชาติ (International Justice Mission—IJM) ซึ่งทำงานด้านต่อต้านการค้ามนุษย์ เมื่อปีที่แล้ว พบว่า มากกว่าหนึ่งในสามของแรงงานประมงต่างด้าวในไทย เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์
โฆษกจากคณะทำงานของสหประชาชาติด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ระหว่างการเยือนไทย 10 วัน ทางกลุ่มจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักเคลื่อนไหว และแรงงานต่างด้าว วัน เพื่อตรวจสอบว่า มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลไทยใช้ได้ผลหรือไม่
"ปัญหาภาคธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงในภูมิภาคเอเชียด้วย" สุรยา เดวา ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายที่มหาวิทยาซิตี้แห่งฮ่องกง และเป็นหนึ่งในคณะทำงาน กล่าวกับมูลนิธิทอมป์สันรอยเตอร์
"การละเมิดสิทธิมนุษยชน ยกตัวอย่างเช่น ในห่วงโซ่อุปทาน เป็นปัญหาสำคัญ สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างหนึ่งในระดับโลกคือ สิทธิของแรงงานต่างด้าว"
ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในไทย ทางคณะทำงานได้รับมอบหมายให้ โน้มน้าวรัฐบาลไทยให้ออกแผนปฏิบัติการแห่งชาติ จัดการกับปัญหาค้ามนุษย์และทาสยุคใหม่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ อาหารทะเลไปจนถึงภาคการผลิต และการท่องเที่ยว
ดัชนีทาสโลกปี 2016 โดยมูลนิธิวอล์กฟรี (Walk Free Foundation) ประเมินว่ามีผู้ที่ตกอยู่ในสภาวะของการเป็นทาสยุคใหม่ในประเทศไทยราว 425,500 คน
'ผมไม่มีความสุขที่อยู่ที่นี่'
แต่นักเคลื่อนไหวได้เรียกร้องให้คณะทำงานของสหประชาชาติ ดำเนินการมากกว่าแค่การให้คำแนะนำ
"ถ้าสหประชาชาติมาวิจัยและเก็บข้อมูล นั่นก็คงไม่ได้ช่วยอะไรหรอก" ปฏิมา ตั้งปรัชญากูล จากเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานของไทย กล่าว โดยเครือข่ายนี้ทำงานในการช่วยเหลือชาวประมงที่ถูกกระทำทารุณจากการใช้แรงงาน
กลับมาที่จังหวัดสมุทรสาคร เรือหลายลำกำลังกลับเข้าฝั่งในเช้าที่อากาศสดใส และชาวประมงกำลังยุ่งอยู่กับการขนอาหารทะเลที่หามาได้ขึ้นฝั่ง
ผู้หญิงในพื้นที่และแรงงานต่างด้าวหลายคนจากเมียนมา กำลังคัดปลาแยกตามขนาดอยู่เงียบ ๆ ก่อนที่ปลาเหล่านี้จะถูกขนขึ้นรถบรรทุกนำไปส่งตามโรงงานแปรรูปที่อยู่ใกล้เคียง
แต่นี่คือภาพที่วินต้องการจะลืม สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือ เงิดชดเชยจากการที่ต้องสูญเสียแขนและกลับบ้านในเมียนมา
"ผมไม่มีความสุขที่อยู่ที่นี่ อย่างน้อย ถ้าผมกลับบ้าน ผมก็ได้อยู่กับภรรยาและลูก ๆ" เขากล่าว