นายกฯ ตั้ง "สนธยา คุณปลื้ม" เป็นที่ปรึกษาด้านการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แต่งตั้ง "สนธยา คุณปลื้ม" เป็นที่ปรึกษาฯ ด้านการเมือง เพราะต้องการเข้าใจการเมือง "ต้องมีคนที่รู้เรื่องมาให้คำปรึกษา"
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (17 เม.ย.) มีมติแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการเมือง และนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบคำถามนักข่าวที่ถามถึงเหตุผลในการแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้มว่า "เพราะผมก็ไม่รู้ว่าการเมืองมันทำกันมาอย่างไร ดังนั้น จึงต้องรู้บ้าง" และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คุณสมบัติอะไรที่เหมาะสมจึงทำให้มีการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบว่า "สื่อเอาอะไรมาวัดว่าเหมาะสมไม่เหมาะสม สื่อเป็นผู้ประเมินผลหรือไม่"
"ผมจำเป็นต้องมีคนเหล่านี้เข้ามาบ้าง เพื่อมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า เอาคนนี้มาเพื่อประโยชน์อะไรของผม มันไม่ใช่ วันนี้ กำลังจะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้น ผมก็ต้องมีคนที่รู้เรื่องเหล่านี้มาให้คำปรึกษาว่าเป็นอย่างไร" หัวหน้า คสช. กล่าว
เมื่อถามว่า นายสนธยาจะต้องลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่รู้ ต้องไปถามนายสนธยา เขาจะลาออกหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ อย่าเพิ่งไปคิดอะไรล่วงหน้านานไป ถ้าคิดไปนู้นก็ไม่ต้องทำตรงนี้ ก็หยุดอยู่ที่เดิมไม่ต้องทำอะไรไม่ต้องตั้งใครทั้งสิ้น ใครจะว่างตรงไหนก็ว่างไป จะเป็นปลัดกระทรวง อธิบดีก็ช่างมัน"
ส่วนกรณีแต่งตั้งนายอิทธิพล พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า "เจ้ากระทรวงเป็นผู้เสนอ ผมบอกว่าผมไม่รังเกียจนักการเมือง ไม่รังเกียจใครทั้งสิ้น ก็ต้องพิจารณาใครเหมาะสม"
นักข่าวจึงถามต่อว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการสะท้อนอนาคตพรรคพลังชลที่จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "รัฐบาลใคร ยังไม่ตั้งรัฐบาลเลย"
สนธยา:เข้ามาเพื่อผลักดันอีอีซี
ส่วนนายสนธยา เปิดเผยภายหลังได้รับการแต่งตั้งว่า การที่รับตำแหน่งดังกล่าวเพราะคิดว่าจะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ รวมถึงสังคมได้ เป้าหมายที่เข้ามานั้นเพื่อเข้าต้องการผลักดันโครงการเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจะเป็นตัวกลางในการผลักดันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เขากล่าวว่าตนทราบปัญหาของคนในพื้นและทำประโยชน์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ มามาก เมื่อรัฐบาลเห็นตัวเองเป็นคนในพื้นที่ ใกล้ชิดประชาชน ก็พร้อมที่จะรับตำแหน่ง และเชื่อว่าสามารถผลักดันเนื้องานให้เกิดประโยชน์ได้ ส่วนจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมืองใดนั้น ต้องขอดูการประกาศแต่งตั้งที่ชัดเจนก่อน
นายสนธยา ยังระบุถึงกรณีที่หลายฝ่ายสงสัยถึงการรับตำแหน่งครั้งนี้เป็นการปูทางร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดตัวมาหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปว่า การเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้หลายฝ่ายมองเป็นเรื่องการเมือง ขอยืนยันว่าการรับตำแหน่งนี้เพื่อการทำประโยชน์ให้พื้นที่ และสังคม และเวลานี้ตัวเองก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังชล และยืนยันสมาชิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ผมไม่รังเกียจนักการเมือง"
ก่อนหน้านี้ในการเดินทางเพื่อประชุมครม. นอกสถานที่หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้ง พล.อ. ประยุทธ์ ก็มีการพบปะกับตระกูลนักการเมืองผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น "โพธสุธน" ในท้องที่สุพรรณบุรี และ "สะสมทรัพย์" ที่มีมวลชนสนับสนุนอยู่ในนครปฐม หรือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ที่นครราชสีมา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เคยย้ำว่าการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ "ไม่ใช่ไปสร้างคะแนนเสียง เพราะเราไม่ได้ต้องการเล่นการเมืองในอนาคต แต่ต้องการลงไปรับฟังทุกข์สุขประชาชนของกลุ่มในพื้นที่จากปากของเขาเอง"