ประชุมสุดยอด: เกาหลีเหนือ-ใต้ ครั้งประวัติศาสตร์
บีบีซีไทยรายงานข่าวการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสองเกาหลี ในวันนี้ (27 เม.ย.) จับตาว่าผู้นำทั้งสองชาติจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อนำไปสู่การยุติโครงการพัฒนาขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้หรือไม่
รายงานสด
ระบุสหราชอาณาจักรโดยตลอด
ปิดฉากแล้ว
บีบีซีไทย ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามการรายงานข่าวการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ของผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ในครั้งนี้ ขณะนี้การประชุมเสร็จสิ้นลงแล้ว และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปยังหมู่บ้านปันมุนจอม เพื่อเจรจากับนายมุน แจ อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ได้เดินทางกลับไปยังฝั่งเกาหลีเหนือแล้ว
บีบีซีไทยขอถือโอกาสนี้อำลาผู้อ่านทุกท่านเช่นกัน แต่ท่านยังสามารถติดตามการรายงานข่าวเรื่องนี้ บทวิเคราะห์และข่าวน่าสนใจอื่น ๆ ต่อไปได้ที่เว็บไซต์บีบีซีไทย สวัสดีค่ะ
จับมือแน่นแฟ้น
ภาพจากงานเลี้ยงปิดการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ นายคิม และนายมุน จับมือกันอย่างแน่นแฟ้น
ลาก่อน
ขณะนี้การหารือระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือและใต้รวมทั้งการรับประทานอาหารค่ำ และงานเลี้ยงอำลาเสร็จสิ้นลงแล้ว
นายคิม จอง อึน ได้ขึ้นรถลิมูซีนและเดินทางออกจากหมู่บ้านปันมุนจอมแล้ว
มาสรุปกันอีกครั้งว่าการประชุมครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายตกลงอะไรบ้าง
ผู้นำทั้งเกาหลีเหนือและใต้ประกาศร่วมกันว่าจะร่วมมือกันทำงานเพื่อให้การลงนามสนธิสัญญาสันติภาพเกิดขึ้นให้ได้ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 65 ที่ทั้งสองชาติยุติการสู้รบกัน
หลังการประชุมนายคิม ประกาศว่าไม่มีเหตุผลอันใดที่เกาหลีเหนือและใต้จะสู้รบกันอีกต่อไป ซึ่งดูจะเป็นการย้ำให้เห็นว่าเกาหลีเหนือต้องการอยู่อย่างสันติ เขายังกล่าวด้วยว่าทั้งสองชาติควรเป็นหนึ่งเดียว อย่างไรก็ดี นายคิม ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการพัฒนาทางอาวุธของเกาหลีเหนือ
ด้านนายมุน กล่าวว่า เขาและนายคิมให้คำมั่นที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดไปจากคาบสมุทรเกาหลี
ทั้งสองได้ลงนามในข้อตกลงซึ่งจะยินยอมให้ครอบครัวที่พลัดพรากจากกันมีโอกาสได้พบหน้ากันอีกครั้ง รวมทั้งจะมีการก่อสร้างถนน และทางรถไฟข้ามพรมแดนระหว่างกันด้วย
จีนได้ออกมายกย่องความร่วมมือกันในครั้งนี้ว่าเป็นความกล้าหาญและตั้งใจจริงของผู้นำทั้งสองที่ก่อให้เกิดก้าวย่างทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้ และจีนหวังว่าการประชุมสุดยอดจะเป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่ความมั่นคงในระยะยาวในคาบสมุทรเกาหลี
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประเทศซึ่งเคยถูกเกาหลีเหนือข่มขู่ว่าจะทำลายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ กล่าวเช่นกันว่าเป็นความคืบหน้าในทางบวก และหวังว่าเกาหลีเหนือจะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สิ่งที่รับปากไว้เกิดผล
ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความว่าสิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น และเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ และในโพสต์ล่าสุดของนายทรัมป์ มีข้อความว่าอย่าลืมความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ดีของเขาอย่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่มอบให้สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชายแดนเกาหลีเหนือ หากปราศจากเขาแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคงจะยาวนานและยากลำบากยิ่งกว่า!
วาทะของสองผู้นำ
คำพูดหยอกล้อของผู้นำทั้งสองในประเด็นต่าง ๆ
เกี่ยวกับเรื่องการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
นายคิมพูดในระหว่างแถลงข่าว
“ผมได้ยินว่า [ประธานาธิบดีมุน] ต้องถูกรบกวนการนอนในตอนเช้าหลายครั้ง เพื่อเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผมจะทำให้ท่านไม่ต้องถูกรบกวนขณะนอนหลับในตอนเช้า”
เกี่ยวกับปัญหาการจราจรของเกาหลีเหนือ
นายคิม กล่าวกับนายมุนระหว่างการถ่ายทอดสดจากที่ประชุม
นายคิม: “ผมกังวลว่า เส้นทางการคมนาคมของเราแย่มากจนทำให้ท่านไม่สะดวกสบาย คงเป็นเรื่องน่าอาย [สำหรับผม] ถ้าท่านเยือนเกาหลีเหนือ หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลีใต้มาแล้ว”
เกี่ยวกับการเยือนทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้
อ้างอิงจากโฆษกของเกาหลีใต้
นายมุน: “ผมจะพาท่านชมภาพที่สวยงามกว่านี้ ถ้าท่านมาที่ทำเนียบประธานาธิบดี”
นายคิม: “จริงเหรอครับ? ผมจะไปทำเนียบประธานาธิบดีทุกเมื่อที่ท่านเชิญผม”
เกี่ยวกับการเยือนเกาหลีเหนือ
อ้างอิงจากโฆษกของเกาหลีใต้
นายมุน: “ตอนนี้ท่านมาเกาหลีใต้แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้ไปที่นั่น [เกาหลีเหนือ]?”
นายคิม: “ทำไมเราไม่ข้ามไปเสียเลยตอนนี้ล่ะ?”
(นายมุน ได้ก้าวข้ามเส้นเข้าไปในดินแดนของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้ระบุไว้ในกำหนดการก่อน)
เตรียมลาจาก
ขณะนี้นายคิม จอง อึน นายมุน แจ อิน พร้อมภรรยา และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือและใต้ ได้เข้าร่วมพิธีปิดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากร่วมรับประทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมประชุมกันตั้งแต่เช้าวันนี้ โดยนายคิม ได้เดินทางข้ามพรมแดนเกาหลีเหนือเข้าไปยังหมู่บ้านปันมุนจอม และใช้เวลาทั้งวันอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
ทรัมป์ขออย่าลืม บทบาท สี จิ้นผิง
นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ขอไม่ให้ลืมความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ดีของเขาอย่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่มอบให้สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชายแดนเกาหลีเหนือ หากปราศจากเขาแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคงเป็นกระบวนการอันยาวนานและยากลำบากยิ่งกว่า!
ในวันเดียวกันนี้นายทรัมป์ ทวิตว่าสิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น และเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์
สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
Post update
นางรี ซอล จู ภริยาของนายคิม จอง อึน ยิ้มแย้มขณะนายคิม กำลังชนแก้วเครื่องดื่มกับนางคิม จุง ซุก ภริยาผู้นำเกาหลีใต้
ชื่นมื่น
รับประทานอาหารเย็น
ขณะนี้ผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ ภรรยา และเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำซึ่งจัดขึ้นที่อาคาร Peace House
ก๋วยเตี๋ยวเย็น
ยังมีเรื่องที่เรียกรอยยิ้มเกิดขึ้นจากการประชุมครั้งนี้อีก โดยหลังจากมีรายงานว่านายคิม ได้พูดล้อเล่นกับนายมุน เกี่ยวกับ “ก๋วยเตี๋ยวเย็นเปียงยาง” แล้ว ปรากฏว่ากลายเป็นคำฮิตทางทวิตเตอร์ และเว็บไซต์เนเวอร์ ของเกาหลีใต้
ผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์ภาพนายคิมสวมเครื่องแบบคนขับรถส่งอาหารในเกาหลีใต้ และมีคำถามว่า “ใครสั่งก๋วยเตี๋ยวเย็นเปียงยางบ้าง?” ขณะกำลังคิดว่า “ฉันไม่น่าบอกว่ามันไกลเลย”
การกอดครั้งประวัติศาสตร์
ทรัมป์ทวีตข้อความระบุ "เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์"
หลายคนคงจับตาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะมีปฏิกิริยาต่อผลการประชุมสุดยอดของสองผู้นำเกาหลีในวันนี้อย่างไร
ล่าสุด นายทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า "หลังหนึ่งปีแห่งความเกรี้ยวกราด ในการทดลองขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ การหารือครั้งประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้น และสิ่งดี ๆ ก็กำลังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์"
ผู้นำโลกขานรับผลการประชุมสุดยอดสองเกาหลี
ผู้นำรัสเซีย ญี่ปุ่น กล่าวชื่นชมการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างนายคิม จอง อึนผู้นำเกาหลีเหนือและนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
โฆษกประธานาธิบดีนายวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวต่อผู้สือข่าวว่า "นี่เป็นข่าวดีสุด ๆ ที่ได้เห็นว่าผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันวันนี้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ดีบนคาบสมุทรเกาหลี"
ด้านนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ผลการประชุมสุดยอดดังกล่าวถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญ และเชื่อว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะทำตามคำสัญญาอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต
การปลดอาวุธนิวเคลียร์
นายคิม จอง อึน ไม่ได้กล่าวถึง การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในแถลงการณ์ของเขา อย่างไรก็ตามในปฏิญญาปันมุนจอมที่ทั้ง 2 ฝ่ายลงนามร่วมกัน ได้ยืนยันว่าทั้ง 2 ชาติมีเป้าหมายร่วมกันต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์
ปฏิญญาดังกล่าวระบุด้วยว่า:
"เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือมีมุมมองตรงกันว่า มาตรการที่เกาหลีเหนือได้เริ่มต้นนั้นมีความหมายและสำคัญต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งตกลงที่จะทำตามหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายเพื่อสิ่งนี้"
"เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือตกลงว่าจะแสวงหาการสนับสนุนและความร่วมมือจากชุมชนนานาชาติ สำหรับการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี"
สองผู้นำและภรรยาเข้าร่วมงานเลี้ยง
ผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงพร้อมด้วยภรรยา
สื่อเกาหลีใต้รายงานว่านางรี ซอล-จู (ในชุดสีชมพู) ภรรยาของผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวกับนางคิม จุง-ซุก ภรรยาปธน. มุนแห่งเกาหลีใต้ว่า "ฉันมีความยินดีมากที่ได้ยินจากสามีของฉันว่าการประชุดสุดยอดประสบความสำเร็จ"
พันธสัญญาระหว่างสองเกาหลีที่สำคัญมีอะไรบ้าง
เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างราบรื่น รัฐบาลทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันว่าจะจัดให้มีการตั้งสำนักงานร่วมเพื่อประสานงานระหว่างกันในเขตแกซอง ของเกาหลีเหนือ โดยสำนักงานดังกล่าวจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ทางการของสองประเทศและร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างราบรื่น
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ร่วมยังมีพันธสัญญาร่วมกันอย่างอื่น เช่น
"ยุคใหม่แห่งสันติภาพได้เริ่มขึ้นแล้ว"
บางส่วนของ ปฏิญญาปันมุนจอม เพื่อสันติภาพ ความรุ่งเรือง และการรวมชาติบนคาบสมุทรเกาหลี
“ผู้นำทั้งสองประกาศต่อหน้าประชาชนเกาหลี 80 ล้านคน และประชาชนแห่งโลกว่าต่อไปนี้จะไม่มีสงครามในคาบสมุทรเกาหลีอีกต่อไป ด้วยเหตุดังนั้น ยุคใหม่แห่งสันติภาพได้เริ่มขึ้นแล้ว"
ผู้นำทั้งสองก็ต่างได้ให้คำมั่นที่จะทำให้ซากส่วนที่ยังเหลืออยู่ของสงครามเย็นสิ้นสุดลงโดยเร็ว โดยเฉพาะการแบ่งแยกซึ่งกันและกันมาเป็นเวลายาวนาน และการเผชิญหน้ากันและกัน และจะปลูกความสัมพันธ์ในคาบสมุทรเกาหลีให้งอกงามมั่นคงกว่าเดิมด้วยความกระตือรือร้นยิ่ง"
ภาวนาให้ประสบความสำเร็จ
พระสงฆ์และแม่ชีร่วมสวดภาวนา
ในระหว่างที่มีการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีที่หมู่บ้านปันมุนจอมวันนี้ บรรดาพระสงฆ์และแม่ชีในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ ได้ไปร่วมสวดมนต์ภาวนาให้การประชุมบรรลุผลสำเร็จ
มุนจะไปเยือนเปียงยาง
มีคำประกาศว่าประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายมุน แจ อิน จะเดินทางไปเยือนกรุงเปียงยาง เมืองหลวงเกาหลีเหนือ ในฤดูใบไม้ร่วงนี้