“รัฐบาลนี้ไม่ได้ปิดกั้นใคร ยังใช้กฎหมายปกติในการดูแลและมีคำสั่ง คสช. บ้านเมืองจึงสงบเรียบร้อย ถ้าไม่มีคำสั่งเหล่านี้จะทำอย่างไร หากประชาชนปฎิบัติตัวและทำให้ผมวางใจให้ได้ว่าบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยได้ จึงจะยกเลิกคำสั่งเหล่านี้ไป”
พล.อ.ประยุทธ์ประกาศไว้เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังภาคประชาสังคมเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่ง คสช., คำสั่งหัวหน้า คสช., ประกาศ คสช. อย่างน้อย 35 ฉบับที่ออกมา
ในห้วงสี่ปีที่ผ่านมามีคำสั่งและประกาศ คสช. กว่า 500 ฉบับ ที่ออกมาด้วยเหตุผล “เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย” ในสังคม แก้ปัญหาที่เป็นข้อติดขัดทั้งเรื่องกฎระเบียบรวมถึงระงับขั้นตอนทางราชการบางอย่าง เช่น การต่ออายุสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิม หลัง คสช. สั่งระงับการเลือกตั้งท้องถิ่น, สั่งปลดผู้บริหารท้องถิ่น รวมถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม., ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน, ถอดยศ “พ.ต.ท.” ของทักษิณ ชินวัตร, เปิดทางกรมบังคับคดีเรียกค่าสินไหม-ยึดทรัพย์คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, ติดดาบเพิ่มอำนาจ กสทช. ให้ควบคุม-ปิดสื่อ, แก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นต้น
คำสั่งจำนวนมากที่ออกมา ย่อมส่งผลกระทบต่อสิทธิของคนหลายกลุ่มอย่างมิต้องสงสัย ทำให้จำนวนบุคคลที่ถูกดำเนินคดีความมั่นคงเพราะไม่เห็นด้วย ไม่ปฏิบัติตามประกาศและคำสั่ง คสช. มีมากเป็นเงาตามตัว
นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์หรือ "จ่านิว" นักกิจกรรมการเมือง คือหนึ่งในจำนวนนั้น เขาถูกตั้งข้อหารวม 9 คดีนับจากออกมาจัดกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหารโดย คสช. สำหรับข้อหาที่รุนแรงที่สุดสำหรับเขาคือยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่กองทัพไทยตอบโต้นักสิทธิมนุษยชน สื่อมวลชน และฟ้องดำเนินคดีกับผู้ที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐเรื่องการซ้อมทรมานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ซึ่งสถิติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 4 ปีของ คสช. ยังไม่รวมกรณีที่คนในเครื่องแบบที่ถูกกล่าวหาว่าลุแก่อำนาจหรือใช้อำนาจมากแต่ยากแก่การตรวจสอบ
ในแง่ของการ “เสริมเขี้ยวเล็บ” ให้กองทัพ คสช. จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ให้สามเหล่าทัพราว 7 หมื่นล้านบาทตลอดสี่ปีที่ผ่านมา นอกจากฝ่ายความมั่นคงยังให้ให้ความสำคัญในการพัฒนาความมั่นคงทางไซเบอร์ด้วยการสร้าง “นักรบไซเบอร์” เพื่อรองรับภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ รวมถึงภัยการเมืองที่ย้ายไปต่อสู้กันในโลกออนไลน์นอกเหนือจากการชุมนุมบนท้องถนนที่ คสช. เผชิญอยู่เป็นระยะ ๆ