จับมือ "BNK48" กลยุทธ์แนวใหม่ "ประยุทธ์" เพื่อเจาะฐานคนรุ่นใหม่ ปูทางศึกเลือกตั้ง

นักวิชาการด้านการสื่อสารการเมืองมองว่า รัฐบาลจับมือกับ BNK48 เป็นกลยุทธ์ของ คสช. เพื่อสร้างคะแนนความนิยมหาเสียงกลุ่มวัยรุ่น ก่อนการเลือกตั้ง ด้านต้นสังกัดศิลปินวอนแฟนคลับเข้าใจเพราะเป็นกิจกรรมเพื่อสังคม

ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก บอกกับบีบีซีไทยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มมีการใช้สื่อโซเชียล และมีความพยายามที่จะอิงกระแส ความดังของละครบุพเพสันนิวาสโดยนำเอาคณะนักแสดงมาร่วมเปิดตัวเพจไทยนิยม มาถึงวันนี้ (24 เม.ย.) ก็มีการเชิญกลุ่มนักร้องชื่อดัง BNK48 เพื่อโปรโมตวิทยุครอบครัว

"นี่ถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ของรัฐบาลที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ครั้งที่แล้วได้นำกลุ่มนักแสดงละครบุพเพสันนิวาส เน้นกลุ่มแม่บ้านและคนวัยทำงาน ส่วน BNK48 ก็เป็นกลุ่มอายุน้อยกว่า 20 ปี" ดร.นันทนาอธิบาย

นักวิชาการรายนี้ วิเคราะห์อีกว่า เปรียบเสมือนกับสินค้าต่าง ๆ เมื่อเห็นว่าดาราหรือศิลปินคนไหนดังก็จ้างเป็นพรีเซนเตอร์ เช่นเดียวกันกับรัฐบาลที่ตอนนี้มองว่า ศิลปินวงไหนดัง ละครเรื่องไหนเด่น ก็เอาทำกิจกรรมร่วมกับรัฐบาล เพื่อเพิ่มคะแนนนิยม และเป็นการหาเสียงกับกลุ่มต่างๆ เหล่านี้อีกด้วย

สร้างการรับรู้ได้ แต่ยังไม่ใช่การยอมรับ

ดร.นันทนา กล่าวเพิ่มเติมว่า "การโหนกระแสสามารถช่วยให้สร้างการรับรู้ระหว่างประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ แต่ไม่ยั่งยืน เป็นเรื่องฉาบฉวย เป็นกระแสความนิยมเฉพาะความบันเทิง แต่ในทางการเมืองนั้นจะเอากระแสฉาบฉวยมาเป็นเรื่องจริงจังไม่ได้ เพราะคนที่มองเรื่องการเมือง คือ ผู้ปกครองต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาชีวิต ปัญหาสังคมและประเทศ"

"เกิดการรับรู้ ความสนใจขึ้นจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการยอมรับความเชื่อถือและศรัทธา ซึ่งเกิดขึ้นจากผลงานที่เกิดขึ้นให้เป็นที่พอใจของประชาชน คะแนนนิยมจะเกิดขึ้น" ดร.นันทนากล่าวย้ำ

สำหรับความพยายามของรัฐบาลในการโหนกระแสที่เป็นที่นิยม รวมไปถึงการเปิดแนวรบใหม่ๆ ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถือเป็นกลยุทธ์ทางการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความสนใจในบรรดาหมู่ประชาชนได้มากกว่า ช่องทางการสื่อสารเดิมๆ เช่น การแถลงข่าว รายการ "เดินหน้าประเทศไทย" "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนา อย่างยั่งยืน" รวมทั้งความพยายามล่าสุด ที่ปรับโฉมรายการ "เดินหน้าประเทศไทย วัยทีน" เพื่อเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น

ทั้งนี้การปรับโฉมรายการดังกล่าวก็เพิ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 ก.พ. ภายหลังจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร ไทยซัมมิท กรุ๊ป ที่ประกาศว่าพร้อมลงเล่นการเมืองโดยขูจุดขายด้วยการเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ หลังจากนั้นไม่นานก็มีพรรคการเมืองต่างๆ ก็ทยอยเดินเกมด้วยการใช้ตัวแทนคนรุ่นใหม่เข้ามาสร้างกระแส

คนรุ่นใหม่ สื่อใหม่ คือ หัวใจ BNK48

กลุ่มศิลปินวัยรุ่น BNK48 สร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างจริงจังก็เมื่อต้นปีที่ผ่านมาผ่านบทเพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย Koisuru Fortune Cookie" ด้วยท่วงทำนองเพลงที่ฟังง่ายพร้อมกับท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ แต่สามารถเต้นตามได้ง่ายๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยาก

ในความเป็นจริงนั้น ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ต้นสังกัดวางกลยุทธ์การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

นายจิรัฐ บวรวัฒนะ ผู้บริหารบริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด ผู้จัดการกลุ่มศิลปิน BNK48 บอกบีบีซีไทยว่า "การสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์คือหัวใจสำคัญ บวกกับรูปแบบแนวคิด (concept) ใหม่ๆ ด้วยการฝึกเด็กสาวที่มีความมุ่งมั่น 30 คนจากคนที่ร้องเพลงหรือเต้นไม่เก่งให้กลายเป็นไอดอล ผ่านบทเพลงที่มีท่วงทำนองแบบญี่ปุ่น"

คำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับคำว่าหัวใจของการสื่อสาร คือ การใช้เฟซบุ๊กเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารกับผู้ติดตามทั้งของวงและเฟซบุ๊กบัญชีของศิลปินแต่ละคน ส่วนวิดีโอการแสดงหรือเบื้องหลังจะใช้ยูทิวบ์เป็นแฟลตฟอร์มหลัก และนำไปโพสต์อีกครั้งบนเฟซบุ๊ก ส่วนอินสตาแกรมจะเป็นช่องการในการเผยแพร่ภาพ ขณะที่ใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางการพูดคุยของบรรดาแฟนคลับ

"ถือว่านี่คือ การบริหารจัดการแบบทุกมิติ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนโดยแฟนคลับจำนวนหลักแสนคน ผ่านโซเชียลมีเดีย และผ่านเพื่อนของเพื่อน" นายจิรัฐกล่าวย้ำ

นายยุทธิพงศ์ แซ่จิว ผู้จัดการส่วนการตลาดสื่อดิจิตอล จากบริษัท เอ็นเซ็มเบิล ประเทศไทย ในเครือเอเยนซีโฆษณารายใหญ่ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย เคยเขียนถึงเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ IPG-Connect โดยอธิบายว่า กลุ่มศิลปินดังกล่าวใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านฐานแฟนคลับ

งานฟรีเพื่อสังคม ย้ำไม่ยุ่งการเมือง

นอกจากการรับงานที่สร้างรายได้แล้ว ผู้บริหารรายนี้อธิบายว่า BNK48 ยังทำงานด้านกุศลเพื่อสังคมอีกด้วย เช่น การร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ​ ผ่านกลุ่มศิลปินชื่อดัง

นายจิรัฐ เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อมาจากกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การสนับสนุนกิจกรรมของรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำงานร่วมกันสร้างกระแสซึ่งกันและกัน เป็นประโยชน์ต่อสังคม

"การที่นายกรัฐมนตรี หรือ กรมประชาสัมพันธ์ ให้น้อง ๆ เป็นตัวแทนในการสื่อสาร ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ยุ่งกับอะไรในเรื่องการเมือง ถือเป็นการทำงานเพื่อนประเทศชาติมากกว่า คิดว่าแฟนคลับคงเข้าใจและยินดีกับน้อง ๆ " นายจิรัฐกล่าว

สำหรับการเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ก็เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว "Happy Family Radio F.M.105 MHz. : วิทยุเพื่อครอบครัว" ของกรมประชาสัมพันธ์ ตามแนวทางที่ นายกฯ มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์มีสถานีวิทยุสำหรับครอบครัว ให้เหมาะกับทุกช่วงวัย โดยจะเน้นให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่