ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน แกนนำ นปช. วีระกานต์-ณัฐวุฒิ-เหวง-วิภูแถลง คดี “บุกบ้านป๋า”

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยทั้ง 5 รายขึ้นรถ ก่อนนำไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามคำพิพากษาศาล โดยมีมวลชนมารอให้กำลังใจ

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยทั้ง 5 รายขึ้นรถเวลา 12.39 น. ก่อนนำไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามคำพิพากษาศาล โดยมีมวลชนมารอให้กำลังใจ

ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา สั่งจำคุกแกนนำผู้ชุมนุมการเมืองที่เรียกตัวว่ากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) 2 ปี 8 เดือน คดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้จำคุกจำเลย 5 คน คนละ 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4-7 มีพฤติการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นเรื่องร้ายแรง

ส่วนที่จำเลยทั้งหมดขอให้ลงโทษสถานเบาเเละรอการลงโทษนั้น ศาลเห็นว่าฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น

หลังการอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นลง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยทั้ง 5 รายลงไปยังห้องควบคุมชั้นล่างใต้ถุนศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อนำตัวขึ้นรถไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามคำพิพากษา โดยที่ครอบครัวของจำเลยได้บอกกับสื่อมวลชนว่าจะหาทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังบ่อย ๆ

นางสิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยาของนายณัฐวุฒิ ระบุว่า จะเดินหน้าเลี้ยงลูก 2 คนให้ดี ซึ่งสามีเข้มแข็งอยู่แล้ว และได้สั่งให้ดูแลลูกให้ดี ๆ ก็เป็นห่วงจิตใจของลูก

นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ภรรยาของ นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า แม้ต้องสูญเสียอิสรภาพหรือชีวิต มันก็เป็นเกียรติประวัติ จึงเป็นทั้งความเจ็บปวดและความภูมิใจของตัวผู้ประสบชะตากรรม ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้แกนนำ นปช. และคนเสื้อแดงภูมิใจว่าทั้งหมดที่ทำอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของส่วนรวมและของประชาชน พร้อมยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมาเป็น "ทศวรรษแห่งความขมขื่นและเจ็บปวด" ดูเหมือนกับเราจะถอยหลัง แต่ความอดทนของผู้คนจะเป็นเสมือนต้นทุนของคนในอนาคต ไม่มีอะไรเสียเปล่า ในการเจ็บปวดและสูญเสียของคนรุ่นก่อนจะเป็นบทเรียนสำหรับคนรุ่นใหม่

นพ.เหวง โตจิราการ

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

นพ.เหวง โตจิราการ เผยว่า เหตุที่ 4 แกนนำ นปช. กลับคำให้การมายอมรับสารภาพเมื่อ ก.ย. 2562 เพราะ "ต้องยอมรับว่าที่ท่านพิพากษามาก็เป็นอย่างนั้น เราพิจารณาแล้วเห็นร่วมกันว่าควรรับสารภาพดีกว่า"

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 22 ก.ค. 2550 เมื่อแกนนำกลุ่ม นปก. (ชื่อในขณะนั้น ก่อนเปลี่ยนเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.) นำผู้ชุมนุมหลายพันคนเคลื่อนพลจากเวทีปราศรัยที่สนามหลวงไปชุมนุมปิดล้อมหน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง และเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 จำเลยที่ 1 ถูกระบุในคำพิพากษาศาลว่าใช้ไม้เสาธงตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

ที่มา : สรุปจากคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อ 26 มิ.ย. 2563 โดยที่จำเลยที่ 2-3 ถือว่าคดีสิ้นสุดไปตั้งแต่ชั้นอุทธรณ์

ก่อนรับฟังคำพิพากษาคดี บรรดาจำเลยต่างออกมาระบุว่าพร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาลไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม และยังยืนยันจะต่อสู้เพื่อให้ประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

แกนนำ นปช. ประกาศสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จำเลย กล่าวว่า ภารกิจในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของบุคคล ดังนั้นการจะมีหรือไม่มีคนหนึ่งคนใดในสถานการณ์ต่อสู้ ไม่ได้หมายความว่าจะสะดุด ติดขัด หรือหยุดยั้งลง วันนี้เห็นคนหนุ่มสาวและคนรุ่นใหม่มากมายออกมาแสดงพลัง หน้าที่ของพวกเขา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ก็มีคนร่วมคิด ร่วมทำ และรับช่วงมาอย่างต่อเนื่อง หากยังมีอิสรภาพก็ยังมีจุดยืนเช่นเดิม หากต้องสูญสิ้นอิสรภาพก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังยืนยันหลักการที่ต่อสู้มาคือไม่ยอมอำนาจรัฐประหาร ไม่เชื่อว่าอำนาจรัฐประหารจะนำบ้านเมืองไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง

แกนนำ นปช. รายนี้ยืนยันว่าเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาที่ออกมาต่อสู้ ได้เห็นพัฒนาการของสังคมไทย แม้มากมายไปด้วยอุปสรรคและความเสียหายหลายด้าน แต่พลังในการผลักดันบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องยังคงอยู่ หลายคนอาจบอกว่า 10 กว่าปีแล้วยังไปไม่ถึงไหน ล้มเหลวหรือไม่ ส่วนตัวมองต่าง เพราะต่อสู้กับคณะรัฐประหาร 2 ชุด เครือข่ายอนุรักษนิยมที่สั่งสมอำนาจมายาวนาน แล้วประชาชนยังไม่แพ้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สวมใส่เสื้อทีมฟุตบอลลิเวอร์พูลที่เพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของอังกฤษมารับฟังคำพิพากษาศาล ก่อนสวมเสื้อนอกคลุมทับ โดยเขาบอกว่าเชียร์ทีมหงส์แดงมาตั้งแต่เด็ก "เชียร์เอาความภักดี ซื่อสัตย์ และจริงใจ ขอทำหน้าที่แฟนบอลลิเวอร์พูลในวันนี้" และ "ลิเวอร์พูลยังรอได้ 30 ปี ผู้รักประชาธิปไตยก็ต้องสู้ต่อไป"

นพ.เหวง โตจิราการ จำเลย กล่าวว่า ยังยืนหยัดจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปหากยังไม่สูญเสียชีวิต

ขณะที่นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล จำเลย ระบุว่า เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวในการนิรโทษกรรมทางการเมือง และยังประกาศ "เลิกก่อม็อบตลอดชีวิต"

ย้อนที่มาคดี นปก. บุกบ้าน "ป๋าเปรม"

คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 7 คน ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558 สั่งจำคุกจำเลย 5 คน โดยจำเลยที่ 1 ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 4-7 ให้จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน ขณะที่จำเลยที่ 2-3 ให้ยกฟ้องและริบของกลาง

ต่อมาวันที่ 10 ม.ค. 2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็น ให้จำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 1 ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และยกฟ้องจำเลยที่ 2-3

ส่วนในชั้นฎีกา ศาลได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีนี้มาแล้ว 4 ครั้ง

  • 31 ก.ค. 2562 นายวีระกานต์ไม่เดินทางมาศาล โดยมอบให้ผู้แทนนำใบรับรองแพทย์แจ้งป่วยด้วยอาการเลือดออกในลำไส้ จึงต้องเลื่อนนัด
  • 23 ก.ย. 2562 นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง ขอถอนคำให้การเดิมจาก "ปฏิเสธความผิด-ขอต่อสู้คดี" เป็น "ให้การรับสารภาพ-ไม่ต่อสู้คดี" ศาลอาญาจึงต้องส่งคำพิพากษากลับคืนไปให้ศาลฎีกาพิจารณาอีกครั้ง ก่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีการอบใหม่
  • 6 ก.พ. 2563 นายนพรุจไม่เดินทางมาศาล โดยทราบว่าย้ายที่อยู่ใหม่ ไม่สามารถส่งหมายนัดได้ จึงต้องเลื่อนนัด
  • 30 เม.ย. 2563 เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นเหตุให้ต้องเลื่อนนัดมาเป็นวันนี้ (26 มิ.ย. 2563)
นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ปัจจุบันอายุ 72 ปี

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ปัจจุบันอายุ 72 ปี