เขื่อนลาวแตก: หน่วยกู้ภัยไทยราว 80 นายเริ่มงานในลาวแล้ว แม้ฝนเป็นอุปสรรค

นักกู้ภัยไทยและชาติอื่น ๆ ต้องทำงานแข่งกับฝนที่ตกหนักในวันพฤหัสบดีเพื่อหาตัวคนที่หายไปเมื่อเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อย พังลงมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 26 ราย และสูญหายอีกนับร้อย

ฝนที่ตกลงมาอีกทำให้ การค้นหาผู้ที่รอดชีวิตที่บริเวณที่น้ำท่วมฉับพลันในแขวงอัตตะปือทางตอนใต้ของสปป.ลาวเป็นไปอย่างยากลำบาก

ในบางพื้นที่นั้น ถนนถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ทำให้ต้องส่งเรือและเฮลิคอปเตอร์เข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ตามบ้านเรือนต่าง ๆ เพราะน้ำท่วม รวมทั้งพยายามหาคนที่สูญหายไปอย่างน้อย 131 คนตามตัวเลขของทางการลาว

นอกจากหน่วยกู้ภัยของไทยแล้ว รอยเตอร์ระบุว่าเวียดนามส่งกองทหารและหน่วยพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือ กลุ่มกู้ภัยของจีนรวมทั้งเกาหลีใต้ก็ถูกส่งเข้าไปแล้วเช่นกัน

สำนักข่าวเอบีซีลาว ถ่ายทอดสดการแถลงข่าวของทางการแขวงอัตตะปือเปิดแถลงข่าวเมื่อเช้านี้ (26) ระบุว่า หมู่บ้าน 6 แห่งเสียหายโดยสิ้นเชิงจากเหตุน้ำท่วม และก็ยอมรับว่ากระจ่ายข่าวให้อพยพเป็นไปโดยล่าช้าเกินไป ประกอบกับชาวบ้านไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนจึงไม่คิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงมาก ทำให้ออกจากพื้นที่ไม่ทัน

ทางการลาวได้ตั้งศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยจากเหตุเขื่อนแตกที่เมืองปากซอง แขวงจำปาสัก ซึ่งห่างจากด่านชายแดนช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ราว 92 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์แห่งนี้มีผู้ประสบภัย 810 คน เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบเขื่อนได้อพยพมาพักพิงชั่วคราว ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง

ไชยเชษฐ์ พุดสี นักวางแผนกู้ภัย จาก ชมรมกู้ภัยทางน้ำแห่งประเทศไทย W.D.R.T บอกกับบีบีซีไทยทางโทรศัพท์ว่าเมื่อวานนี้เขาได้เข้าไปถึงปากซอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อวางกำลังชุดกู้ภัยของไทยที่เข้าไปรวมมากกว่า 80 คนแล้วเพื่อให้สามารถเริ่มงานได้ จากนั้นก็ได้กลับออกมาเพื่อวางแผนกับนักกู้ภัยอีกชุดหนึ่งที่จะเข้าไปเสริมในภายหลัง

สิ่งที่เขาเห็นเมื่อเข้าไปถึงปากซองแล้วก็คือ มวลน้ำจำนวนมากยังค้างอยู่ในพื้นที่ระหว่างปากซองกับอัตตะปือ ระดับน้ำลึกประมาณ 5-7 เมตรต่างกันไปแล้วแต่พื้นที่ และในขณะนี้มีฝนตกและอากาศค่อนข้างหนาว

"ทีมกู้ภัยของไทยแบ่งเป็นสองกลุ่มก็คือ ทีมเอ ไปช่วยค้นหาผู้สูญหาย 15 คนที่บ้านไซดอนโคง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทยขึ้นเรือไปกับเจ้าหน้าที่ทหารของลาว ส่วนทีมบีเอาสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกที่หมู่บ้านตะหมอยอด ที่ถูกน้ำล้อมเอาไว้ ชาวบ้านราว 800 คนติดเกาะอยู่" เขากล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้คุยกับทรัน วัน เบียน ชาวบ้านวัย 47 ปีจากบ้านใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในหกหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง บอกว่าเจ้าหน้าที่บอกให้เขาอพยพเพียงสองชั่วโมงก่อนที่น้ำจะมาถึง พวกเขาหนีไม่ทันและน้ำขึ้นสูงจนต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านของเพื่อนบ้าน และติดอยู่บนนั้นทั้งคืน พวกเขาทั้งหนาวและหวาดกลัว ราวตีสี่ของอีกวันมีเรือผ่านมาจึงตัดสินใจที่ส่งภรรยาและลูกออกไปหมู่บ้านที่ใกล้เคียง

ทรันเล่าด้วยว่าภรรยาเขาผูกลูกน้อยไว้กับอก บอกว่าถ้าตายก็ต้องตายด้วยกัน จะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องอยู่โดยโดดเดี่ยว

องค์การแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนที่ทำงานด้านการอนุรักษ์แม่น้ำและวิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำได้ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บริษัทผู้ก่อสร้างเขื่อนว่าเตือนชุมชนรอบข้างในเวลาที่น้อยเกินไป นอกจากนั้นก็ยังก่อให้เกิดคำถามว่าการก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ และต่อไปนี้จะรับประกันความปลอดภัยต่อชุมชนอื่น ๆ อย่างไร

ขณะเดียวกันที่จ. มุกดาหาร ซึ่งมูลนิธิการกุศลมุกดาหารซึ่งเปิดรับและส่งสิ่งของยังชีพเข้าเมื่อวานนี้ ก็ได้ส่งสิ่งของเข้าไปเพิ่มเติมในวันนี้โดยเข้าไปกับกลุ่มกู้ภัยของป่อเต็กตึ๊ง

เชิดศักดิ์ ยงกิจถาวร กรรมการหอการค้ามุกดาหาร ฝ่ายการค้าชายแดนระบุว่าเมืองสนามไซและเขตใกล้เคียงนั้นมีฝนตกเกือบตลอดเวลา และอากาศหนาว อุณหภูมิ 18 องศาเซลเซียส จากการประสานงานกับทางแขวงของลาวพบว่ามีความต้องการสิ่งของอย่างเช่น นมผงเด็ก ผ้าอ้อม ชุดชั้นใน ผ้าอนามัย ผ้าห่อศพ โลงศพ น้ำ และอาหารแห้ง อย่างมาก โดยที่ทางมูลนิธิการกุศลมุกดาหารจะเปิดรับบริจาคต่อไป และจะมีรถเข้าไปส่งสิ่งของเหล่านี้ให้กับทางการลาวทุกวัน