ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ : อนาคตใหม่ จะไปทางไหน หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งหัวหน้าพรรคพ้น ส.ส.

ธนาธรให้สัมภาษณ์สื่อ

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2562 จากกรณีถือครองหุ้นในบริษัท วีลัค-มีเดีย จำกัด

เวลา 14.28 น. วันนี้ (20 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำวินิจฉัย เรื่องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า บริษัท วีลัค-มีเดีย จำกัด ยังคงเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อมวลชนในวันที่พรรคอนาคตใหม่ได้ส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อแก่สำนักงาน กกต. เมื่อ 6 ก.พ. 2562 เนื่องจากบริษัทดังกล่าวไม่ได้แจ้งยกเลิกกิจการก่อนวันดังกล่าว แม้จะอ้างว่าได้เลิกกิจการ ยุติการผลิตนิตยสาร และเลิกจ้างพนักงานไปแล้วตั้งแต่ 26 พ.ย. 2561 แต่บริษัทสามารถประกอบกิจการเมื่อไรก็ได้

"ผู้ถูกร้องยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วีลัค-มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนในวันที่ 6 ก.พ. 2562 อันเป็นวันที่ อนค. ยื่นบัญชีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อต่อผู้ร้อง (กกต.) ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทำให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)" ศาลรัฐธรรมนูญระบุ

ก่อนหน้านี้เมื่อ 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องคดีนี้ไว้พิจารณา และมีคำสั่งให้นายธนาธรยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง กำหนดว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง ให้ผู้นั้นพ้นตำแหน่งนับแต่วันที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงถือว่าวันที่ 23 พ.ค. เป็นวันที่สมาชิกภาพของนายธนาธรสิ้นสุดลง นั่นเท่ากับว่านายธนาธรเป็น "ผู้แทนฯ เต็มขั้น" เพียง 60 วัน หรือตั้งแต่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ถึง 22 พ.ค. ซึ่งเป็นวันก่อนศาลสั่งให้นายธนาธรพ้นจากสมาชิกภาพ

รัฐธรรมนูญ มาตรา 100 ระบุว่า "สมาชิกภาพ ส.ส. เริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง"

สำหรับตำแหน่ง ส.ส. ที่ว่างลง ให้ถือเอาวันที่ศาลอ่านคำวินิจฉัยให้คู่ความฟัง ก็คือวันที่ 20 พ.ย. โดยให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อเลื่อนรายชื่อ ส.ส. ในลำดับถัดไปแทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 7 วัน

การเดินทางเข้ารับฟังคำวินิจฉัยของนายธนาธรในครั้งนี้ มี ส.ส. สมาชิกพรรค และประชาชนผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจบริเวณโถงศูนย์ราชการ อาคารเอ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันมีตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ร่วมรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยคดี

ผลที่ตามมาหลังสิ้นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

แม้ต้องพ้นจากการทำหน้าที่ ส.ส. แต่เขายังมีสถานะทางการเมืองอื่น ๆ

  • นายธนาธรยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ตามเดิม
  • นายธนาธรยังเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากพรรคส่งเขาเข้าไปทำหน้าที่ในสัดส่วน "คนนอก" ไม่ใช่ในสัดส่วน ส.ส.
  • หลังนายธนาธรพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. นายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่ 51 ของ อนค. จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส. แทน โดยเขาคนนี้มีเชื้อสายกะเหรี่ยง และเป็นกรรมการเครือข่ายชาติพันธุ์ของ อนค.
  • 7 พรรคฝ่ายค้านจะกลับมามีที่นั่งในสภาเต็ม 244 เสียง หลังจาก 1 เสียงของนายธนาธรต้องหายไปในช่วง 6 เดือนที่ไม่สามารถร่วมลงมติใด ๆ ในสภาได้
  • หลังคำวินิจฉัยของศาลฯ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่พากันทวิตข้อความสื่อเป็นนัยว่า "ทุกอย่างยังเหมือนเดิม" แม้หัวหน้าพรรคพ้นจากการเป็น ส.ส.แล้ว โดย พรรณิการ์ วานิช โฆษก อนค. บอกว่า ธนาธรยังเป็นหัวหอกนำทีมเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ต่อไป

"ดาบต่อไป" จากผู้มีอำนาจ

ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองบางส่วน "ชี้ช่อง" เอาไว้ล่วงหน้าว่า กกต. อาจลง "ดาบสอง" แก่นายธนาธรกับพวกทั้งทางคดีอาญา หรือไปไกลถึงขั้นตั้งคดียุบพรรค โดยอาศัย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร มาตรา 151 ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัคร

  • ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี - ตามมาตรา 151
  • หากหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น ปล่อยปละละเลย หรือทราบการกระทำแต่ไม่ระงับยับยั้งเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต ให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอยุบพรรคได้ ตามมาตรา 132

เฉพาะกรณีมาตรา 151 ดูเป็นข้อวิเคราะห์ที่มีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อเอกสารข่าวสำนักงาน กกต. ซึ่งเผยแพร่เมื่อ 19 พ.ย. เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาของนายธนาธรที่ว่า กกต. ทำสำนวนคดีถือหุ้นสื่อโดยมี "มูลเหตุจูงใจทางการเมือง" ปรากฏว่า กกต. ได้ยอมรับว่ากำลังสืบสวนกรณีคดีอาญา

"ขณะนี้เป็นสำนวนอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต. ยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาด" เอกสารข่าวสำนักงาน กกต. ระบุ

ธนาธร

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ยัง "มั่นใจ" เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี

หลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เดินออกจากห้องพิจารณาคดี มาพบกลุ่มผู้สนับสนุนและสื่อมวลชนจำนวนมากที่รออยู่ด้านนอก

นายธนาธร กล่าวขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค และกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองหลังจากนี้ว่า แม้ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. แต่ไม่หยุดยั้งการทำงาน จะยังเดินหน้าทำงานทางการเมือง เช่น การรณรงค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การผลักดันยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และการทำพรรคอนาคตใหม่ให้เดินหน้าต่อไป

"เลือกตั้ง 24 มีนา ไม่ใช่สมรภูมิเดียว พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง ยังต้องผ่านการเลือกตั้งอีกเยอะและที่สำคัญ ผมยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี" นายธนาธรกล่าว

ข้าม Twitter โพสต์ , 1
ยินยอมรับเนื้อหาจาก Twitter

บทความนี้ประกอบด้วยเนื้อหาจาก Twitter เราขอความยินยอมจากคุณก่อนใช้คุกกี้ หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ บันทึกอะไรลงไป คุณอาจต้องอ่านนโยบายคุกกี้ของ Twitter และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Twitter ก่อนให้ความยินยอม หากต้องการอ่านเนื้อหานี้ โปรดเลือก "ยินยอมและไปต่อ"

สิ้นสุด Twitter โพสต์, 1