โควิด-19 : ยอดผู้เสียชีวิตในอินเดียพุ่ง ทำฌาปนสถานเผาศพไม่ทัน

คำบรรยายวิดีโอ, “เราไม่มีที่เหลือจะเผาศพพวกเขา”

"ไวรัสโคโรนามันน่ากลัวมาก และผมรู้ว่าไม่มีใครในนิวเดลีที่อยากเห็นภาพที่ผมได้เห็นมากับตา...การเผาศพเด็กอายุ 5 ขวบ, 15 ปี, 25 ปี และเผาศพคู่แต่งงานใหม่"

นี่คือคำบอกเล่าของ จิเทนเดอร์ ซิงห์ ชันตี นักการเมืองและผู้ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ที่ช่วยงานในฌาปนสถานแห่งหนึ่งในกรุงนิวเดลี และได้พบเห็นภาพอันน่าสลดใจของการเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทุกกลุ่มวัยที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด จนไม่มีที่พอจะเผาศพ

อินเดียกำลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 ระลอกที่สอง ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ยอดผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลราวกับ "คลื่นสึนามิ" ยังทำให้ระบบสาธารณสุขของอินเดียเข้าใกล้การล่มสลาย โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนออกซิเจน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

โดยวันที่ 27 เม.ย. อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 323,144 คน ลดลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดทุบสถิติที่ 352,991 คน ส่งผลให้ยอดสะสมของผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเกือบแตะ 17 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 192,000 คน

อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเชื่อว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้ เพราะการตรวจสอบของสถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) ของอินเดียพบข้อมูลว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนมีผู้เสียชีวิตจากโควิดอย่างน้อย 1,150 คนที่ไม่ได้ถูกนับรวมเข้าไปในตัวเลขของทางการ และพบกรณีเดียวกันนี้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ที่เผาศพชั่วคราว

จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานหลายแห่งทั่วประเทศต้องทำงานกันทั้งวันทั้งคืน และต้องขอแรงครอบครัวผู้เสียชีวิตบางรายช่วยในการก่อกองฟืนและพิธีการอื่น ๆ

ในกรุงนิวเดลี สถานการณ์เข้าขั้นเลวร้าย ฌาปนสถานหลายแห่งมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะรองรับศพที่หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลให้ต้องสร้างที่เผาศพชั่วคราวขึ้น

ฌาปนสถานที่ชื่อ ซาราย กาลี ข่าน ในกรุงนิวเดลี ซึ่งเดิมสามารถรองรับการเผาศพได้ 22 ศพ ได้เพิ่มที่เผาศพขึ้นใหม่อย่างน้อย 27 ที่ภายในฌาปนสถาน และอีก 80 ที่ บริเวณสวนที่อยู่โดยรอบ พนักงานที่นี่บอกว่าตอนนี้พวกเขาต้องเผาศพกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเที่ยงคืน

ส่วนฌาปนสถานกาซีปุระ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงนิวเดลี ต้องสร้างที่เผาศพชั่วคราว 20 ที่บริเวณลานจอดรถ เจ้าหน้าที่เผยกับหนังสือพิมพ์อินเดียนเอ็กซ์เพรสว่า ศพที่เข้ามาจำนวนมากทำให้ญาติต้องรอคิว 3 - 4 ชั่วโมง

Platforms being built outside the Sarai Kale Khan crematorium

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, ที่เผาศพชั่วคราวบริเวณสวนของฌาปนสถานที่ชื่อ ซาราย กาลี ข่าน

ขณะที่ จิเทนเดอร์ ซิงห์ ชันตี ซึ่งช่วยงานที่ฌาปนสถานของมูลนิธิชาฮีด บากัต ซิงห์ ศิวะ ดาล เล่าว่าพวกเขาก็กำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน โดยในช่วงปกติที่นี่เผาศพสูงสุดวันละ 8 ศพ แต่ตอนนี้พวกเขาเผาศพราว 80 ศพทุกวัน

"มีศพเข้ามามากมาย ฟืนของเรากำลังจะหมด สถานการณ์เลวร้ายมาก ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอีก 4 - 5 วัน เราก็คงจะต้องเผาศพกันบนถนนเพราะไม่มีทางเลือกอื่น" เขาบอก

"หัวใจของผมเต็มไปด้วยความสลดใจที่ได้เห็นเด็กเล็กมากมายล้มตายจากไวรัสโคโรนา...มีศพรอเผาเรียงรายอยู่มากมาย เราไม่มีที่เหลือในฌาปนสถานที่จะเผาศพพวกเขา พวกเรากำลังเผชิญกับช่วงเวลาอันเลวร้าย เลวร้ายมาก ๆ"

People prepare funeral pyres of those who died from the coronavirus disease (COVID-19), during a mass cremation, at a crematorium in New Delhi, India April 26, 2021

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานต้องขอแรงครอบครัวผู้เสียชีวิตบางรายช่วยในการก่อกองฟืนและพิธีการอื่น ๆ

รุนแรงเกินจุดวิกฤต

นพ.ซาซีร์ อัดวาเดีย ซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดสองแห่งในนครมุมไบ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า สถานการณ์โควิด-19 ในอินเดียรุนแรงเกินจุดวิกฤต

"ไวรัสเกาะกินประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคนอย่างเหนียวแน่น และได้เปิดเผยให้เห็นถึงระบบบริการสุขภาพและความล้มเหลวของพวกเรา"

แพทย์ผู้นี้ระบุว่า การระบาดระลอกที่สองของเชื้อโรคโควิดครั้งนี้ "ติดต่อกันได้ง่ายขึ้นและอาจอันตรายถึงชีวิตมากกว่าการระบาดระลอกแรก" เพราะเขาได้เห็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยลง

นพ.อัดวาเดีย กล่าวต่อว่า หายนะครั้งนี้แสดงให้เห็นการที่รัฐบาลอินเดียไม่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในระบบบริการสุขภาพมายาวนาน โดยจัดสรรงบประมาณมาใช้จ่ายด้านสาธารณสุขไม่ถึง 2% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศ

เขาชี้ว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นยังเป็นผลมาจากการที่ประชาชน "การ์ดตก" ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาด รวมทั้งการที่รัฐบาลชะล่าใจกับความสำเร็จในการควบคุมการระบาดระลอกแรกเมื่อปีที่แล้ว

"เราคิดว่าเราเอาชนะการระบาดระลอกแรก ทั้งที่เป็นแค่โชคช่วย และทั้งหมดเผยให้เห็นว่ามันเป็นแค่การทะนงตัวเท่านั้น"

นายแพทย์ผู้นี้กล่าวทิ้งท้ายว่า เวชภัณฑ์ที่เพิ่งส่งมาถึงอินเดียจากสหราชอาณาจักรเป็น "การทิ้งลงในมหาสมุทร"