วิกฤตเวเนซุเอลา : ประธานสภาฯประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการ พร้อมแรงหนุนจากสหรัฐฯและพันธมิตร แต่เสียงประณามจากรัสเซียและจีน
หลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วงและยืดเยื้อ เวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลก กำลังเผชิญกับวิกฤตการเมืองล่าสุด กับคำถามใหญ่ว่า ใครกันแน่คือประธานาธิบดีของประเทศในทวีปอเมริกาใต้แห่งนี้
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายฮวน กุยโด ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการ และบอกว่าตัวเขามีอำนาจบริหารประเทศแทนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ขณะที่ผู้ชุมนุมหลายพันคนประท้วงเรียกร้องให้ ปธน. มาดูโร ลาออก
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ประกาศสนับสนุนนายกุยโดทันที ตามด้วยเพื่อนบ้านของเวเนซุเอลา และพันมิตรของสหรัฐฯ
นี่เป็นการท้าทายโดยตรงต่อ ประธานาธิบดีมาดูโร ซึ่งเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 2 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
สภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นว่าการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้วไม่เป็นธรรม นั่นหมายความว่าประธานาธิบดีมาดูโรเป็น "ผู้ปล้นอำนาจ" และตำแหน่งประธานาธิบดียังว่างอยู่
สภานิติบัญญัติอ้างมาตรา 233 และ 333 ของรัฐธรรมนุญซึ่งบอกว่า ในกรณีดังกล่าว ให้ประธานสภานิติบัญญัติรับหน้าที่เป็นประธานาธิบดีรักษาการ ในขณะที่นายมาดูโรก็ยืนยันว่าเขายังเป็นประธานาธิบดีอยู่ เขาประณามสหรัฐฯ ว่าแทรกแซงการเมืองภายในเพื่อขับไล่เขา และประกาศขับไล่นักการทูตสหรัฐฯ ให้ออกจากเวเนซุเอลาภายใน 72 ชั่วโมง
ย้อนไปเมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว นายมาดูโร ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเขาโกงการเลือกตั้ง และการคว่ำบาตรของพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เวเนซุเอลาเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลก ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประเทศที่เคยร่ำรวยที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกาแห่งนี้ กลับต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรงจนควบคุมไม่อยู่ ไฟฟ้าไม่พอใช้ และเกิดภาวะขาดแคลนอาหารและยา เป็นเหตุให้ ชาวเวเนซุเอลามากกว่า 3 ล้านคนอพยพออกจากประเทศ
โลกตะวันตกหนุน ชาติสังคมนิยมค้าน
นอกจากสหรัฐฯ แล้ว ชาติในอเมริกาใต้ ได้แก่ บราซิล, โคลอมเบีย, ชิลี, เปรู, เอกวาดอร์, อาร์เจนตินา และปารากวัย รวมถึงแคนาดา ก็สนับสนุนนายกุยโด ด้วย อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนสหราชอาณาจักรระบุว่าการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วทั้งไม่เป็นธรรมและเสรี และบอกว่าเป็นเรื่องที่ "รับไม่ได้ที่สุด" ที่เวเนซุเอลาประกาศตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯ
จีน ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในเวเนซุเอลา ระบุว่า ต่อต้านการแทรกแซงทุกรูปแบบจากภายนอก ส่วนรัสเซียกล่าวประณามชาติมหาอำนาจจากตะวันตกที่สนับสนุนนายกุยโดโดยบอกว่านี่เป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติและเป็นการปูทางไปสู่การนองเลือด
รัสเซียมองเวเนซุเอลาว่าเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดในภูมิภาคนี้ และให้เงินกู้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และก็ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำมัน และการทหารของเวเนซุเอลา
เม็กซิโก, โบลิเวีย คิวบา และตุรกี แสดงความสนับสนุนต่อ ปธน. มาดูโร
แต่แม้จะได้เสียงสนับสนุนจะสหรัฐฯ และหลายชาติในอเมริกาใต้ นายกุยโดจะไม่ได้มีอำนาจในเชิงปฏิบัติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติกลายเป็นหมดอำนาจไปหลังการก่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่เมื่อปี 2017 ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลทั้งสิ้น
แม้ว่าสภานิติบัญญัติจะมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ ปธน. มาดูโร รับฟังแต่จากสภาร่างรัฐธรรมนูญ
กองทัพอยู่ข้างใคร
ว่ากันว่า ฝ่ายกองทัพของเวเนซุเอลาเป็นตัวแปรสำคัญท่ามกลางความขัดแย้งในครั้งนี้ จนถึงขณะนี้ ฝ่ายกองทัพยังคงสนับสนุน ปธน.มาดูโรอยู่ โดยที่ผ่านมา ปธน. มาดูโร ตบรางวัลให้คนในกองทัพหลายครั้งด้วยการขึ้นเงินเดือน และให้ทหารระดับสูงดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ หลายตำแหน่ง
ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. เป็นต้นมา ผู้บังคับบัญชากองทัพต่างก็แสดงความสนับสนุน ปธน. มาดูโร ผ่านทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตาม ก็มีวิดีโอที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียที่แสดงภาพเจ้าหน้าที่ทหารที่เปิดทางให้ขบวนผู้ประท้วงเดินทางผ่านไปได้
นายกุยโดได้ให้สัญญาว่าจะนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความมั่นคงหากเลิกให้การสนับสนุน ปธน. มาดูโร