อินเดีย-ปากีสถาน : การบินไทยกลับมาบินเส้นทางยุโรปแล้ว หลังศึกน่านฟ้า 2 ชาติทำหยุดบินไป 1 วัน
ทางการปากีสถานระบุว่าได้โจมตีเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอินเดียตก 2 ลำ หลังอินเดียส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีกลุ่มติดอาวุธซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในปากีสถาน ส่งผลให้การบินไทยประกาศยกเลิกเที่ยวบินไป-กลับยุโรปทั้งหมดแล้วเมื่อ 27 ก.พ.
ในสายวันที่ 28 ก.พ. การบินไทยแถลงว่า สามารถกลับมาบินเส้นทางยุโรปได้แล้ว โดยใช้เส้นทางเหนือน่านฟ้าจีนแทน
โฆษกกองทัพบกปากีสถานระบุว่า เครื่องบินรบหนึ่งในสองลำของอินเดียตกลงภายในเขตแดนของปากีสถาน และได้จับกุมตัวนักบินไว้แล้ว ก่อนหน้านี้อินเดียยังไม่ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวแต่ล่าสุดออกมายอมรับว่า เครื่องบินรบของตนถูกยิงตกหนึ่งลำ และนักบินหายตัวไปหนึ่งคน
นายกรัฐมนตรีปากีสถานนายอิมราน ข่าน ออกมาเรียกร้องให้มีแนวทางการรับมืออย่างมีความรับผิดชอบ
"อาวุธที่พวกเขามี และอาวุธที่เรามี เราจะรับมือกับการคำนวณที่ผิดพลาดได้หรือ ?"
เมื่อ 26 ก.พ. อินเดียส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีกลุ่มติดอาวุธซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในปากีสถาน เพื่อตอบโต้เหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเขตพูลวามาโดยกลุ่มติดอาวุธ JeM เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่กองกำลังตำรวจกึ่งทหารเสียชีวิต 46 นาย นับเป็นเหตุรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศปากีสถานแถลงเมื่อ 27 ก.พ.ว่า ได้เริ่มดำเนินการโจมตีทางอากาศข้ามเส้นแบ่งเขตหยุดยิง (line of control) ซึ่งแบ่งระหว่างแคชเมียร์ส่วนที่ปากีสถานและอินเดียควบคุม การเริ่มต้นโจมตีของอินเดียเมื่อ 26 ก.พ. เป็นการโจมตีทางอากาศผ่านเส้นแบ่งเขตดังกล่าวครั้งแรกนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศทำสงครามกันในปี 1971
มีรายงานว่า อินเดียได้ประกาศจำกัดพื้นที่น่านฟ้า สายการบิน Vistara ของอินเดียบอกว่า เที่ยวบินในภูมิภาคนี้ถูกระงับ
นอกจากนี้ ยังมีการยิงต่อสู้กันข้ามเส้นแบ่งเขตหยุดยิง และเมื่อวันอังคาร ทำให้พลเรือนชาวปากีสถานเสียชีวิต 4 ราย และอีก 10 คนได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่ฝ่ายอินเดียนั้นเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีทหาร 5 คนที่ได้รับบาดเจ็บ
การบินไทยกลับมาบินเที่ยวบินยุโรปแล้ว
ด้านการบินไทยแจ้งยกเลิกเที่ยวบินที่ทำการบินไปปากีสถานและเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับยุโรปทั้งหมด ในวันที่ 27 ก.พ. เนื่องจากปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้า จนถึงวันที่ 28 ก.พ. ได้กลับมาบินเส้นทางยุโรป ได้แล้ว โดยกลับมาบินผ่านน่านฟ้าจีนแทน
นนทกร ตระกูลพา ผู้จัดการทั่วไป การบินไทย ประจำสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ กล่าวกับ บีบีซีไทย ว่า ในวันที่ 28 ก.พ. นี้ เที่ยวบิน ทีจี 911 เส้นทาง ลอนดอน-กรุงเทพฯ จะออกเดินทางตามเวลาปกติ คือ 11.50 น.ส่วน ทีจี 917 เส้นทาง ลอนดอน-กรุงเทพฯ คาดว่าจะล่าช้าออกจากเวลาปกติคือ 23.00 เนื่องจาก เที่ยวบิน ทีจี 916 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ลอนดอน ต้องบินไปผ่านน่านฟ้าจีน ซี่งจะใช้เวลานานขึ้น
ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบตารางการบินและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง THAI resevation: 0330 400 4022 และ www.thaiairways.co.uk
สถานทูตไทยในปากีสถานแจ้งเตือน
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ได้ประกาศเตือนคนไทยที่อาศัยอยู่ในปากีสถานและนักท่องเที่ยวที่มีกำหนดเดินทางมาท่องเที่ยวปากีสถานหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเมือง Azad Jammu and Kashmir และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เช่น Mansehra Balakot Naran-Kaghan Rawoakot หลังเกิดการโจมตีบริเวณเส้นแบ่งเขตหยุดยิง (Line of Control - LOC) ในแคว้น Azad Jammu and Kashmir และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข +92 315 900 9949 ตลอด 24 ชั่วโมง และทางเฟซบุ๊ก @Thai.Islamabad
สถานการณ์ล่าสุด
กระทรวงสารสนเทศปากีสถานเผยแพร่ (ก่อนที่จะลบทิ้ง) วิดีโอที่แสดงให้เห็นหนึ่งในนักบินอินเดียที่กองทัพปากีสถานบอกว่าจับกุมไว้ได้
ในวิดีโอนี้ นักบินซึ่งถูกปิดตาและดูเหมือนมีเลือดบนใบหน้า แสดงตัวว่าคือ นาวาอากาศโท อภินันทาน นอกจากนี้ทางกระทรวงยังได้เผยแพร่วิดีโอทางทวิตเตอร์ซึ่งบอกว่าเป็นหนึ่งในเครื่องบินรบอินเดียที่ถูกยิงตก
ในการแถลงข่าว พลตรี อาซิฟ กาฟูร์ ระบุว่า ปากีสถานไม่มีทางเลือกอื่น หลังจากอินเดียโจมตีในเขตแดนของตนเมื่อวันอังคาร
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ปากีสถานไม่ได้โจมตีเป้าหมายทางการทหารอินเดีย (พื้นที่ชุมชนและฐานทัพ) แต่เป็นในที่โล่งแทน เพราะ "เราไม่อยากเดินหน้าไปสู่เส้นทางสงคราม"
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอินเดีย ซัชมา สวาราช ยังได้บอกอีกว่า อินเดียจะปฏิบัติด้วย "ความรับผิดชอบและการยับยั้งชั่งใจ"
"อินเดียไม่อยากเห็นสถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้อีก" สวาราช กล่าวระหว่างการประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซียและจีนในจีน
อินเดียระบุว่า การโจมตีทางอากาศที่เมืองบาลาก็อตทางตะวันตกเฉียงเหนือทำให้สมาชิกกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ปากีสถานบอกว่าไม่มีผู้เสียชีวิต
ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน ต่างก็เรียกร้องทั้งสองประเทศระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้
บทความนี้ประกอบด้วยเนื้อหาจาก Twitter เราขอความยินยอมจากคุณก่อนใช้คุกกี้ หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ บันทึกอะไรลงไป คุณอาจต้องอ่านนโยบายคุกกี้ของ Twitter และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Twitter ก่อนให้ความยินยอม หากต้องการอ่านเนื้อหานี้ โปรดเลือก "ยินยอมและไปต่อ"
สิ้นสุด Twitter โพสต์
บทวิเคราะห์โดย ซูติก บิสวาส ผู้สื่อข่าวบีบีซี
สิ่งที่เป็นประเด็นท้าทายของทั้งอินเดียและปากีสถานในเวลานี้คือ การพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นควบคุมไม่ได้ และการโจมตีทางอากาศในดินแดนของกันและกันระหว่างสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองนี้ เป็นสิ่งที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฮุสเซน ฮัคคานี อดีตเอกอัครราชทูตปากีสถานประจำสหรัฐฯ ผู้เคยเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีปากีสถาน 3 คน ยืนยันสิ่งนี้เมื่อค่ำวันอังคารที่ผ่านมา
ด้านนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงอินเดียเชื่อว่า กองทัพอินเดียจะเตรียมตัวเพื่อรับมือกับความขัดแย้งอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
อย่างไรก็ตาม แดเนียล มาร์คีย์ จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ บอกว่า ยังมีอีกหลายขั้นก่อนที่ความขัดแย้งนี้จะลุกลามกลายเป็นการต่อสู้กันทางอาวุธนิวเคลียร์ เขาเชื่อว่า ความรุนแรงจะทวีคูณหากปากีสถานเพิ่มเดิมพันด้วยการโจมตีพลเรือน
แต่สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น