ทารกถูกตัดต่อยีนเพื่อต้านเอชไอวีคู่แรกของโลกเสี่ยงอายุสั้น

ทารก

ที่มาของภาพ, Getty Images

"ลู่ลู่" และ "น่าน่า" ทารกฝาแฝดชาวจีนคู่แรกที่เกิดจากการตัดต่อยีนเพื่อให้มีภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวีแต่แรกเกิด มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอายุสั้นและติดเชื้อไวรัสบางชนิดได้ง่าย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการตัดต่อยีนให้เด็กทั้งสองไม่ได้คาดคิดมาก่อน

เมื่อหลายเดือนก่อน ศาสตราจารย์เฮ่อ เจี้ยนขุย นักวิทยาศาสตร์จากเมืองเซินเจิ้นของจีนประกาศว่า สามารถใช้เทคนิคการตัดต่อพันธุกรรมแบบคริสเปอร์-แคสไนน์ (CRISPR-Cas9) กำจัดยีน CCR5 ซึ่งเป็นช่องทางที่ไวรัสเอชไอวีใช้ผ่านเข้าสู่เซลล์ในร่างกายมนุษย์ออกไป ทำให้ตัวอ่อนในครรภ์มารดาที่ได้รับการตัดต่อยีนมีภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวีได้

แต่ทว่าผลการวิจัยล่าสุดของทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ของสหรัฐฯ พบว่าคนส่วนใหญ่จากกลุ่มตัวอย่าง 410,000 คน ซึ่งมีพันธุกรรมเหมือนกับทารกฝาแฝดดังกล่าวโดยธรรมชาติ มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร หรือเสียชีวิตก่อนจะมีอายุถึง 78 ปี สูงกว่าคนทั่วไปถึง 21% ทั้งยังติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อันตรายหลายชนิดได้ง่าย ซึ่งรวมถึงเชื้อไข้สมองอักเสบจากไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile Virus - WNV) อีกด้วย

ศาสตราจารย์ราสมัส นีลเซน ผู้นำทีมวิจัยดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ผลการศึกษาในวารสาร Nature Medicine บอกว่า ยีน CCR5 นั้นมีบทบาทสำคัญในสมอง ทั้งช่วยต่อต้านการติดเชื้อในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไข้หวัดใหญ่หลายชนิด

ศาสตราจารย์เฮ่อ เจี้ยนขุย

ที่มาของภาพ, JIANKUI HE

คำบรรยายภาพ, ศาสตราจารย์เฮ่อ เจี้ยนขุย ผู้ทดลองตัดต่อยีนทารกให้มีภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวี

"การที่คนเราไม่มียีน CCR5 อีกต่อไป แม้จะทำให้ต้านทานเอชไอวีได้ แต่ผลเสียที่ตามมานั้นไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง คนส่วนใหญ่คงไม่อยากจะทำการดัดแปลงพันธุกรรมในลักษณะนี้" ศ. นีลเซนกล่าว

ก่อนหน้านี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์จากทั่วโลกได้ร่วมกันประณาม ศ. เฮ่อ เจี้ยนขุย ว่าละเมิดหลักเกณฑ์ทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากในปัจจุบันวงการวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถจะล่วงรู้ถึงผลข้างเคียงจากการตัดต่อยีนได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทคนิคใหม่อย่างคริสเปอร์-แคสไนน์ ซึ่งน่าจะอันตรายเกินไปที่จะใช้กับมนุษย์ในขณะนี้

ศ. โรบิน โลเวลล์-แบดจ์ จากสถาบันชีวการแพทย์ฟรานซิสครีก (Francis Crick Institute) ของสหราชอาณาจักรระบุว่า "ผลวิจัยล่าสุดนี้ชี้ว่า การดัดแปลงพันธุกรรมมนุษย์โดยเลือกกำจัดยีน CCR5 ออกไปนั้น เป็นเรื่องโง่เขลาสิ้นดี"

เชื้อไวรัสเอชไอวีใช้ยีน CCR5 เป็นทางผ่านเข้าสู่เซลล์ในร่างกายมนุษย์

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, เชื้อไวรัสเอชไอวีใช้ยีน CCR5 เป็นทางผ่านเข้าสู่เซลล์ในร่างกายมนุษย์

เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางการจีนแถลงว่าศาสตราจารย์เฮ่อ "กระทำการอันมิชอบเพื่อแสวงหาชื่อเสียงให้กับตนเอง" และจะถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างหนัก

นอกจากนี้ ทางการยังยืนยันว่ามีหญิงอีกคนหนึ่งกำลังอุ้มครรภ์ทารกตัดต่อยีนของศาสตราจารย์เฮ่ออยู่ในขณะนี้ โดยมีกำหนดคลอดในเดือนกรกฎาคม แต่ทั้งหมดได้เข้าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐบาลจีนเรียบร้อยแล้ว