แก้ไข: ทรัมป์ปลดรักษาการ รมว.ยุติธรรม หลังขัดขืนคำสั่งห้าม 7 ชาติเข้าสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งปลดรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ หลังขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งห้าม 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศ ด้านโอบามาออกโรงหนุนชาวอเมริกันชุมนุมประท้วง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งปลดนางแซลลี เยตส์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ หลังขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพิเศษที่ห้ามพลเมืองของชาติมุสลิม 7 ชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน และแต่งตั้งให้นายดานา โบเอนเต อัยการเขตตะวันออกรัฐเวอร์จิเนีย เข้ารักษาการตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมแทน

ก่อนหน้านี้นางเยตส์มีหนังสือถึงบรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม โดยแจ้งให้ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งพิเศษดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งใจความในหนังสือระบุว่า คำสั่งของผู้นำสหรัฐฯ นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายตามที่ศาลของหลายเขตได้มีคำวินิจฉัยมาแล้ว ซึ่งเธอต้องรับผิดชอบให้จุดยืนของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปตามกฎหมาย และสอดคล้องกับพันธกิจของทางกระทรวงที่ต้องแสวงหาความเป็นธรรมและยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ นางเยตส์เป็นรักษาการ รมว.ยุติธรรมที่แต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโอบามา และยังคงปฏิบัติงานอยู่ในระหว่างที่รอให้นายเจฟฟ์ เซสชันส์ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ที่แต่งตั้งโดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ผ่านการรับรองจากวุฒิสภาก่อนเข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ทำให้การขัดขืนคำสั่งประธานาธิบดีของนางเยตส์ในครั้งนี้ไม่เป็นที่พอใจของนายทรัมป์เป็นอย่างมาก โดยเขาได้ทวีตข้อความว่า พรรคเดโมแครตพยายามหน่วงเหนี่ยวการแต่งตั้งคนของเขาให้ช้าที่สุดด้วยเหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ และทำให้ตอนนี้ตำแหน่งอัยการสูงสุดเป็นคนของโอบามา

ก่อนที่นางเยตส์จะออกหนังสือขัดขืนคำสั่งของนายทรัมป์ได้ไม่นาน อดีตประธานาธิบดีโอบามาได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นว่า เขารู้สึกใจชื้นที่เห็นชาวอเมริกันทั่วประเทศออกมาร่วมกันประท้วงคำสั่งของนายทรัมป์ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งได้รับทราบถึงเสียงของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดว่าจะได้เห็นเมื่อคุณค่าแบบอเมริกันถูกคุกคาม

นอกจากนี้ บรรดานักการทูตสหรัฐฯ ในต่างประเทศหลายร้อยคน กำลังเตรียมร่างหนังสือลับทางการทูตเพื่อยื่นคัดค้านคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเป็นทางการ โดยร่างเนื้อหาของหนังสือคัดค้านดังกล่าวระบุว่า การห้ามพลเมืองของ 7 ชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ นั้นไร้ซึ่งความเป็นอเมริกัน และจะไม่ทำให้สหรัฐฯ ปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งยังจะเป็นการส่งสาส์นที่ผิดไปยังโลกมุสลิมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาแถลงโต้ว่า บรรดานักการทูตควรจะยอมรับคำสั่งของประธานาธิบดีหรือลาออกไปเสีย