ธรรมนัส : ค้นราชกิจจาฯ เฟ้นหาแฟ้มข่าว สาวเส้นทาง ขึ้น-ลง แกนนำสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ

ธรรมนัส

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแกนนำคนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันความบริสุทธิ์ ประกาศ ไม่ลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล "ประยุทธ์ 2" แม้ต้องเผชิญกับการขุดคุ้ยประวัติในอดีตจากการเข้าไปพัวพันกับคดีอาชญากรรม

ในระหว่างเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนราว 7 นาที เมื่อ 10 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ. ธรรมนัส ปฏิเสธว่าตัวเขาไม่ใช่ "ผู้บงการ" คดียาเสพติด และต่อไปหากใครมาพูดถึงอดีตอีก จะไม่ตอบโต้ แต่ฟ้องดำเนินคดีทุกคน

การออกมาแถลงข่าวของ ร.อ. ธรรมนัส วานนี้ (10 ก.ย.) เกิดขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) และหนังสือพิมพ์ดิเอจ (The Age) ตีพิมพ์รายงานสืบสวนสอบสวน อ้างบันทึกคดีของตำรวจออสเตรเลียและศาลว่า ร.อ. ธรรมนัส เคยรับโทษจำคุกเป็นเวลา 4 ปีในเรือนจำออสเตรเลีย ก่อนถูกเนรเทศในปี 2540 เนื่องจากความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งอาชญากรลักลอบนำเข้าและค้าเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม

ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว ที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปหมดแล้ว การนำข่าวเก่ามาเขียนใหม่แบบละเอียดยิบ ต้องมีที่มาที่ไป ซึ่งรู้หมดแล้ว เรื่องนี้ต้องแก้ไขด้วยตนเอง

ธรรมนัส

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ชายหลายชื่อ

ก่อนหน้านี้ เขามีชื่อเดิม หลายชื่อ เช่น ยุทธภูมิ โบพรหม, พชร, มนัส และ ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็คือบุคคลคนเดียวกัน และที่น่าประหลาดใจคือ แม้ตกเป็นจำเลยและผู้ต้องขังในคดียาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2536-2540 และผู้ต้องหาร่วมคดีอุ้มฆ่านายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ หรือ "ด๊อกเตอร์บอส" ผู้เชี่ยวชาญสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ในปี 2541-2547 แต่ ร.อ. ธรรมนัส ก็ยังได้สิทธิกลับเข้ารับราชการในกองทัพ พร้อมยศที่ได้รับพระราชทานกลับมา มีคำนำหน้าชื่อเป็น "ร้อยโท" ก่อนเลื่อนเป็น "ร้อยเอก"

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ร.อ. ธรรมนัส เคยถูกปลดออกจากราชการทหาร 2 ครั้ง และก็ขอกลับเข้ารับราชการ 2 ครั้ง

ใครไล่ ร.อ. ธรรมนัส พ้นกองทัพ และใครรับเขากลับเข้ารับราชการ

บีบีซีไทยตรวจสอบเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา พบข้อมูลเกี่ยวกับเขา 3 รายการ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการรับราชการ รวมถึงตรวจสอบเอกสารข่าวเก่าที่เคยตีพิมพ์ สืบค้นเส้นทางการเติบโตในกองทัพของเขาเมื่อ 30 ปีก่อน นับจากเริ่มรับราชการในปี 2532 และ "ขาดอายุราชการ" ไป 4 ปีในระหว่างต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่ออสเตรเลีย ซึ่งในทางระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม หากใครขาดราชการเกิน 15 วัน ให้ถือว่า "หนีราชการต้องถูกปลดและถอดยศ"

ราชกิจจานุเบกษา

ที่มาของภาพ, ราชกิจจานุเบกษา

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2541 พล.อ. มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส. ในขณะนั้น) ได้หอบเอกสารขั้นตอนการขอเข้ารับราชการเป็นนายทหารสังกัดหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาของ ร.อ. พชร หรือ มนัส พรหมเผ่า เข้าพบนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ในขณะนั้น ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ตรวจสอบเบื้องลึกเบื้องหลัง รวมถึงเช็คประวัติอาชญากรรมและยาเสพติดของนายทหารรายนี้

"ผบ.สส. ได้บอกว่าต้องการรายละเอียดว่ามีใครฝากเข้ารับราชการ หรือความบกพร่องในจุดใดที่ผู้ใหญ่ไม่ทราบเรื่อง" นายชวนเปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อ 4 ก.ย. 2541

นายกฯ คนที่ 20 ยังสั่งการให้ พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ปลัดกระทรวงกลาโหม (ขณะนั้น) ไปตรวจสอบเรื่องนี้

ต่อมา 18 พ.ย. 2541 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดยศทหาร "ให้ถอด ร้อยโท พชร พรหมเผ่า สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ออกเสียจากยศ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2541 เนื่องจากประพฤติตนไม่สมควรตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช 2476" ประกาศ ณ วันที่ 24 ต.ค. 2541 โดยมี นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ธรรมนัส

ที่มาของภาพ, BBC Thai

สำหรับขั้นตอนการขอเข้ารับราชการตามระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ต้องมาจากความต้องการของหน่วย, ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมโดยกรมตำรวจ (ชื่อขณะนั้น), ผ่านการตรวจสอบว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่โดยศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) และสันติบาล, ผ่านการตรวจสอบคุณวุฒิการศึกษาจากสถาบันการศึกษา และตรวจสอบความประพฤติไปยังต้นสังกัดเดิม

เส้นทางเข้า ๆ ออก ๆ กองทัพของ ธรรมนัส

ที่มา : บีบีซีไทยสืบค้นและรวบรวมจากราชกิจจานุเบกษา, สรุปจากคำชี้แจง "ประวัติของ ร.อ. มนัส" ฉบับปลัดกระทรวงกลาโหม เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อ 3 ก.ย. 2541 และเอกสาร "ขั้นตอนการขอเข้ารับราชการเป็นนายทหารสังกัดหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาของ ร.อ. พชร หรือ มนัส พรหมเผ่า" ที่ ผบ.สส. นำเข้ารายงานต่อ รมว. กลาโหม เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อ 5 ก.ย. 2541

เดินหน้าทำงานต่อ

ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร ร.อ. ธรรมนัส ย้ำว่า จะเดินหน้าทำงานให้ประชาชน ไม่อยากให้วนกลับไปเรื่องในอดีต เพราะจะไม่ทำให้ประเทศเจริญ

"ผมว่าหากข้องใจเปิดหน้ามาชกกันเลยดีกว่า (หัวเราะเล็ก ๆ) ไม่ต้องเป็นอีแอบอย่างนี้ ที่พูดไม่ได้หมายถึงจะท้าชก เอามาพูดกันดีกว่า เอาแต่เรื่องอดีตมาพูด เราอยากจะจมอยู่กับอดีตหรืออยู่กับอนาคตล่ะครับ" ร.อ. ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า จะไม่ลาออกใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส ย้อนถามว่า "ทำไมผมต้องลาออกครับ... จำไว้เลยว่าลูกผู้ชายอย่างผมอยู่บนโลกความเป็นจริง" และยืนยันว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่กระทบภาพลักษณ์ ครม. ขอให้มาพิสูจน์กันว่าจะทำงานให้ประชาชนและแผ่นดินได้ดีอย่างไร"

ธรรมนัส

ที่มาของภาพ, BBC Thai