คาด "อาวุธเคมี" คร่าอย่างน้อย 58 ชีวิตในซีเรีย

ซีเรีย

ที่มาของภาพ, AFP

กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักรรายงานว่า การโจมตีโดยกองกำลังของรัฐบาลซีเรีย หรือโดยเครื่องบินรบรัสเซียในจังหวัดอิดลิบในวันนี้ (4 เม.ย.) อาจเป็นต้นเหตุทำให้ประชาชนจำนวนมากอยู่ในภาวะขาดอากาศหายใจ

หากยืนยันได้ว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นอาวุธเคมี จะถือได้ว่าเป็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งร้ายแรงที่สุดในซีเรีย นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน

ซีเรีย

ที่มาของภาพ, AFP

กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและเว็บไซต์ข่าวหลายแห่งได้โพสต์รูปภาพของผู้ที่เสียชีวิตจากการหายใจไม่ออก จนขาดอากาศและเสียชีวิตในที่สุด

ที่ผ่านมารัฐบาลซีเรียปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ใช้อาวุธเคมี

อย่างไรก็ตาม การสืบสวนของสหประชาชาติและองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี ออกรายงานสรุปเมื่อเดือนตุลาคมว่า กองกำลังรัฐบาลเคยนำคลอรีนมาใช้เป็นอาวุธอย่างน้อย 3 ครั้ง ระหว่างปี 2557 -2558 รายงานยังระบุด้วยว่ากลุ่มที่เรียกตนเองว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เคยใช้ซัลเฟอร์มัสตาร์ด ซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรง

ซีเรีย

ที่มาของภาพ, AFP

กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวทางการแพทย์ว่า หลังการโจมตีตอนรุ่งเช้าวันนี้ ประชาชนหลายคนเป็นลม คลื่นไส้อาเจียน และมีน้ำลายฟูมปาก

เหยื่อส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมทั้งเด็กอย่างน้อย 9 คน

จังหวัดอิดลิบซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏหลายกลุ่ม ตกเป็นเป้าการโจมตีทางอากาศจากหลายฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกองกำลังรัฐบาลซีเรีย รัสเซียที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มพันธมิตรปราบไอเอสที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ