สงครามในซีเรีย : สหรัฐฯยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพซีเรีย ตอบโต้ใช้อาวุธเคมี
กองทัพสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธ กว่า 50 ลูกจากเรือพิฆาตเข้าใส่ฐานทัพซีเรีย ที่สงสัยว่าเป็นสถานที่ปล่อยอาวุธเคมีเข้าใส่พลเรือน ขณะที่ถ้อยแถลงการณ์ของซีเรียระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้แล้ว 6 คน
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า มีการยิงขีปนาวุธนำร่องโทมาฮอว์ค 59 ลูก จากเรือพิฆาตของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เข้าใส่ฐานทัพอากาศในซีเรีย
การโจมตีครั้งนี้เป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกของสหรัฐตอบโต้ปฏิบัติการของกองทัพซีเรียภายในการสนับสนุนโดย ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรีย
ล่าสุดรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งให้การสนับสนุนประธานาธิบดี อัสซาด ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวของสหรัฐ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า "เป็นพฤติกรรมก้าวร้าวต่ออธิปไตยของประเทศ" รวมทั้งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเลวร้ายลง
อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐฯแจ้งว่า ก่อนการโจมตี ได้แจ้งข้อมูลให้ทางการรัสเซียซึ่งให้การสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียมาโดยตลอด ได้รับทราบแล้ว
ขณะที่ นายไมเคิล ฟอลลอนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่า รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรให้การสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธในซีเรียโดยสหรัฐอย่างเต็มที่ แม้ว่ากองทัพอังกฤษไม่ได้รับการร้องขอให้มีส่วนในปฏิบัติการในครั้งนี้ แต่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วก่อนที่จะมีการโจมตี โดยระบุว่าเป็นปฏิบัติการที่เหมาะสมและอยู่ในพื้นที่จำกัด
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้สั่งการโจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียซึ่งเป็นสถานที่เปิดปฏิบัติการโจมตีใส่พลเรือน ซึ่งเชื่อว่าใช้อาวุธเคมีประเภทสารทำลายระบบประสาท จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา
เขายังเรียกร้องให้ "ทุกอารยประเทศ" ช่วยกันยุติความขัดแย้งในซีเรีย
วานนี้ (6 เม.ย.) นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าประธานาธิบดีอัสซาดแห่งซีเรีย ไม่ควรมีบทบาทในอนาคตของซีเรีย ซึ่งคำพูดนี้ ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางในนโยบายต่อซีเรียของรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ