สม รังสี: อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาเดินทางถึงมาเลเซีย เผยได้รับเชิญให้พูดคุยกับสมาชิกรัฐสภา

นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา เดินทางจากฝรั่งเศส ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หลังก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทยเพื่อเดินทางมายังประเทศไทยและข้ามพรมแดนกลับเข้ากัมพูชาตามแผน

หลังเดินถึงสนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้สื่อข่าวได้ถามนายสม รังสี ว่า จะมาทำอะไรที่มาเลเซีย เขาตอบว่า "มาเลเซียเป็นประเทศที่สวยงาม ผมมีเพื่อนหลายคนที่นี่ และมาเลเซียมีผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ"

นายสม รังสี กล่าวว่า เขาจะอยู่ที่มาเลเซีย 2-3 วัน และได้รับเชิญไปพูดคุยกับสมาชิกรัฐสภาของมาเลเซียที่รัฐสภาในวันที่ 12 พ.ย. นี้ โดยจะเป็นการพูดคุยกันเกี่ยวกับความร่วมมือทั่วไป และการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและกัมพูชา นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามนายสมว่า ระหว่างการเยือนครั้งนี้ เขามีแผนที่จะเดินทางกลับกัมพูชาผ่านทางประเทศไทยหรือไม่ เขาตอบว่า "ผมพูดอะไรไม่ได้ในตอนนี้" แต่เขาได้ยืนยันว่า จะเดินทางกลับกัมพูชา เพราะเป็นสิทธิและหน้าที่ของเขา

นายสม รังสี ได้กล่าวถึงชาวกัมพูชาที่กำลังรอคอยการกลับไปของเขาว่า "ขอให้มีความหวัง เราจะชนะ"

ก่อนหน้านี้ นายสม รังสี และคณะมีแผนที่จะเดินทางออกจากกรุงปารีสของฝรั่งเศส ด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี 931 ของสายการบินไทย เวลา 12.30 น. วันที่ 7 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น และมีกำหนดเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 06.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ตามเวลาในประเทศไทย แต่นางโซมูรา จูลอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ฝ่ายค้านของกัมพูชา เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า เธอพร้อมด้วย สามี คือ นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา กับ อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านอีกคนหนึ่ง ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทย

ด้านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อ้านถึงมติของอาเซียนซึ่งจะไม่ยุ่งกิจการภายในซึ่งกันและกัน และระบุว่าจะไม่ยอมให้ผู้ต่อต้านรัฐบาลมาใช้พื้นที่ไทยในการเคลื่อนไหว ซึ่งเขาได้สั่งการเรื่องนี้ไปแล้วว่า ไม่ให้นักการเมืองกัมพูชาผู้นี้เข้ามาในไทย

กลับมาฟื้นฟูประชาธิปไตย

นายสม รังสี ได้เคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดีย ในช่วงไม่กี่วันนี้ โดยได้โพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาษาอังกฤษ เผยถึงจุดประสงค์ในการเดินทางกลับกัมพูชาว่า เขาต้องการฟื้นฟูประชาธิปไตยในกัมพูชา ซึ่งขณะนี้ถูกปกครองโดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผู้ที่เป็นที่รู้กันว่าเป็น "เผด็จการที่โหดเหี้ยม"

"สำหรับคนที่รู้จักผม นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้เห็นผมมีชีวิตในฐานะเสรีชน" เขากล่าวเป็นภาษาอังกฤษในคลิป

นายสม รังสี กล่าวว่าพรรคฝ่ายค้านที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นกับนายเกิม โซะคา ประสบความสำเร็จ ได้คะแนนเสียงจากประชาชนทั่วประเทศราวครึ่งหนึ่ง ทั้งที่ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง ต่อมาพรรคของเขาถูกยุบ ตามอำเภอใจรัฐบาล ดังนั้นจึงไม่สามารถเข้าร่วมการเลือกตั้งในอนาคตได้ ขณะที่เพื่อนสมาชิกในพรรคของเขาถูกลอบสังหาร ถูกจับกุมตัว หรือจำต้องลี้ภัย

"ดังนั้น ผมจึงไม่มีทางเลือกใดเหลือ นอกจากกลับมายังกัมพูชาเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในแบบที่ไม่ใช้ความรุนแรง ด้วยการสร้างแบบอย่างของพลังประชาชน คล้ายกับในฟิลิปปินส์ในปี 1986" นายสม รังสี กล่าวในคลิป

เตรียมจับตัว

มีรายงานจากสื่อในกัมพูชาหลายแห่งว่า ทางการติดภาพประกาศจับตัวนายสม รังสี และนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านหลายคน ที่ด่านต่าง ๆ ตามแนวชายแดนติดกับประเทศไทย

พล.ท. สเรย ดึก ผู้บัญชาการกองพลที่ 3 ของกัมพูชา กล่าวเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ว่า ทางกองทัพ พร้อมที่จะจับกุมตัวพวกเขา

"ภาพของพวกผู้ทรยศเหล่านั้นถูกติดอยู่ตามแนวชายกัมพูชา-ไทย" พล.ท.สเรย ดึก กล่าว และระบุด้วยว่า ทหารไทยได้รับแจ้งถึงแผนการเดินทางมาถึงของนายสมแล้ว และพวกเขาจะต้องถูกจับกุมตัว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย

ชะตากรรมนักการเมืองฝ่ายค้าน

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวหาฝ่ายค้านว่า ปลุกระดมให้เกิดการทำรัฐประหารขึ้น และรัฐบาลของเขาได้จับกุมนักเคลื่อนไหวแล้วอย่างน้อย 48 คนที่สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านของนายสม รังสี โดยนายเกิม โซะคา หัวหน้าพรรค CNRP ถูกจับกุมในข้อหากบฏในปี 2017 และหลายเดือนต่อมาศาลสูงสุดได้ส่งยุบพรรค CNRP ส่งผลให้พรรคของฮุน เซน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปีที่แล้วได้ทุกที่นั่งในสภา

ส่วนนายสม รังสี ลี้ภัยไปฝรั่งเศสเมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท นอกจากนี้เขายังได้รับโทษจำคุก 5 ปีในอีกคดีหนึ่งด้วย นายสมปฏิเสธการกระทำผิดและระบุว่า ทุกข้อกล่าวหาล้วนมาจากการเมือง

ขณะที่นางมู ซกฮัว รองประธานพรรค ได้ลี้ภัยออกจากประเทศหลังจากที่นายเกิม โซะคา ถูกจับตัวไม่นาน