ไวรัสโคโรนา : "คอนเทเจี้ยน สัมผัสล้างโลก" ภาพยนตร์จากทศวรรษที่แล้วกลับมาฮิต หลังการระบาดของโควิด-19

Contagion movie poster

ที่มาของภาพ, Warner Bros

คำบรรยายภาพ, ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทำเงินได้แค่อันดับ 61 จากทั่วโลกในปีนั้น

คอนเทเจี้ยน สัมผัสล้างโลก (Contagion) ภาพยนตร์ที่เข้าฉายเมื่อปี 2011 ไม่ได้ประสบความสำเร็จสักเท่าไร แม้จะมีนักแสดงดังอย่างแมตต์ เดมอน, จูด ลอว์, เคท วินสเล็ต และกวินเน็ธ พัลโทรว์ เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินได้แค่อันดับ 61 จากทั่วโลกในปีนั้น

แต่จู่ ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็กลับมาเป็นที่นิยม มีการดาวน์โหลดมากที่สุดเรื่องหนึ่งบน iTunes Store ของ Apple ในสหรัฐฯ

ตอนที่ไวรัสเริ่มแพร่ระบาดเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว Warner Bros. บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์บอกว่า คอนเทเจี้ยน ได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ 270 ของภาพยนตร์ประเภทเดียวกัน แต่ 3 เดือนให้หลัง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรองแค่ภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี พอตเตอร์ ทั้ง 8 ภาค

ชีวิตจริงเหมือนหนัง

Matt Damon an Gwyneth Paltrow pose for pictures during the Contagion premiere in 2011

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, กวินเน็ธ พัลโทรว์ เล่นเป็นนักธุรกิจหญิงซึ่งเสียชีวิตจากไวรัสลึกลับ ขณะที่สามีของเธอซึ่งแสดงโดยแมตต์ เดมอน มีภูมิคุ้มกัน

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นักธุรกิจหญิงซึ่งแสดงโดย กวินเน็ธ พัลโทรว์ เสียชีวิตจากไวรัสลึกลับที่ติดขณะเดินทางไปจีน และเป็นกรณีที่ได้สร้างสภาวะฉุกเฉินไปทั่วโลก ความเชื่อมโยงกับจีนยิ่งทำให้ภาพยนตร์ได้รับความนิยมมากเข้าไปใหญ่เพราะคนดูหนังไปและก็รู้สึกกังวลกับสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงไปด้วย

กวินเน็ธ พัลโทรว์ ออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยการโพสต์รูปตัวเองใส่หน้ากากอนามัยป้องกันขณะนั่งเครื่องบินไปกรุงปารีส โดยเขียนข้อความว่า "หวาดระแวง? ระมัดระวัง ...การระบาดใหญ่? การโฆษณาชวนเชื่อ? ...ฉันเคยอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้ว รักษาตัวด้วย อย่าจับมือกัน ล้างมือบ่อย ๆ"

ข้าม Instagram โพสต์
ยินยอมรับเนื้อหาจาก Instagram

บทความนี้ประกอบด้วยเนื้อหาจาก Instagram เราขอความยินยอมจากคุณก่อนใช้คุกกี้ หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ บันทึกอะไรลงไป คุณอาจต้องอ่านนโยบายคุกกี้ของ Instagram และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Instagram ก่อนให้ความยินยอม หากต้องการอ่านเนื้อหานี้ โปรดเลือก "ยินยอมและไปต่อ"

คำเตือน:เนื้อหาภายนอกอาจมีโฆษณา

สิ้นสุด Instagram โพสต์

ความเหมือน

ตัวละครที่พัลโทรว์แสดงติดไวรัสชื่อ MEV-1 จากการจับมือกับเชฟชาวฮ่องกงซึ่งเพิ่งไปจับหมูที่ถูกฆ่าซึ่งติดเชื้อมาจากค้างคาวอีกที จากนั้นเธอก็เดินทางกลับบ้านก่อนจะล้มป่วยและเสียชีวิต ลูกชายเธอเสียชีวิตด้วยในเวลาต่อมา แต่สามีของเธอซึ่งแสดงโดยแมตต์ เดมอน มีภูมิคุ้มกัน

สำหรับไวรัสโคโรนา ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการแพร่ระบาดเกิดจากสัตว์สู่คน และยังเชื่อกันด้วยว่าเริ่มต้นมาจากค้างคาว เช่นเดียวกับการระบาดโรคซาร์ส (SARS) เมื่อปี 2002 ถึง 2003

Fruit bats

ที่มาของภาพ, Getty Images

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่เห็นพ้องกันว่าแท้จริงแล้วเกิดมาจากสัตว์อะไร แต่รายงานขององค์การอนามัยโลกเชื่อว่ามาจากตลาดค้าสัตว์ในจีน

ตัวละครในภาพยนตร์ก็แพร่เชื้อด้วยการสัมผัสมนุษย์เหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นจริงในตอนนี้

Chickens at a Hong Kong food market

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, เช่นเดียวกับในภาพยนตร์ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาเกิดจากสัตว์สู่คน

แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง

ทั้งโรคในภาพยนตร์และเรื่องจริงต่างก็ส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจ แต่ไวรัส MEV-1 แต่งขึ้นโดยเอาตามไวรัสที่มีอยู่จริงที่ชื่อ Nipah ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ที่แตกต่างอีกอย่างคือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ร้ายแรงน้อยกว่าในภาพยนตร์ซึ่งมีอัตราผู้เสียชีวิตถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่โรคโควิด-19 อยู่ที่ 3.4 เปอร์เซ็นต์ ในคอนเทเจี้ยน มีผู้เสียชีวิตไป 26 ล้านคนขณะที่เรื่องจริงตอนนี้ยังมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 4 พันคน

เรื่องจริงที่เหมือนในภาพยนตร์ที่สุดคือ ไข้หวัดใหญ่สเปน เมื่อปี 1918 ถึง 1920 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ล้านคน

ในภาพยนตร์ เกิดการกักตัวพลเมืองในนครชิคาโก ซึ่งเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในจีนและอิตาลี

Spanish flu patients at an American hospital in 1918

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, ไข้หวัดใหญ่สเปน เมื่อปี 1918 ถึง 1920 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ล้านคน

ผู้เขียนบท

สกอตต์ ซี. เบิร์นส์ ซึ่งเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ ให้สัมภาษณ์นิตยสาร Fortune ว่า ความคิดเบื้องหลังของภาพยนตร์มีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่าสังคมสมัยใหม่เปราะบางต่อการแพร่ระบาดแบบนี้แค่ไหน

เขาบอกว่าความคล้ายคลึงของภาพยนตร์กับเรื่องจริงไม่สำคัญและเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่สิ่งที่สำคัญและแม่นยำคือการรับมือของสังคมและความกลัวของคน

ในภาพยนตร์ จูด ลอว์ แสดงเป็นบล็อกเกอร์ที่ชอบเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด เผยแพร่ข่าวลือ วิธีรักษาไวรัสที่ผิด ๆ

กลับมาที่โลกแห่งความเป็นจริงปัจจุบัน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอมะซอนประกาศว่าได้ยกเลิกการขายสินค้ากว่าล้านชิ้นโดยผู้ค้ารายย่อยบนเว็บไซต์เนื่องจากการโฆษณาชวนเชื่อรักษาและป้องกันโรคโควิด-19 แบบผิด ๆ

เบิร์นส์ บอกกับ นสพ.นิวยอร์กไทมส์ว่า เขาเองก็ตกเป็นเหยื่อถูกกล่าวหาทางโซเชียลมีเดียเช่นกันว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรลับที่ควบคุมความเป็นไปต่าง ๆ ในโลก

Scott Z Burns

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, สกอตต์ ซี เบิร์นส์

ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์

ความนิยมของ คอนเทเจี้ยน สัมผัสล้างโลก อาจมาจากการที่ เบิร์นส์ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจริง ๆ ตอนเขียนบท รวมถึงคนจากองค์การอนามัยโลกด้วย

"ตอนผมคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ พวกเขาต่างก็บอกเหมือนกันว่า คำถามไม่ใช่ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดหรือไม่ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ต่างหาก"