ปูตินสั่งลดจำนวนบุคลากรประจำสถานกงสุลและสถานทูตสหรัฐฯ ในรัสเซียครั้งใหญ่

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย มีคำสั่งให้คณะทูตสหรัฐฯ ตัดลดจำนวนบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ทั่วรัสเซียจำนวนทั้งสิ้น 755 คน เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ผู้นำรัสเซียมีคำสั่งดังกล่าวออกมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 ก.ค. แต่เพิ่งมีการยืนยันจำนวนบุคลากรต้องออกจากสถานทูตและสถานกงสุลอเมริกันในวันนี้ (31 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์การทูตของโลกสมัยใหม่

คำสั่งนี้จะส่งผลกับบุคลากรใต้สังกัดสหรัฐฯ ทั้งที่สถานเอกอัครราชทูตในกรุงมอสโก รวมทั้งสถานกงสุลที่เมืองเอคาเทอรินเบิร์ก วลาดิวอสต็อก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วย

ทางการสหรัฐอเมริการะบุว่าคำสั่งดังกล่าว "น่าผิดหวังและเกินกว่าเหตุ" และกำลังประเมินผลกระทบจากการถูกจำกัดจำนวนบุคลากร และพิจารณาว่าจะตอบโต้อย่างไร

ขณะนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีจำนวนบุคลากรสัญชาติอเมริกันที่ทำหน้าที่ทางการทูตในรัสเซียกี่คน แต่จากรายงานโดยหน่วยงานตรวจสอบกลางของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อปี 2013 ระบุว่า บุคลากรมากกว่า 900 รายเป็น "การจ้างในท้องถิ่น" และมีบุคลากรเพียง 301 รายที่ "จ้างโดยตรง" นั่นหมายความว่า มีความเป็นได้ว่าจำนวนคนที่ต้องถูกบีบออกจากรัสเซียจริง ๆ จะน้อยกว่า 755 รายอยู่มาก

นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียยังมีคำสั่งให้ยึดบ้านพักตากอากาศและโกดังแห่งหนึ่งที่นักการทูตสหรัฐฯ ใช้งานอยู่บริเวณชานกรุงมอสโก ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ ยึดทรัพย์สินของคณะทูตรัสเซียไปก่อนหน้านี้

ประธานาธิบดีปูตินแถลงถึงคำสั่งดังกล่าวทางโทรทัศน์และกล่าวเสริมว่า ยังไม่ต้องการจะออกมาตรการตอบโต้ใดๆ ต่อสหรัฐฯ มากไปกว่านี้ และคาดว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จะยังคงไม่กระเตื้องขึ้นในเร็ววัน

ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ เพื่อลงโทษที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียเมื่อปี 2014 และเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเมื่อปีที่แล้วอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้สั่งขับนักการทูตรัสเซียไปด้วยเหตุนี้ 35 คน