โควิด-19 : ศบค.ย้ำการคัดกรองยังสำคัญ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 รายจากต่างประเทศ
ศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 (ศบค.) รายงานตัวเลขติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น 3 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐ ขณะที่มาตรการผ่อนปรนระยะที่สองเริ่มแล้ววันนี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า มีผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่รวม 3 รายทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 3,028 ราย ในจำนวนนี้มี 2,856 รายที่รักษาหายกลับบ้านแล้ว และมีผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 56 ราย ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 116 รายส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานครและภาคใต้
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State quarantine โดยแบ่งเป็นคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน 1 ราย เป็นนักศึกษาเพศชายอายุ 23 ปี กลับมาไทยเมื่อวันที่ 7 พ.ค.
ส่วนอีก 2 ราย เป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากอียิปต์ เป็นนักศึกษา เพศชายอายุ 21 ปี และ 23 ปี ตามลำดับโดยทั้งสองกลับมายังประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา
การซุ่มตรวจด้วยสารคัดหลั่งก่อนคนไทยกลับประเทศยังสำคัญ
นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า เมื่อเช้าได้พูดคุยกันในที่ประชุมของคณะกรรมการประสานงานกลางของ ศบค. พบว่า การซุ่มตรวจด้วยตรวจสารคัดหลั่งทางโพรงจมูก ซึ่งผ่านการตรวจมาแล้วจากต้นทางโดยกระทรวงการต่างประเทศผ่านสถานทูตทั้งสองประเทศ ณ ตอนนั้นตรวจไม่เจอ แต่กลับมาพบว่าติดเชื้อในระหว่างที่กักตัว
"ระยะเวลาของการฟักเชื้อของเชื้อโรคนี้ใช้เวลาอยู่พอสมควร" โฆษก ศบค.กล่าว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงจากจำนวนผู้ติดเชื้อ 2 สัปดาห์หลังจากที่มีมาตรการผ่อนปรนมาแล้วนั้น พบว่า ปัจจัยเสียงหลัก ๆ มีอยู่ 5 ประการ
- ศูนย์กักกัน ผู้ต้องกัก ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยจำนวน 23 ราย
- การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 18 ราย
- การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า มีผู้ติดเชื้อ 16 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐ (state quarantine) มีผู้ติดเชื้อ 10 ราย
- ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว รวม 3 ราย