โควิด-19 : ผู้ป่วยรายใหม่ในไทยกลับมาเกิน 10 รายอีกครั้ง ทั้งหมดเดินทางกลับจากต่างประเทศ

คนเดินทางที่สนามบิน

ที่มาของภาพ, Getty Images

จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในประเทศไทยในรอบ 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็นหลักสิบเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งเดือน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 คน ทั้งหมดเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก องค์การอนามัยภาคพื้นอเมริกา (Pan American Health Organization หรือ PAHO) ระบุว่า ภูมิภาคลาตินอเมริกาได้กลายมาเป็นศูนย์กลางแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แห่งใหม่แล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันสูงกว่าในยุโรปและสหรัฐฯ แล้ว

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่าวันนี้ (28 พ.ค.) พบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันโรคเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยจากการสอบประวัติพบว่าประกอบอาชีพที่แตกต่างกันไป ไม่ได้มีเฉพาะพนักงานนวด และมีปัจจัยเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น สภาพที่อยู่อาศัยและการเดินทางไปที่ชุมนุมชน

ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,065 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 57 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ 63 ราย และรักษาหายแล้ว 2,945 ราย

วันนี้นับเป็นวันแรกในรอบ 24 วันที่ผู้ป่วยรายใหม่ในไทยเกินหลักสิบ โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ค.พบผู้ป่วยรายใหม่ 18 ราย สำหรับผู้ป่วยใหม่ 11 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศอินเดีย 1 ราย เป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 32 ปี เดินทางไปอินเดียเพื่อท่องเที่ยว เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. เข้าพักที่สถานกักกันโรคของรัฐใน จ.สมุทรปราการ
  • ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกาตาร์ 6 ราย เป็นชาย 5 ราย อายุระหว่าง 27-37 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานนวด และผู้ป่วยหญิง 1 ราย อายุ 52 ปี เป็นแม่บ้าน หลังจากเดินทางกลับเข้าประเทศได้เข้าพักที่สถานกักกันโรคในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะตรวจพบเชื้อ บางรายมีอาการลิ้นไม่รับรส ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ มีเสมหะ บางคนไม่มีอาการ
  • ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศคูเวต 4 ราย เป็นผู้ป่วยชาย อายุระหว่าง 39-51 ปี ทำงานและพักในแคมป์คนงานของบริษัทต่างชาติ

โฆษก ศบค. ให้ข้อมูลว่าในจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้ง 3,065 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศกว่า 621 ราย คิดเป็น 20.26 % ทั้งเป็นผู้ที่อาศัยในต่างประเทศ แรงงานที่ทำงานในต่างประเทศและนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ขณะที่การติดเชื้อในประเทศมี 2,444 ราย คิดเป็น 79.74%

ทั้งนี้ ระหว่างเดือน ก.พ - 28 พ.ค. พบผู้ป่วยที่อยู่ในสถานกักกันของรัฐจำนวน 128 ราย จากผู้ที่เข้ารับการดูแลทั้งหมด 27,302 ราย คิดเป็นอัตราการป่วย 0.47% โดยผู้ที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีทางศาสนาที่อินโดนีเซียเป็นผู้ป่วยกลุ่มก้อนใหญ่สุด

นพ. ทวีศิลป์กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมาแพทย์พบว่าผู้ป่วยรายใหม่มักมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่นและปวดศีรษะ จึงแนะนำให้ประชาชนเฝ้าสังเกตอาการตัวเองว่าหากไปในพื้นที่ชุมนุมชนแล้วมีอาการดังกล่าวให้ไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจทันที

ผู้เสียชีวิตในบราซิลพุ่ง

อัตราการเสียชีวิตรายวันในบราซิลกำลังจะสูงที่สุดในโลก โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มเป็น 5 เท่าจากตอนนี้ เป็น 1.25 แสนรายภายในเดือน ส.ค.

ขณะนี้ บราซิลมียอดผู้ติดเชื้อ 3.9 แสนราย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการตรวจเชื้อน้อยมาก และตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก

ทางการสหรัฐฯ สั่งห้ามคนที่เดินทางไปบราซิลในช่วง 14 วันย้อนหลังเข้าประเทศแล้ว

Brazilian soldiers in protective suits prepare to disinfect a public shelter in Rio de Janeiro. Photo: May 2020

ที่มาของภาพ, AFP/Getty Images

คำบรรยายภาพ,

บราซิลมียอดผู้ติดเชื้อ 3.9 แสนราย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการตรวจเชื้อน้อยมาก และตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก

ขณะนี้ นิวซีแลนด์ ซึ่งควบคุมสถานการณ์ได้ดีที่สุดประเทศหนึ่ง ไม่มีคนไข้โควิด-19 ในโรงพยาบาลแล้ว และทางการจะอนุญาตให้คนถึงร้อยคนมารวมตัวกันได้แล้วตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. เป็นต้นไป

สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศสระบุว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะหดตัวถึง 20 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่สองโดยเป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยในไตรมาสแรกเศรษฐกิจหดตัวไปแล้วเกือบ 6 เปอร์เซ็นต์

เยอรมนีประกาศให้คนรักษาระยะห่างทางสังคมต่อไปจนถึง 29 มิ.ย. ประชาชนสามารถรวมตัวพบปะกันได้ถึง 10 คน ส่วนที่สเปน มีการเริ่มไว้อาลัยผู้เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวาน (27 พ.ค.) เป็นเวลา 10 วัน เพื่อรำลึกถึงผู้ที่ถูกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตไปมากกว่า 2.7 หมื่นรายแล้ว

Ursula von der Leyen file pic

ที่มาของภาพ, AFP

คำบรรยายภาพ,

ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เสนองบฟื้นฟูวิกฤตโควิด-19 สำหรับประเทศในสหภาพยุโรปเป็นเงิน 7.5 แสนล้านยูโร

นางเออร์ซูลา ฟอน เดร์ ไลยอน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เสนองบฟื้นฟูวิกฤตโควิด-19 สำหรับประเทศในสหภาพยุโรปเป็นเงิน 7.5 แสนล้านยูโร โดยจะให้ทุกชาติในสหภาพยุโรปกู้ยืมร่วมกัน แต่ก็มีบางประเทศอย่างออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และสวีเดน ที่ไม่เห็นด้วยว่าต้องรับภาระให้ชาติอื่น

ที่สหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน บอกว่า จะเริ่มระบบการตรวจและตามรอยผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันนี้ (28 พ.ค.) โดยบอกว่าเป็นเครื่องมือสำคัญมากในการรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายดอมินิก คัมมิงส์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีซึ่งเดินทางออกจากกรุงลอนดอนไปเมืองเดอรัม ซึ่งเขามีบ้านอีกหลัง โดยอ้างสวัสดิภาพลูก นายจอห์นสันบอกว่าถึงเวลาที่เลิกถกเถียงเรื่องนี้ และเดินหน้ารับมือกับสถานการณ์ต่อได้แล้ว

นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุในแถลงประจำวันเมื่อวาน (27 พ.ค.) ว่า ต่อไปนี้ ประชาชนทุกคนที่มีอาการสามารถขอเข้ารับการตรวจเชื้อได้แล้ว โดยตอนนี้สหราชอาณาจักรมีความสามารถในการตรวจเชื้อได้ 1.61 แสนรายต่อวัน

สำหรับระบบการตรวจและตามรอยผู้ติดเชื้อ นายแฮนค็อกบอกว่า โครงการนี้จะช่วยให้รัฐบาลเปลี่ยนจากการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ มาเป็นการเจาะจงเฉพาะพื้นที่ต่าง ๆ แทน และเชื่อว่าระบบนี้จะช่วยให้สหราชอาณาจักรเอาชนะโควิด-19 ได้ในที่สุด