อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล : ส.ส. จากพรรคที่เพิ่งถูกยุบ กล่าวหากองทัพใช้เงินภาษีทำสงครามจิตวิทยากับผู้เห็นต่างทางสื่อสังคมออนไลน์

วิโรจน์

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ส.ส.ฝ่ายค้านจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ใช้เวลา 100 นาที ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รู้เห็นกับการที่กองทัพใช้เงินภาษีประชาชนทำสงครามจิตวิทยากับผู้เห็นต่างทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความแตกแยกให้ประเทศ ด้านนายกฯ กลับบ้านก่อน ยังไม่ชี้แจง

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ เริ่มอภิปรายเมื่อเวลา 22:20 น. โจมตีนายกฯ ด้วยเหตุผลร้ายแรงว่า "คุกคามประชาชน ยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ทำลายความรู้รักสามัคคีของประชาชนในชาติ" พร้อมกล่าวว่า"บุคคลนี้ไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ และไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งใด ๆ"

นายวิโรจน์ กล่าวว่ากองทัพบกใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนมาปฏิบัติการด้านข่าวสาร หรือ information operation (IO) ทำสงครามจิตวิทยา คุกคามประชาชน ที่มีความเห็นทางการเมืองต่างจากรัฐบาลและกองทัพ โดยมีภารกิจหลัก คือคุกคามประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ขุดคุยประวัติมาประจาน ใครแสดงความคิดเห็นไม่เป็นที่ถูกใจ จะเข้าไปด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง ด่าทอนักการเมือง นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างความเกลียดชัง และเลือกเอาข้อมูลเพียงด้านเดียวมาเชียร์รัฐบาลและกองทัพ

"นี่คือ การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง แบ่งแยกประชาชน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล" นายวิโรจน์ กล่าวพร้อมแสดง "หลักฐาน" ประกอบการกล่าวหาท่ามกลางการประท้วงเป็นระยะจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

วิโรจน์

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ก่อนหน้านี้ พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้วว่า กองทัพบกกำลังต่อสู้กับ "สงครามลูกผสม" ซึ่งข้าศึกกำลังใช้ "ข่าวปลอม" ที่ใช้ล้มล้างกองทัพและสถาบันพระมหากษัตริย์

"พรรคการเมืองบางพรรค เพิ่งตั้งมา 2-3 ปี มีแผนโฆษณาชวนเชื่อที่มุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่คนพวกนี้อายุ 16-17 ปี" ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว "พวกเขาพยายามให้การศึกษาคนพวกนี้ด้วยข่าวปลอม" พล.อ. อภิรัชต์ ระบุ แต่ปฏิเสธที่จะระบุชื่อฝ่ายที่เขาสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการโฆษณาชวนเชื่อหรือเหตุระเบิด แต่ก็พูดถึงพรรคการเมืองบางพรรคโดยไม่ระบุชื่อ ซึ่งผู้บริหารของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้นบอกว่า หมายถึงพวกเขา

ภาพจากจอโทรทัศน์

ที่มาของภาพ, BBC Thai

ในการอภิปรายในสภาฯ นายวิโรจน์อ้างถึงเว็บไซต์หนึ่งที่ผลิดเนื้อหาทำลายบรรดานักการเมือง นักวิชาการ และนักกิจกรรมทางการเมืองซึ่งเคลื่อนไหวเพื่อความสงบในจังหวัด ชายแดนใต้ "สร้างความด้อยค่า" ในตัวบุคคลเหล่านั้น

เขาอ้างว่า ในเอกสารเพิ่มเติมที่เสนอต่อคณะกรรมการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เกี่ยวกับบัญชีงบประมาณ ที่ส่งมาจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่ขึ้นตรงกับนายกฯ หน้า 14 ข้อที่ 10 ระบุชัดเจนว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้รับเงินสนับสนุนจาก กอ.รมน.ตั้งแต่ปี 2560-2562

ภาพจากจอโทรทัศน์

ที่มาของภาพ, BBC Thai

นายวิโรจน์ อ้างด้วยว่ามีอาสาสมัครที่มาช่วยแกะรอย "ไอโอ" พบว่า มีรูปแบบการทำซ้ำ จำนวนแชร์ จำนวนไลก์ คงที่ในทุกวัน จากการค้นหาจึงพบเอกสารบันทึกข้อความ เกี่ยวกับการสรุปการอบรมของกองทัพบกเมื่อ 25 เม.ย. 2562 ซึ่งมีข้อความระบุการซักซ้อมปฏิบัติการข่าวสารที่หน่วยเหนือมอบให้ในแต่ละวัน และสอนการโพสต์ว่าไม่ต้องเรียงลำดับข้อความตามภารกิจที่มอบ เพื่อป้องกันการจับได้ว่าเป็นบัญชีปลอม หรือ "อวตาร" ทั้งแนะนำให้เจ้าหน้าที่ตั้งบัญชีปลอม เพื่อใช้ในการตอบโต้และพลีชีพ ทั้งสนับสนุนค่าโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตเดือนละ 2,000 บาท

เอกสารฉบับต่อไปที่นายวิโรจน์พบ ลงวันที่ 22 พ.ย.62 มีการอ้างถึงการประชุมวันที่ 4 พ.ย.62 อ้างว่ามีการสั่งการของ พล.ท.พันธุ์พิศิษฐ์ ทรรพวสุ ให้หน่วยระดับกองพล และระดับกรม ตรวจสอบยืนยันตัวผู้ปฏิบัติการข่าวสารที่จัดตั้งไว้หน่วยละ 5 นาย โดยให้ส่งข้อมูลยืนยันทุกวันที่ 5 ของเดือน

นายวิโรจน์ เล่าว่า การปฏิบัติข่าวสารนี้จะมีการประชุม VTC (Video Teleconference) ทุกวันจันทร์-ศุกร์ มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ที่กองทัพบกจัดสรรให้ เจ้าหน้าที่ IO จะได้เงินสนับสนุนค่าโทรศัพท์เดือนละ 300 บาท พร้อมมีเงินรางวัล และประกาศนียบัตรให้เพจที่ทำผลงานได้ดี

สำหรับเอกสารฉบับที่ 3 เป็นบันทึกข้อความเช่นเดียวกัน ลงวันที่ 22 พ.ย.62 เนื้อหาคล้ายกับฉบับก่อนหน้า ข้อแตกต่างคือ มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์คนละ 100 บาท โดยงบฯ มาจากกองทัพบกเช่นเดียวกัน

"กองทัพกระทำเองโดยพลการไม่ได้หรอกครับ เพราะต้องมีคำสั่ง มีการสนับสนุนภารกิจ มีการใช้งบประมาณ ดังนั้นภารกิจคุกคามประชาชนผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นี้ จึงเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งโดยมิชอบ โดยมีนายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าไปเป็นมะลิงกิงกองมะล่องก่องแก่งในงานนี้ด้วย ผมยืนยันและอยากจะให้มินิฮาร์ทกับท่านนายกฯ ว่าท่านกล้าทำได้ยังไง" นายวิโรจน์กล่าว

ภาพจากจอโทรทัศน์

ที่มาของภาพ, BBC Thai

ในระหว่างการอภิปรายมี ส.ส. รัฐบาลลุกขึ้นประท้วงนายวิโรจน์เป็นระยะ ๆ หนึ่งในนั้นคือนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ประท้วงว่าการอภิปรายในขณะนี้เป็นการใส่ร้าย ซึ่งตัวเขาได้ถูกใส่ร้ายเช่นเดียวกันจากเพจ ๆ หนึ่งที่กล่าวหาเขาว่าเป็นคนในคลิปเสียงซื้อขาย ส.ส. วงเงิน 23 ล้านบาท พร้อมนำข้อความในเพจดังกล่าวมาอ่าน เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่าได้ส่งข้อมูลเรื่องไอโอให้ ส.ส. ไปใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงอยากตั้งคำถามว่า "ในขณะที่ท่านกล่าวหาเขาว่าไอโอ ท่านก็มีไอโออยู่... ท่านกล่าวหาเขาว่าไม่สุจริต ท่านก็มาด้วยมือที่ไม่สะอาด"

ด้านวิโรจน์ใช้สิทธิพาดพิง โดยกล่าวยืนยันว่าหลักฐานที่นำมาอภิปรายได้มาจากทหารไอโอที่ไม่พอใจกับภารกิจนี้ ยืนยันไม่ได้รับหลักฐานใด ๆ โดยตรงจากเพจที่นายศุภชัยกล่าวอ้าง

ก่อนการอภิปรายจบลง นายวิโรจน์ได้เปิดภาพเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ประกอบ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ได้ขอให้หยุดใช้ภาพดังกล่าวเนื่องจากไม่เหมาะสม

"ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้น ผมเข้าใจดี และผมก็ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเรามีปัญหา ผมเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่เข้าป่า เพราะว่ารับคอมมิวนิสต์ไม่ได้ แล้วก็รับทหารยึดอำนาจไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราอยู่ในวิถีทางประชาธิปไตย เราก็ต้องช่วยกันรักษา ต้องช่วยกันทะนุถนอมประชาธิปไตยของเราไว้ โดยทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์นะครับ" นายชวนกล่าว

หลังการอภิปรายและการประท้วงที่กินเวลาราว 1 ชั่วโมง 40 นาที จบลง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ลุกขึ้นชี้แจง แต่ได้กลับบ้านไปก่อนแล้ว และบีบีซีไทยไม่สามารถตรวจสอบเรื่องนี้กับทางโฆษกกองทัพบกหรือกระทรวงกลาโหมได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางดึก

ต่อมาเช้าวันนี้ (26 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อเพียงสั้น ๆ ว่า "ให้นายกฯ ชี้แจง"

นายกฯ บอกก่อนเข้าสภาฯ วันที่ 3 ยืนยันไม่มีนโยบายทำไอโอ โอดโดนกระทำเหมือนกันในโซเชียล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาถึงรัฐสภาด้วยสีหน้าเรียบเฉยในเช้าวันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.18 น. เพื่อร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่ 3 โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการชี้แจงกรณีที่ ส.ส. ฝ่ายค้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารของกองทัพ (ไอโอ) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ไม่มีนโยบายให้ดำเนินการเช่นนี้ และยังไม่ยืนยันว่าจะเป็นผู้ชี้แจงในประเด็นนี้ หรือมอบให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นคนตอบแทน

"ขอฟังเขาอภิปรายก่อนว่าจะชี้แจงเรื่องอะไรต่อไป ส่วนเรื่องไอโอ ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะการทำงานโดยปกติแล้ว ผมก็ไม่มีนโยบายให้ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว และวันนี้ก็เห็นว่าในโซเชียลมีเดีย มีการกระทำแบบนี้มากมาย ผมเองก็โดนซะเยอะเลยในนั้น เห็นไหมใครทำก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวก็ตรวจสอบอีกทีแล้วกัน ยืนยันว่าไม่มีนโยบายดังกล่าว" พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว