เลือกตั้งซ่อม กทม. : สุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทยคว้าชัย ส่วน เพชร กรุณพล พรรคก้าวไกลได้ที่ 2
ผลการเลือกตั้งซ่อมอย่างไม่เป็นทางการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 9 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยหลังจากนับคะแนนไปแล้ว 100% มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ที่ 29,416 คะแนน
ส่วนอันดับ 2 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ จากพรรคก้าวไกล ได้คะแนน 20,361 คะแนน
อันดับ 3 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า 20,047 คะแนน, อันดับ 4 นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ 7,906 คะแนน, อันดับ 5 นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี 5,987 คะแนน
เขตเลือกตั้งนี้มีหน่วยเลือกตั้ง 280 หน่วย และมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 167,000 คน
ทางพรรคก้าวไกลได้แถลงข่าวขอบคุณคะแนนเสียงจากประชาชนและแสดงความยินดีกับผู้ชนะจากพรรคเพื่อไทยช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน พรรคเพื่อไทยได้แถลงข่าวประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
นายสุรชาติ ได้กล่าวขอบคุณคะแนนเสียงที่ประชาชนในเขตจตุจักรและหลักสี่ไว้วางใจเลือกให้เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "ผมขอเรียนนะครับว่า ผมจะเป็นผู้แทนราษฎรของคนทุกคน ทั้งคนที่เลือกผม และคนไม่เลือกผม ผมจะรับใช้ทุกคนอย่างเท่าเทียม และทั่วถึง ในสุดกำลังความสามารถ ทั้งในสภาและนอกสภา"
ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ว่าสัดส่วนผู้ออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะอยู่ที่ประมาณ 52% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็มากกว่าครึ่งหนึ่ง และสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนสนับสนุนประชาธิปไตยคือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลซึ่งได้คะแนนเสียงรวมกันมากกว่า 60% ของผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ด้านพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค กล่าวแสดงความยินดีกับทางพรรคเพื่อไทย และขอบคุณคะแนนเสียงที่เลือกนายกรุณพล โดยยืนยันว่า "ถึงแม้ว่าเราจะไม่ชนะ แต่เรามาถูกทางแล้ว" นอกจากนี้ยังได้เปรียบเทียบสัดส่วนคะแนนที่ทางพรรคก้าวไกลได้รับกับที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับในการเลือกตั้งเมื่อกว่า 2 ปีก่อน พบว่า สัดส่วนคะแนนสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่เป็นของทหารมีสัดส่วนเพิ่มจาก 24-25% เป็น 35% สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายปฏิรูปกองทัพของทางพรรคก้าวไกลได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ "ก้าวไกลสามารถที่จะหานโยบายที่ทำให้พี่น้องพลทหารมีสวัสดิภาพมีสวัสดิการที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน"
การเลือกตั้งซ่อมหนนี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นการหยั่งกระแสความนิยมทางการเมืองของของพรรคต่าง ๆ หลังผ่านการเลือกตั้งทั่วไปมาเกือบ 3 ปี โดยถือเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งซ่อมในเมืองหลวง อีกทั้งยังเป็นการเข้าคูหาเลือกตั้งของคนกรุง 1.7 แสนคน ก่อนที่ศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. จะเกิดขึ้นในปีนี้
ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่าง มีผู้สมัคร 8 คน ในจำนวนนี้มี 5 พรรคการเมืองซึ่งมีที่นั่งในสภาปัจจุบัน
การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 เป็นผลสืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 22 ธ.ค. 2564 ให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา หรือคดีฉ้อโกง เมื่อปี 2538 ทำให้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน โดยมีนายสิระเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด
บรรยากาศเลือกตั้งที่บริเวณสถานพักฟื้นคนชราบางเขน หน่วยที่ 10-18 รวม 9 หน่วยเลือกประชาชนทยอยมาเพื่อตรวจสอบสิทธิและใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก ตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบเวลา 08.00 น. พร้อมมีผู้มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของแต่ละพรรคการเมืองมาประจำหน่วย ภายใต้มาตรการการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด
ผู้ที่มาใช้สิทธิต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยจัดวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ โดยผู้ที่อุณหภูมิเกิน 37 องศา จะจัดให้เลือกตั้งในคูหาลงคะแนนพิเศษเพื่อป้องกันความเสี่ยงและขอความร่วมมือผู้มาใช้สิทธิลดหน้ากากอนามัย เพื่อยืนยันตัวตนให้กับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย
นายสำราญ ตันพานิช ผอ. กกต. ประจำกรุงเทพมหานคร ตรวจความเรียบร้อยการเปิดลงคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 9 ภายในสถานพักฟื้นคนชราบางเขน ซึ่งจุดนี้จะใช้เป็นหน่วยเลือกตั้งหน่วยที่ 10-17 จากทั้งหมด 280 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งแบ่งเป็นเขตหลักสี่ 122 หน่วย และเขตจุตจักร 158 หน่วย โดยเขตจตุจักร จะมีเฉพาะแขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม (ยกเว้นแขวงจตุจักร และแขวงจอมพล)
นายสำราญ กล่าวว่าภาพรวมทั้ง 280 หน่วยมีความพร้อมในการลงคะแนนตั้งแต่ 8.00-17.00 ซึ่งบางหน่วยอาจมีปัญหาติดขัดแต่ไม่กระทบต่อภาพรวม พร้อมยืนยันว่าทั้ง 280 หน่วยเลือกตั้งทาง กกต.มีการประสานการทำงานกันมาตลอดเพื่อปรับแก้หากพบปัญหา
นายสำราญ ระบุว่าเนื่องจากข้อจำกัดการเลืกตั้งอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดบางพื้นที่ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นหน่วยเลือกตั้ง ทาง กกต.ได้ประสานหน่วยงานด้านสาธารณสุขเพื่อขอคำแนะนำและทุกหน่วยเลือกตั้งได้กำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข
ส่วนเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ขณะนี้ยังมีเพียงแค่ที่ปรากฎในข่าวและยังไม่พบการร้องคัดค้านเพิ่มเติม ส่วนกรณีการทุจริตการเลือกตั้ง หากมีข้อมูลทาง กกต. ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ แต่ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจน
ผอ. กกต. ประจำกรุงเทพมหานคร คาดว่า จะมีประชาชนมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 60% และจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 22.00 น.