วิ่งไล่ลุง : สน. ลุมพินี แจงไม่ได้สั่งห้ามแถลงข่าว คาด FCCT ตัดสินใจเอง

FCCT office

ที่มาของภาพ, Watchiranont Thongtep/BBC Thai

หลังจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT: Foreign Correspondent's Club of Thailand) ออกแถลงการณ์ยกเลิกการให้ผู้จัดกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" ใช้สถานที่ในการจัดแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (11 ธ.ค.) เพราะทางการกดดันหนัก ล่าสุด ผู้กำกับสถานีลุมพินีผู้ดูแลพื้นที่ออกมาชี้แจงว่า "ไม่ได้สั่งห้าม" และ "เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน"

พ.ต.อ. กัมพล รัตนประทีป ผกก. สน. ลุมพินี เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ในข้อเท็จจริงคือทางเจ้าหน้าที่จาก สน. ลุมพินี ได้เดินทางเข้าหารือกับผู้บริหารของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยเมื่อวานนี้ ( 9 ธ.ค.) เพียงเพื่ออยากทราบว่า เขาจะมาแถลงข่าวอะไร สาระเป็นอย่างไร มีผู้ประสานงานทราบหรือไม่อย่างไร

"เรามีการพูดคุยกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน ส่วนการจะจัดแถลงข่าวนั้น FCCT จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง" พ.ต.อ. กัมพลกล่าวและว่า "ขอเรียนในข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้น ผมก็ยังงง ที่มีออกข่าวไปว่า ตำรวจมากดดันหนัก"

คำอธิบายดังกล่าว พ.ต.อ. กัมพล มีขึ้นหลังจากที่ FCCT ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากการหารือเรื่องดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่่ตำรวจ

โดยในแถลงการณ์ของ FCCT ที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ระบุว่า สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ แห่งประเทศไทย (FCCT )มีความกังวลต่อแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องการให้ยกเลิกการจองสถานที่โดยผู้จัดงานแถลงข่าวที่เรียกว่า "วิ่งไล่ลุง" เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้บริหารของ FCCT ได้รับการร้องขอจากสถานีตำรวจลุมพินีให้ยกเลิกการจองสถานที่โดยกลุ่มที่จะจัดกิจกรรมดังกล่าวซึ่งจะมีขึ้นในเดือนหน้า โดยทางตำรวจได้อธิบายว่า การใช้ชื่องานดังกล่าว เป็นสิ่งที่ต้องคัดค้าน และเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย

ข้าม Facebook โพสต์ , 1

ไม่มีเนื้อหานี้

ดูเพิ่มเติมที่ Facebookบีบีซี. บีบีซีไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์ภายนอก. นโยบายของเราเรื่องการเชื่อมต่อไปยังลิงก์ภายนอก.

สิ้นสุด Facebook โพสต์, 1

นอกจากนี้ในแถลงการณ์นี้ยังระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวอีกว่า หากว่า FCCT ไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอดังกล่าว อาจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงต่อ FCCT นั่นอาจจะหมายถึงความเป็นไปได้ที่จะถูกปิด (possible closure)

ดังนั้นเมื่อได้หารือกับผู้จัดงานดังกล่าวแล้ว FCCT ระบุว่า ทางผู้จัดได้ตกลงที่จะหาสถานที่อื่น ๆ ในการจัดการแถลงข่าวแทน

ในแถลงการณ์ดังกล่าว FCCT ยังตั้งข้อสังเกตว่า มีหลายครั้งในรอบ 5 ปีภายใต้รัฐบาลทหาร ที่ FCCT ถูกสั่งให้ยกเลิกการจัดงานทั้งที่ดำเนินการโดยสมาคมฯ เอง หรือองค์กรภายนอก โดยทุกกรณี ตำรวจได้อธิบายว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของทหาร ซึ่งตำรวจหรือทางสมาคมฯ ก็หามีทางเลือกอื่นได้ไม่

นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงจริงหรือ ?

เมื่อสอบถาม พ.ต.อ. กัมพลว่า หากไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง เขากล่าวย้ำว่า " ไม่มีแน่นอน การันตี ด้วยอุปนิสัยผมไม่ใช่คนแบบนั้น"

"เขาผิดอะไร ผมไม่มีอำนาจอะไรไปปิดเขา เขาเปิดมาแล้ว 60 ปีผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดไหน ผ่านปฏิวัติรัฐประหารมากี่ครั้งก็ไม่สามารถปิดได้" เขาอธิบายพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข้อความในแถลงการณ์ของ FCCT "เป็นคำพูดที่รุนแรงเกินไป" และอาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนก็ได้

อย่างไรก็ตาม เขาบอกอีกว่า ถ้าผู้จัดไปจัดที่อื่น ก็สามารถทำได้ ซึ่งเขาจะต้องไปคุยกับเจ้าของสถานที่เหมือนกับที่ FCCT ว่าเจ้าของสถานที่เขายินยอมหรือไม่ รายละเอียดอย่างอื่นเป็นอย่างไร

ผู้จัดยืนยันจัดงานพรุ่งนี้ตามกำหนด

แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ทราบว่า การแถลงข่าวจะจัดขึ้นที่ใด แต่ผู้จัดงานได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ยังคงยืนยันที่จะจัด การแถลงข่าวครั้งนี้ขึ้น ในวัน และ เวลาที่กำหนดเพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย

โดยในข้อความพวกเขาระบุว่า "เราขอเวลาจัดหาสถานที่อีกสักครู่ ซึ่งขณะนี้เล็งไว้หลายสถานที่ อยู่ในระหว่างการประสาน"

ล่าสุดทีมงานของเพจดังกล่าวเปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ในวันพุธที่ 11 ธ.ค. ตัวแทนของผู้จัดจะเข้ายื่นหนังสือต่อ กมธ. กฎหมายฯ ของสภา ให้สอบสวนการแทรกแซงกรณีไม่ให้จัดแถลงข่าวที่ FCCT

ก่อนหน้านี้ในวันที่ (3 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีที่มีนักกิจกรรมทางการเมืองเชิญชวนประชาชนออกมาร่วมกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" ในวันที่ 12 ม.ค. 2563 โดย พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเห็นเพียงว่า "ก็ว่าไปเถอะ"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ จะไปร่วมกิจกรรม "วิ่งตามลุง" ที่มีการประชาสัมพันธ์ทางหน้าเฟซบุ๊ก "เชียร์ลุง" หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า "เอาเถอะ วิ่งให้ทันแล้วกัน"