คิม จอง-อึน : ใครจะเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไป หากเขาไม่อยู่แล้ว
- Author, อลิสแตร์ โคลแมน
- Role, ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ข่าวปลอมและเกาหลีเหนือ
สื่อของทางการเกาหลีเหนือเสนอข้อมูลข่าวสารตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่สื่อมวลชนทั่วโลกกำลังคาดการณ์ว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศป่วยหนัก หรืออาจเสียชีวิตไปแล้ว
ข่าวลือเรื่องสุขภาพของผู้นำเกาหลีเหนือเริ่มขึ้นหลังจากเขาไม่ได้ปรากฏตัวในงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของนายคิม อิล-ซุง ปู่ผู้ล่วงลับของเขาและเป็นผู้ก่อตั้งประเทศ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของเกาหลีเหนือ
ทั้งรัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ต่างระบุว่า ไม่พบกิจกรรมผิดปกติที่อาจบ่งชี้ว่า นายคิม จอง-อึน ล้มป่วยหรือเสียชีวิต แต่ตราบใดที่สื่อของทางการเกาหลีเหนือยังไม่มีการประกาศใด ๆ ออกมา ทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ก็ไม่อาจล่วงรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้พอ ๆ กับคนทั้งโลก
แต่หากข่าวลือครั้งนี้เป็นเรื่องจริง และนายคิมได้เสียชีวิตลง ใครจะเป็นผู้ขึ้นมาสืบทอดอำนาจต่อจากเขา
คิม โย-จอง
คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ถูกมองจากบรรดาผู้อยู่นอกเกาหลีเหนือว่าคือตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนใหม่ในขณะนี้
คิม โย-จอง อายุ 31 ปี และได้รับการศึกษาจากชาติตะวันตกเช่นเดียวกับพี่ชาย เธอเป็นสมาชิกหมุนเวียนของคณะกรรมการกรมการเมือง หรือ โปลิตบูโร ของพรรคคนงานแห่งเกาหลี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจและบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศ รวมทั้งยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการหน่วยโฆษณาชวนเชื่อและปลุกระดมที่สำคัญยิ่งของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ยังเป็นที่ทราบกันว่าเธอทำหน้าที่เป็นเลขานุการของนายคิม ที่เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างมากในงานประจำวันของเขา รวมทั้งยังให้คำแนะนำด้านนโยบายต่าง ๆ ด้วย
คิม โย-จอง ยังเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจาก "สายเลือดแพ็กตูอันศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งเป็นทายาทสายตรงของนายคิม อิล-ซุง
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อกันว่า เธอมักแสดงพฤติกรรมที่ผิดมารยาทสังคม และเป็นคนที่มีนิสัยหุนหันพลันแล่น
ภาพถ่ายที่เธอกำลังแอบมองจากมุมตึก ในระหว่างที่พี่ชายกำลังพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในกรุงฮานอยของเวียดนาม เชื่อว่าได้สร้างความอับอายขายหน้าให้แก่นายคิมอยู่ไม่น้อย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนเห็นเธอแสดงพฤติกรรมเช่นนี้
คำถามที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ เกาหลีเหนือพร้อมสำหรับผู้นำหญิงแล้วหรือไม่ แม้ที่ผ่านมาผู้หญิงจะมีบทบาทสำคัญในแวดวงการเมืองและทางสังคมของประเทศ แต่มีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่ทรงอำนาจ
คิม จอง-ชอล
ในตอนแรก นายคิม จอง-ชอล พี่ชายของนายคิม จอง-อึน ผู้นี้เคยได้รับการสนับสนุนจากนายคิม จอง-อิล บิดา ให้เป็นผู้นำประเทศต่อจากเขา แต่ในที่สุดเขาก็ถูกมองข้ามไป เนื่องจากเขาไม่แสดงความกระตือรือร้นหรือความสนใจอย่างแท้จริงในด้านการทหารหรือด้านการเมือง
เขาไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะ แต่เมื่อปี 2015 มีผู้พบเห็นเขาไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินในดวงใจอย่าง เอริค แคลปตัน ที่โรงละครรอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ในกรุงลอนดอน
มีความเป็นไปได้น้อยมากว่าเขาจะได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้นำคนต่อไปของเกาหลีเหนือ
คิม เปียง-อิล
อดีตนักการทูตผู้นี้ มีศักดิ์เป็นอาของนายคิม จอง-อึน และเป็นน้องชายต่างมารดาของนายคิม จอง-อิล ผู้นำคนที่ 2 ของเกาหลีเหนือ
นายคิม เปียง-อิล เป็นบุตรชายของนายคิม อิล-ซุง นี่จึงทำให้เขามี "สายเลือดแพ็กตูอันศักดิ์สิทธิ์" และทำให้เขาถูกมองว่าอาจเป็นภัยต่อนายคิม จอง-อิล ผู้ทะเยอทะยาน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกส่งตัวไปต่างประเทศเพื่อปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเป็นเวลานานถึง 4 ทศวรรษ
เมื่อปีก่อน นายคิม เปียง-อิล ในวัย 65 ปี ได้เกษียณอายุแล้วกลับไปกรุงเปียงยาง และอาจได้รับความไว้วางใจให้สืบทอดตำแหน่งในยามนี้
โช เรียง-แฮ
ชายผู้นี้คือมือขวาของนายคิม จอง-อึน และผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาประชาชนสูงสุดของเกาหลีเหนือ
นายโช เรียง-แฮ วัย 70 ปี คือผู้ทรงอำนาจในเกาหลีเหนือ และได้รับการปูนบำเหน็จอย่างมากจากการช่วยผลักดันให้นายคิม จอง-อึน ก้าวขึ้นสู่อำนาจ
การได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างต่อเนื่องในปี 2012 หลังจากนายคิม จอง-อึน ได้ขึ้นสืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดาเพียงไม่กี่เดือน คือเครื่องยืนยันถึงความสำคัญที่ชายผู้นี้มีต่อผู้นำเกาหลีเหนือ
หากเกาหลีเหนือไม่ได้ยึดธรรมเนียมการสืบทอดตำแหน่งผู้นำจากสายเลือด นายโช รยองแฮ ก็อาจถูกมองว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ และเขาอาจเป็นเช่นนั้น หากเกาหลีเหนือเลือกที่จะให้กระบวนการผลัดเปลี่ยนผู้นำประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น ในกรณีที่นายคิม จอง-อึน เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
คิม แจ-เรียง
แม้มีนามสกุล "คิม" แต่นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือผู้นี้มิได้เป็นสมาชิกตระกูลคิม ที่ทรงอำนาจในประเทศ เพียงแต่นี่คือนามสกุลที่คนเกาหลีใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วไป
เดิมทีเขาเป็นที่รู้จักเฉพาะในหน่วยงานรัฐระดับภูมิภาคเท่านั้น จนกระทั่งปี 2016 ที่เส้นทางการเมืองของ นายคิม แจ-เรียง ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
เขาได้รับเลือกเข้าสู่สภาประชาชนสูงสุดของเกาหลีเหนือเมื่อ 1 ปีก่อน จากนั้นก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในอีก 1 เดือนต่อมา อีกทั้งยังมีตำแหน่งในโปลิตบูโร และคณะกรรมาธิการกลาโหมส่วนกลาง
แม้เป็นคนนอกตระกูลคิม แต่เช่นเดียวกับนายโช เรียง-แฮ เขาอาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "ผู้สำเร็จราชการ" จนกว่าจะมีคนในตระกูลคิมที่เหมาะสมก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศคนต่อไป
การแต่งตั้งผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไปทำอย่างไร
นับแต่ก่อตั้งประเทศในปี 1948 เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้การปกครองของสมาชิกตระกูลคิมตลอดมา
แม้ผู้นำคนใหม่จะต้องผ่านการรับรองจากสภาประชาชนสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น "สภาตรายาง" ของพรรคคนงานแห่งเกาหลี และสมาชิกพรรค แต่ในทางปฏิบัติการสืบทอดอำนาจมักมีการตัดสินใจมาแล้วล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
นายคิม จอง-อิล ที่ปกครองประเทศตั้งแต่ปี 1994 หลังการอสัญกรรมของนายคิม อิล-ซุง บิดาผู้ก่อตั้งประเทศ ได้วางเรื่องราวที่ยกสถานะของคนตระกูลคิมให้เป็นดั่ง "สมมติเทพ" ของเกาหลีเหนือ
ตำนานที่เขาสร้างขึ้นระบุว่า คนตระกูลคิมเป็น "ตัวแทนอันยิ่งใหญ่ของภูเขาแพ็กตู" ซึ่งเชื่อว่าเป็นภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดของอารยธรรมเกาหลี และนี่จึงเป็นการวางสถานะให้เชื่อว่าสมาชิกตระกูลคิมเกิดมาเพื่อปกครองประเทศ
การที่นายคิม อิล-ซุง แต่งตั้งให้นายคิม จอง-อิล เป็นผู้สืบทอดอำนาจ นายคิม จอง-อิล จึงแต่งตั้งบุตรชาย คือ นายคิม จอง-อึน เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศต่อจากเขา
นายคิม จอง-อึน เองมีครอบครัวที่เขาเพิ่งสร้างขึ้น และสาธารณชนยังไม่เคยได้เห็นหน้าลูกคนใดของเขา อีกทั้งยังดูเหมือนว่าจะยังไม่มีการวางตัวลูกคนใดให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ อันที่จริงคนเกาหลีเหนือเองยังไม่รู้ชื่อลูก ๆ ของเขาเลยด้วยซ้ำ
การที่ยังไม่มีผู้ใดได้รับการแต่งตั้งเป็นว่าที่ผู้นำคนใหม่ การจากไปอย่างกะทันหันของนายคิม ถ้าหากเป็นจริง จึงอาจทำให้เกิดภาวะสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งอาจเป็นการยากที่จะหาบุคคลมาทดแทน