รัสเซีย ยูเครน : ปูตินยืนกรานขายก๊าซให้ “ชาติไม่เป็นมิตร” เป็นเงินรูเบิล – เลขาฯ นาโต้ เตือนให้เลิกขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์

Russian President Vladimir Putin listens to Governor of the Novgorod Region Andrei Nikitin during a meeting at the Kremlin in Moscow, Russia March 22, 2022

ที่มาของภาพ, Reuters

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียจะกำหนดให้ "ชาติที่ไม่เป็นมิตร"ต้องชำระเงินในการซื้อก๊าซจากรัสเซียเป็นเงินสกุลรูเบิลเท่านั้น

นายปูตินระบุว่า ได้สั่งการให้ธนาคารกลางรัสเซียหาวิธีเพื่อเปลี่ยนแปลงสกุลเงินในการชำระค่าก๊าซจากเงินสกุลอื่น มาเป็นการชำระด้วยเงินรูเบิลเพียงอย่างเดียว

ผู้นำรัสเซียชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการชำระเงินเท่านั้น และรัสเซียจะยังคงป้อนก๊าซให้ตามสัญญาซื้อขายที่มีอยู่ต่อไป แต่ยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบจากการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นอย่างไร

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า การที่ชาติตะวันตกสั่งอายัดทรัพย์สินของรัสเซียได้ทำลายความไว้วางใจ และเศรษฐกิจของรัสเซียก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่มีขึ้นเพื่อตอบโต้กรณีรัสเซียรุกรานยูเครน

มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้รวมถึง การจำกัดรัสเซียในการเข้าถึงระบบชำระเงินระหว่างประเทศ

คำบรรยายวิดีโอ, การคว่ำบาตรคืออะไร ?

นาโตเตือนรัสเซียต้องหยุดขู่เรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์

นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต กล่าวว่า รัสเซียจะต้องหยุดการข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ หลังจากโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวตอบในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า รัฐบาลรัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ เมื่อมีภัยคุกคามการดำรงอยู่ของประเทศ

นายสโตลเทนเบิร์ก กล่าวเรื่องนี้ในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโตในกรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม โดยระบุว่าเขามีสารที่ชัดเจนถึงรัสเซียว่า รัสเซียจะไม่มีชัยชนะในสงครามนิวเคลียร์ และมันไม่ควรที่จะนำมาใช้ห้ำหั่นกัน

เขาระบุว่า นาโตมุ่งมันที่จะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อสนับสนุนยูเครน แต่ขณะเดียวกัน นาโตก็ "มีหน้าที่" ในการทำให้แน่ใจว่าสงครามครั้งนี้จะไม่ขยายวงออกไปนอกยูเครน และผู้นำนาโตจะเห็นพ้องส่งกองกำลังนาโตเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออกเพิ่มอีก 4 กองกำลัง ได้แก่ที่ประเทศสโลวาเกีย ฮังการี บัลแกเรีย และโรมาเนีย

Nato's Stoltenberg

ที่มาของภาพ, EPA

นอกจากนี้ นายสโตลเทนเบิร์กระบุว่าสมาชิกนาโตกำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงอย่างแท้จริง เมื่อรัฐบาลเผด็จการเตรียมที่จะใช้กำลัง

"ผมคาดว่าเราจะหารือเรื่องบทบาทของจีนในวิกฤตนี้"

"จีนให้ความช่วยเหลือทางการเมืองแก่รัสเซีย ซึ่งรวมถึงการแพร่ "คำโกหกและข้อมูลเท็จอย่างโจ่งแจ้ง" เลขาธิการนาโต กล่าว

ด้านโปแลนด์ได้สั่งขับนักการทูตรัสเซีย 45 คนออกนอกประเทศฐานต้องสงสัยสอดแนม หรือให้ความช่วยเหลือในการสอดแนมโปแลนด์

เอกอัครราชทูตรัสเซียในโปแลนด์ปฏิเสธข้อหานี้ หลังจากถูกกระทรวงต่างประเทศโปแลนด์เรียกตัวเข้าพบเมื่อ 23 มี.ค.

สหรัฐฯ ชี้ทหารยูเครนสู้กลับรัสเซียสำเร็จ

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่ามีสัญญาว่ากองทัพยูเครนประสบความสำเร็จในการโต้กลับ และผลักดันกองทัพรัสเซียให้ถอยร่นออกไปในบางพื้นที่ของประเทศ

กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า กองทัพยูเครนสามารถชิงเมืองมาคาริฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันตกราว 64 กม. กลับคืนจากรัสเซียได้สำเร็จ ทำให้ธงชาติยูเครนโบกสะบัดขึ้นในเมืองแห่งนี้อีกครั้ง

นอกจากนี้มีรายงานว่า ทหารรัสเซียถูกผลักดันให้ถอยร่นออกไปจากเมืองวอซเนเซนสก์ ซึ่งทหารอาสาและทหารยูเครนผนึกกำลังสกัดแผนการของรัสเซียด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่นการระเบิดสะพาน ส่งผลให้สามารถผลักดันฝ่ายรัสเซียให้ถอยร่นออกไปทางทิศตะวันออกราว 100 กม.

ขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนก็พยายามเข้าชิงเมืองเคียร์ซอน ใกล้กับคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นเมืองแรกที่รัสเซียเข้ายึดให้กลับคืนมาอีกครั้ง

รัสเซียชี้เตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากมีภัยคุกคามการดำรงอยู่ของประเทศ

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวตอบในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เมื่อถูกถามว่าประธานาธิบดีปูตินจะตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ ดังนี้

"เรามีแนวนโยบายว่าด้วยความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณชนอยู่แล้ว ดังนั้นคุณสามารถไปอ่านดูได้ว่า มีกรณีไหนบ้างที่จะมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์"

"ถ้าหากมีภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของประเทศ เราสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ ตามแนวนโยบายที่ระบุไว้" นายเปสคอฟกล่าว

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย มีคำสั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์เตรียมพร้อมเป็นพิเศษ หลังเปิดฉากรุกรานยูเครนได้เพียงไม่กี่วัน ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องหายนะจากสงครามนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นได้

ด้านกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ แถลงตอบโต้โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย โดยชี้ว่าคำกล่าวของนายเปสคอฟนั้นขาดความระมัดระวังรอบคอบและ "ไม่ใช่แนวทางที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งมหาอำนาจนิวเคลียร์ไม่ควรจะปฏิบัติตัวเช่นนั้น"

"ถ้าหากมีภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของประเทศ เราสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ ตามแนวนโยบายที่ระบุไว้" นายเปสคอฟกล่าว

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, "ถ้าหากมีภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของประเทศ เราสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ ตามแนวนโยบายที่ระบุไว้" นายเปสคอฟกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่าคำพูดของโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียนั้น เป็นคำตอบมาตรฐานที่ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แม้ไม่ได้กล่าวปฏิเสธโอกาสที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ไปเสียทีเดียว

"คำชี้แจงนี้เป็นการกล่าวย้ำถึงนโยบายที่วางไว้มานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่" แมตต์ เทต อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของบริษัท iSEC Partners และ NGS Secure กล่าวกับบีบีซี "แน่นอนว่ารัสเซียชอบใจที่เห็นสหรัฐฯตื่นตระหนกเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งใหม่ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนท่าทีของรัสเซียแต่อย่างใด"

ยูเครนเผยรัสเซียทำลายห้องแล็บของเชอร์โนบิล

สำนักงานบริหารเขตหวงห้ามรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลยูเครนแจ้งว่า กองกำลังรัสเซียได้เข้า "ปล้นชิงและทำลาย" ห้องปฏิบัติการเชิงวิเคราะห์ส่วนกลาง (Central Analytical Laboratory) ของโรงไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งใช้แปรรูปกากกัมมันตรังสีจำนวนมาก

ห้องปฏิบัติการเชิงวิเคราะห์ส่วนกลางของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล

ที่มาของภาพ, State Agency of Ukraine for Exclusion Zone Managem

คำบรรยายภาพ, ห้องปฏิบัติการเชิงวิเคราะห์ส่วนกลางของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล

ทางการยูเครนระบุว่า ห้องปฏิบัติการดังกล่าวมีตัวอย่างของสารกัมมันตรังสีที่ยังใช้งานได้อยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าขณะนี้อาจจะตกไปอยู่ในมือของรัสเซียแล้ว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์มูลค่าสูงที่ประเทศอื่นในยุโรปไม่มี ต้องถูกทำลายไปในคราวนี้ด้วย

ก่อนหน้านี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลซึ่งตกอยู่ในวงล้อมของกองกำลังรัสเซีย ประสบปัญหากระแสไฟฟ้าถูกตัดและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์นับร้อยคนติดอยู่ด้านใน โดยต้องทำงานแบบไม่ได้หยุดพักขณะที่ขาดแคลนปัจจัยการดำรงชีวิตต่าง ๆ

แต่ล่าสุดกระแสไฟฟ้าจากภายนอกสามารถเข้าถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้อีกครั้ง และเจ้าหน้าที่บางส่วนได้รับการปล่อยตัวให้ออกมาผลัดเปลี่ยนเวรกับเพื่อนร่วมงานที่รออยู่ภายนอกได้ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องการดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ยังคงไม่หมดไป เพราะรายงานจากภาพถ่ายดาวเทียมชี้ว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

รัสเซียอาจย้ายกองกำลังเชิงยุทธวิธีในต่างประเทศมายูเครน

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า กองกำลังรัสเซียยังคงเผชิญปัญหาเรื้อรังทางลอจิสติกส์ เช่นขาดแคลนอุปกรณ์ทางทหารที่เหมาะสม ทำให้ทหารจำนวนหนึ่งเริ่มมีปัญหาสุขภาพเช่นผิวหนังถูกน้ำแข็งกัด ส่งผลให้กองกำลังที่มีอยู่อ่อนแอลง และฝ่ายยูเครนโจมตีตอบโต้จนเริ่มชิงพื้นที่บางส่วนซึ่งรัสเซียยึดไปกลับคืนมาได้ เช่นที่เมืองอิซุม (Izyum) และเคียร์ซอน (Kherson) เป็นต้น

ก่อนหน้านี้กองทัพยูเครนระบุว่า มีทหารรัสเซียถูกสังหารไปแล้วกว่า 15,000 คน นับแต่สงครามรุกรานยูเครนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 1 เดือนก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เชื่อว่า อาจมีการพิจารณาโยกย้ายกองกำลังเชิงยุทธวิธีของรัสเซีย ซึ่งขณะนี้ไปประจำการอยู่หลายแห่งในต่างประเทศ ให้กลับมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ในยูเครนเป็นการด่วน

สำหรับสถานการณ์การสู้รบที่เมืองท่ามาริอูโปล จุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตอนใต้ที่รัสเซียทุ่มสรรพกำลังเพื่อพยายามเข้ายึดให้ได้ในขณะนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนแถลงว่า เมืองมาริอูโปลนั้นถูกถล่มจนเหลือแต่ซาก และไม่มีสิ่งอื่นใดหลงเหลืออยู่แล้ว นอกจากพลเรือนอีกราว 100,000 คน ซึ่งยังคงติดอยู่ในเมือง โดยผู้นำยูเครนเรียกร้องให้กองกำลังรัสเซียเปิดช่องทางปลอดภัยให้คนเหล่านี้ได้อพยพออกไปด้วย

นอกจากเมืองมาริอูโปลแล้ว กองทัพเรือรัสเซียยังเปิดฉากยิงถล่มย่านชานเมืองโอเดซา เมืองท่าขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน โดยการขยายวงโจมตีนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปิดทางออกสู่ทะเลดำของยูเครนทั้งหมด