ราชาภิเษก : พยุหยาตราทางชลมารคครั้งแรกในรัชกาลที่ 10

เวลา 16.03 น. วันนี้ที่ 12 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดีฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ถึงที่ประทับรับรองบริเวณท่าวาสุกรี

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จไปประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา

การเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย และนับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคได้จัดเตรียมเรือพระราชพิธีรวมทั้งสิ้น 52 ลำ กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย มีเรือพระที่นั่งสำคัญ 4 ลำ คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรีในเวลา 16.25 น. ไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยาและถึงท่าราชวรดิฐ ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือพระที่นั่งของพระมหากษัตริย์ อยู่ทางทิศตะวันตกของพระบรมมหาราชวัง รวมระยะทางประมาณ 3.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 42 นาที

ตลอดเส้นทางพยุหยาตราทางชลมารค มีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองเฝ้ารับเสด็จฯ เนืองแน่นริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

หลังจากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 17.10 น. เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เข้าเทียบสะพานฉนวน ประจำท่าราชวรดิฐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ

เวลา 17.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประทับพระราชยานพุดตานทอง ยาตราโดยริ้วขบวนราบไปยังพระบรมมหาราชวัง มีพระราชยานถมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 นำริ้วขบวนราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบในฐานะราชองครักษ์ประจำพระองค์คู่เคียงพระราชยาน

ริ้วขบวนราบยาตราออกจากเกยพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดิฐ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนมหาราช เลี้ยวขวาถนนหน้าพระลาน เลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ ปราสาท แล้วประทับพักพระราชอิริยาบถที่พระที่นั่งราชกรัณยสภา จากนั้นเสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

นางพรสวรรค์ อบเชย อายุ 60 ปี คุณครูจาก จ.นครปฐม บอกกับบีบีซีไทยว่าเธอเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯ และชมริ้วขบวนพยุหยาตราเพราะ "นับเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต"

"ตั้งใจมาตั้งแต่ทราบข่าวตั้งแต่เดือน พ.ค. พอดีหลานชายเป็นฝีพายก็เลยแนะนำให้ลงทะเบียน ครั้งหนึ่งในชีวิต เกิดมาก็ยังไม่เคยได้ดู...อากาศร้อนไม่ใช่ปัญหามาด้วยใจ"

ภิตินันท์ กุดเกล้า อายุ 48 ปี เจ้าของกิจการจากย่านหนองแขมกล่าวชื่นชมการทำงานของหน่วยงานราชการ ที่มีบริการรถรับส่งตามจุดต่าง ๆ และช่วยเหลือประชาชนที่เดินทางมาชมพระราชพิธีอย่างเต็มที่ ทำให้การมาร่วมงานครั้งนี้ราบรื่นและน่าประทับใจ

"อยากเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย" ภิตินันท์กล่าว "บางทีเราคิดว่าเบียดเสียดกว่าจะมาถึงยากลำบาก แต่จริง ๆแล้ว หน่วยงานราชการบริการเต็มที่ เขาเห็นเราเป็นประชาชนของพระราชา"