อยู่ไม่เป็น : อนาคตใหม่ลั่นไม่ใช่พวก “ล้มเจ้า-ชังชาติ”
4 วันก่อนศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พรรคการเมืองที่มีอายุขวบเศษได้จัดกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า "รวมพลคนอยู่ไม่เป็น" พร้อมประกาศตัวว่าไม่ใช่ "พวกล้มเจ้า" และ "พวกชังชาติ"
"ความจงรักภักดี มิใช่การชี้หน้าด่าคนอื่นว่าไม่จงรักภักดี"... "ชาติคือประชาชน"... "โตแล้วเลือกเองได้"... "วิจารณ์รัฐบาล ≠ ชังชาติ"... คือข้อความบางส่วนจากป้ายข้อความนับสิบป้ายที่เรียงรายอยู่บริเวณสถานที่จัดงานของ อนค. และถูกตอกย้ำหลายครั้งโดยนักการเมืองคนสำคัญที่ขึ้นปราศรัยในกิจกรรมนี้
ส.ส. นิสิตนักศึกษา ปัญญาชน และประชาชนกว่า 2,000 คนไปรวมตัวกันที่ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ เขตจตุจักร ช่วงบ่ายวันนี้ (16 พ.ย.) ตามนัดหมายของแกนนำพรรค
นายธนาธรยืนยันว่า จุดเริ่มต้นและการดำรงอยู่ของ อนค. ไม่ใช่เกิดจากความเกลียดชัง แต่เริ่มต้นจากความรักในเพื่อนมนุษย์ รักในคนข้างบ้าน รักในคนที่ร่วมสังคมเดียวกัน จึงต้อง "อยู่ไม่เป็น" เพราะอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง และมองเห็นความเป็นไปได้ที่ตั้งอยู่บนศักยภาพของคนไทย
หัวหน้าพรรควัย 41 ปีเปรียบเปรย "พรรคอายุ 540 วัน" เป็น "เจตจำนงที่แน่วแน่" และ "การเดินทางที่ผู้คนมีปลายทางเดียวกัน"
ตลอดการอภิปราย นายธนาธรไม่ได้พูดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย คดีถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่ 20 พ.ย. แต่อย่างใด หลังจากเขาออกมา "แถลงปิดคดีต่อสาธารณะ" เมื่อ 15 พ.ย. ในตอนท้ายเขาเพียงแต่ประกาศเชิญชวนว่า "อยากให้ทุกคนเดินไปด้วยกัน" โดยที่ก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ อนค. ได้ออกมายืนยันว่ากิจกรรมนี้ "ไม่ใช่การปลุกม็อบหรือปลุกระดม"
นายปิยบุตรกล่าวว่า อาการ "อยู่ไม่เป็น" ของชาว อนค. ได้นำมาสู่เหตุเภทภัยกับพรรค ซึ่งในช่วงแรก ๆ การนำเสนอนโยบายแนวใหม่ คงสร้างความไม่สบายใจให้บางฝ่าย แต่พวกเขาดูแคลนว่า "ไอ้ละอ่อนพวกนี้ลงเลือกตั้ง ก็ให้มันลองดู คงได้ 3-5 เสียง ไม่เป็นพิษภัยอะไร แต่เรื่องเปลี่ยนไปเมื่อ อนค. ได้มา 6.3 ล้านเสียง ได้ ส.ส. 81 คน และได้รับการสนับสนุนมากขึ้น ๆ นำมาสู่คดีความที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทะลุไป 25 คดีแล้ว และยอดเร่งเหลือเกินหลังเลือกตั้ง มี 'นักร้อง' ไปร้องแทบทุกวัน"
เลขาธิการ อนค. กล่าวต่อไปว่า ยังมีเพจแปลกใหม่ ๆ เกิดขึ้น พูดเท็จ พูดเท็จปนจริงเพื่อกล่าวหาและทำลาย อนค. รายวัน เช่นเดียวกับสื่อบางสำนักที่นำเสนอแต่ข่าวลบของ อนค. ยิ่งนานวันเข้า ข้อกล่าวหาก็รุนแรงขึ้น
สิ่งที่นายปิยบุตรยืนยันคือ อนค.
- ไม่ใช่พวกชังชาติ แต่รักชาติ ชาติที่มีประชาชนอยู่ในนั้น
- ไม่ใช่พวกไม่เคารพกฎหมาย แต่ต้องการกฎหมายที่เป็นธรรม
- ไม่ใช่พวกต่อต้านความเป็นไทย แต่เชื่อในความเป็นไทยที่ทันสมัยหลากหลายอยู่ได้กับความเป็นสากล
- ไม่ใช่พวกล้มเจ้า แต่ต้องการให้ประเทศไทยปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง
"เราไม่ต้องการให้สถาบันถูกใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเอาไปแอบอ้างเพื่อโจมตีกันทางการเมือง การปกป้องสถาบันที่ดีสุด ถูกต้องที่สุด คือต้องกีดกันไม่ให้กลุ่มแอบอ้างใช้สถาบันเป็นเครื่องมือทำลายล้างกันทางการเมือง" นายปิยบุตรกล่าว
เขาบอกด้วยว่า ชาว อนค. ต้อง "อยู่ไม่เป็น" เพื่อให้คนไทยทุกคนอยู่ได้ในแผ่นดินนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไทย เพื่อบอกคนยึดครองอำนาจว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูปด้วยกันทุกคนทุกฝ่าย เพื่อหยุดวงจรรัฐประหารที่เวียนวนมาทุก 4-6 ปี ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ สุดโต่งรุนแรง แต่ประเทศอารยะก็เป็นกัน
อะไรคือ "อยู่ไม่เป็น" นิยามโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อนค.
- คนที่รู้ว่าปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม
- คนที่ฟัง แต่ยังไม่เชื่อ
- คนที่คิดวิเคราะห์แยกแยะ
- คนที่กล้าสู้กับความอยุติธรรมและเรียกร้องให้สังคมก้าวหน้า
- คนที่กล้าสู้กับแรงเฉื่อย
- คนที่เข้าใจว่าโลกหมุนด้วยความหวัง ไม่ได้หมุนด้วยความกลัว
- ไม่ใช่คนชังชาติ แต่ไม่ได้คลั่งชาติ และเรารักชาติพอที่จะยอมรับว่าข้อเสียของชาติคืออะไร และพร้อมแก้ปัญหา
อุ๊ หฤทัย เชื่อ ธนาธร-ปิยบุตร รับแนวคิดนักวิชาการคอมมิวนิสต์เก่า
ในเวลาเดียวกัน สถาบันทิศทางไทยจัดงานเสวนา "ประเทศไทยอยู่อย่างไรให้ อยู่ เย็น เป็น สุข" ที่ จ.นนทบุรี มีผู้ร่วมวง 5 คน โดยที่บางคนจงใจสื่อสารข้ามเวทีถึงนักการเมืองพรรคอนาคตใหม่ อย่างนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า "ฝากบอกนักการเมืองที่ไปจตุจักรให้สงบ ใจร่ม ๆ ไม่ทำตัวเป็นปลาหมอตายเพราะปาก การเมืองก็เป็นแบบนี้ แต่อย่ามาปลุกระดม"
อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ศิลปินนักร้อง ประกาศ "ไม่เห็นด้วย" กับเลขาธิการ อนค. ที่ระบุว่ามนุษย์ต้องมีสัญชาตญาณขบถ และเอะอะอะไรก็เยส ๆ ๆ ไว้ก่อน ซึ่งเธอเห็นว่าเป็นการประเมินคนไทยผิดไป เพราะคนไทยรู้จักการเมืองดีมาก คนไทยออกมาต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารทุกยุคและได้รับชัยชนะ แม้แต่ระบอบเผด็จการรัฐสภาหลังปี 2540 ก็สามารถขับไล่ออกไปได้
จุดแข็งของคนไทยในสายตาของนักร้องหญิงรายนี้คือการ "อยู่รอด เพราะว่าอยู่เป็น" ส่วนจุดแข็งของประเทศไทยคือการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่ง "ไม่ใช่ปกครองอย่างเดียว แต่ทรงปกป้องชาติไทยให้อยู่รอดมาได้จากวิกฤตและสงคราม"
การปฏิวัติที่ยังไม่สำเร็จหลังปี 2475 คืออีกประเด็นที่ อุ๊ หฤทัย ขอโต้แย้ง แม้ยอมรับในข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ที่ อนค. นำมาแสดงให้เห็นว่า 87 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ภายใต้การปกครองของนายกฯ นายพลเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงกระนั้นเธอบอกว่า "ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณต้องมาดีดดิ้น เพราะทหารบางคนมาจากการเลือกตั้ง บางคนมาจากยึดอำนาจ" และยังตั้งคำถามกลับไปว่าที่ประเทศไทยสงบสุขมาถึงทุกวันนี้ย่อมต้องมีดีบ้าง ไม่ใช่มีแต่เลว ไม่เช่นนั้นครอบครัวเป็นสิบเป็นร้อยตระกูลจะรวยเป็นหมื่นล้านได้อย่างไร
เธออ้างว่า นักการเมืองประเทศอื่นเลิกถกเถียงเรื่องระบอบการปกครองกันแล้ว แต่นักการเมืองไทย เช่น นายปิยบุตรยังเป็น "ไดโนเสาร์" อย่างไรก็ตามสิ่งที่นายธนาธรและนายปิยบุตรออกมาขับเคลื่อน อาจเพราะได้รับการปลูกฝังโดยนักวิชาการซึ่งเป็นอดีตนักศึกษาในช่วง 6 ตุลา 19 ที่ไปรับเอาแนวคิดคอมมิวนิสต์มาโดยไม่รู้เลยว่าเป็นทางที่ผิด ต่อมาโลกได้พิสูจน์แล้วว่าคอมมิวนิสต์ไม่สามารถทำให้เกิดความเท่าเทียมและเสมอภาคได้ เพราะในทางปฏิบัติ มนุษย์มีความสามารถและมันสมองไม่ได้เท่ากัน
"อยากบอกถึงนักวิชาการว่าความคิดแค้นอาฆาตเลิกได้ไหมคะ เพราะคนไทยดำรงอยู่ได้ด้วยความให้อภัย ความรักสามัคคี เลิกปลูกฝังความชังชาติได้แล้ว คุ้มหรือไม่ที่จะชักนำแนวคิดแบบนั้นกลับมาสู่คนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน" อุ๊ หฤทัย กล่าว
สำหรับสถาบันทิศทางไทยเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 4 พ.ย. โดยมีคนหลายกลุ่มร่วมแสดงความยินดี อาทิ อดีตแกนนำ กปปส. นำทีมโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมาชิกวุฒิสภา และนักธุรกิจ สถาบันนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองทางหน้าเว็บไซต์เอาไว้เพียงว่ามีแก่นความคิด 11 ประการ "แก่นความคิดข้อที่ 7 คือเรื่องสถาบันกษัตริย์กับการถูกคุกคามทางการเมืองในอดีตจนถึงปัจจุบันยันอนาคตว่าควรรับมืออย่างไร"
สถาบันทิศทางไทยยืนยันกับบีบีซีไทยว่าวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมนี้เพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชนในการเสพข่าวสารที่เนื้อหาสมดุลและถ่วงดุลกัน และเพื่อให้รู้ว่าการอยู่อย่างไรให้ตัวเองเป็นสุขและประเทศเป็นสุข
อยู่ไม่เป็น VS อยู่เย็นเป็นสุข
ที่มา : บีบีซีไทยรวมรวมจากกิจกรรม 2 เวที