ร.10 : วอลสตรีตเจอร์นัล พาดหัว “กษัตริย์ไทยกลายเป็นเรื่องท้าทายทางการทูตของเยอรมนี”
วอลสตรีตเจอร์นัล (WSJ) เผยแพร่รายงานความยาวราว 1,000 คำ เมื่อ 26 ต.ค. ว่า ผู้ประท้วงที่สนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศไทยซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับสถาบันกษัตริย์ที่ทรงอิทธิพลและเร้นลับของประเทศกำลังมุ่งหน้าไปที่เยอรมนีเพื่อหาคำตอบ
หนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจและธุรกิจที่ทรงอิทธิพลของสหรัฐฯ รายงานว่า ผู้ชุนนุม "หลายพันคน" ไปชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนีในกรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันจันทร์ เรียกร้องให้ รัฐบาลของนางอังเกลา แมร์เคิล ตรวจสอบพระมหากษัตริย์ของพวกเขา ที่ทรงใช้เวลาหลายช่วงในรัฐบาวาเรีย (บาเยิร์น ในภาษาเยอรมัน) ทางตอนใต้ของประเทศ
ผู้สื่อข่าวของ WSJ ในสิงคโปร์ และเบอร์ลิน รายงานว่านักเคลื่อนไหวเยาวชนไทยมองว่าสถาบันกษัตริย์เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการประชาธิปไตยของประเทศ พวกเขายื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลเยอรมนีหลายข้อ เช่น ให้เปิดเผยบันทึกการเสด็จพระราชดำเนินในเยอรมนี บันทึกการเสียภาษี ให้พิสูจน์ว่าพระจริยาวัตรของพระองค์ในต่างแดนมีผลกระทบต่อเหตุการณ์การเมืองในไทย และตรวจสอบว่าพระองค์ทรงพระเกษมสำราญในต่างแดนขณะที่คนไทยกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19
ด้านนายไฮโก มาส รมว. ต่างประเทศของเยอรมนี ตอบคำถามในการแถลงข่าวเมื่อ 26 ต.ค. ว่า รัฐบาลเยอรมนีกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องการชุมนุมในไทยและพระราชจริยาวัตรของกษัตริย์ไทยในเยอรมนี
"ถ้ามีสิ่งใดที่เราคิดว่าผิดกฎหมาย จะต้องมีการดำเนินการตามมาในทันที"
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 7 ต.ค. นายมาส ตอบกระทู้ในรัฐสภาในเรื่องนี้ว่า "เราอธิบายไว้ชัดเจนว่าการดำเนินการทางการเมืองที่เกี่ยวกับประเทศไทยไม่ควรมาจากดินแดนของเยอรมนี"
กระทรวงการต่างประเทศไทยชี้แจงอย่างไร
WSJ รายงานคำชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศไทยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระประมุขของประเทศ "ทรงปกเกล้าแต่ไม่ปกครอง" และทรงประกอบพระราชกรณียกิจในพิธีต่าง ๆ พระองค์ "ไม่ทรงยุ่งเกี่ยวในการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล"
แต่ WSJ รายงานว่า ผู้ประท้วง นักวิเคราะห์การเมือง และนักประวัติศาสตร์หลายคนให้ความเห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของบรรดาผู้นำกองทัพและฝ่ายนิยมเจ้าชั้นสูงที่ควบคุมกลไกของอำนาจที่แท้จริง กองทัพกระทำการรัฐประหารหลายครั้งในอดีตโดยอ้างว่าเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ให้การรับรองการโค่นอำนาจเหล่านั้น
บีบีซีไทย ติดต่อไปที่กระทรวงการต่างประเทศไทย เพื่อขอคำชี้แจงเรื่องนี้เพิ่ม แต่ไม่ได้รับคำตอบ
หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล์ไทมส์ (FT) รายงานวันเดียวกันว่า ชาวไทยหลายพันคนเดินขบวนไปไปชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนีในกรุงเทพฯ เพื่อกดดันให้รัฐบาลในกรุงเบอร์ลินเริ่มการสอบข้อเท็จจริงว่าพระมหากษัตริย์ของไทยทรงบริหารราชการแผ่นดินจากเยอรมนี
FT ระบุว่า การเสด็จประทับในเยอรมนีกลายเป็น "ปัญหาทางการทูต" ของ รัฐบาลในเบอร์ลิน โดยเมื่อวันจันทร์ นายมาส ต้องออกมาแถลงว่า พระราชจริยาวัตรของพระองค์ตกอยู่ใต้การจับตา "อย่างต่อเนื่อง"
FT หนังสือพิมพ์ด้านเศรษฐกิจและธุรกิจที่ได้รับความเชื่อถือในอังกฤษ แปลคำพูดของนายมาสจากภาษาเยอรมันเป็นภาษาอังกฤษว่า "ผมกำลังจับตาดูอยู่ถึงพระจริยาวัตรของกษัตริย์ไทยในเยอรมนี... ถ้ามีสิ่งใดที่เราเห็นว่าผิดกฎหมาย จะต้องมีการดำเนินการตามมาในทันที" แต่นายมาสไม่ได้ระบุว่า "การดำเนินการที่ตามมา" คืออะไร
FT รายงานว่ากษัตริย์ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปีที่ผ่านมาในเยอรมนี แต่สื่อไทยส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการรายงานข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เนื่องจากการเซ็นเซอร์ตัวเอง เพื่อไม่ให้ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
รายงานข่าวในสื่อเยอรมนี
สื่อมวลชนในเยอรมนีทั้งแนวข่าวชาวบ้านและข่าวการเมืองต่างรายงานข่าวการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีในกรุงเทพฯ เมื่อ 26 ต.ค. บีบีซีไทย ขอยกตัวอย่างมา ดังนี้
ZEIT Online
พาดหัว: แนวร่วมการประท้วงในประเทศไทยเรียกร้องต่อรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
โปรยข่าว: กษัตริย์ไทยทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ประทับอยู่ในรัฐบาวาเรีย แล้วพระองค์ทรงงานด้านการเมืองจากที่นั่นด้วยหรือไม่ บรรดาผู้ประท้วงในประเทศไทย ต้องการคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ
SPIGEL
พาดหัว: ผู้ประท้วงในประเทศไทย ไปร้องเรียนที่สถานทูตเยอรมนี
โปรยข่าว: ในกรุงเทพฯ ผู้ชุมนุมเดินเท้าไปที่หน้าสถานทูตเยอรมนี พวกเขาต้องการรู้ว่าพระมหากษัตริย์ของพวกเขาทรงปกครองแผ่นดินจากรัฐบาวาเรียหรือไม่ และในจดหมายพวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีสืบหาความจริงในเรื่องนี้
Frankfurter Allgemeine Zeitung
พาดหัว: โทสะต่อกษัตริย์ไทย
โปรยข่าว: ดำเนินงานการเมืองจากแผ่นดินเยอรมนี? ในอดีต การวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์เป็นเรื่องต้องห้ามในประเทศไทย แต่การเสด็จพำนักถาวรในบ้านพักตากอากาศในรัฐบาวาเรีย และโรงแรมหรู เป็นเรื่องที่ทำให้คนไทยจำนวนมากโกรธเคือง การประท้วงในเรื่องนี้กลายเป็นภาระทางการทูตของประเทศเยอรมนี
Süddeutsche Zeitung
พาดหัว: ไม่มีกษัตริย์องค์ใดทรงอยู่เหนือกฎหมาย
โปรยข่าว: องค์พระประมุขของไทยทรงโปรดการพำนักในเยอรมนี พระองค์อาจได้รับเสียงสรรเสริญ แต่อิสระเสรีแบบไม่มีขีดจำกัด ต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมายของเยอรมนี