รัสเซีย ยูเครน : การปรับแผนรบเท่ากับการผ่อนปรนในเป้าหมายดั้งเดิมของรัสเซียหรือไม่

กองทัพรัสเซียกำลังเปลี่ยนแผนการทำสงครามในยูเครน ? หรืออาจลดเป้าหมายที่รัฐบาลรัสเซียตั้งไว้ในศึกครั้งนี้

นี่อาจจะเร็วเกินไปที่จะตอบเรื่องเหล่านี้ได้ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือมีการเปลี่ยนแปลงในเป้าหมายการสู้รบ

พลเอกอาวุโสเซอร์เก รุดสกอย ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองกำลังรัสเซียประกาศว่า ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน "ระยะแรก" ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยสามารถบรรลุเป้าหมายเบื้องต้นได้อย่างครบถ้วนตามที่วางไว้ และนับแต่นี้ไปกองทัพรัสเซียจะปรับแผนการสู้รบใหม่ โดยจะมุ่งเป้าพิชิตสมรภูมิทางภาคตะวันออกของยูเครนเป็นหลัก

"ขณะนี้ความสามารถในการสู้รบของกองกำลังยูเครนถูกลดทอนลงไปอย่างมากแล้ว เราจึงสามารถทุ่มเทสรรพกำลังและมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายหลัก ซึ่งก็คือการปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส" เขากล่าว

นี่อาจหมายความว่า รัสเซียจะมุ่งความพยายามไปที่การขยายพื้นที่ยึดครองในเขตที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลยูเครนทางภาคตะวันออก นอกเหนือไปจากเขตยึดครองของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียได้ให้การรับรองสถานะเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และ สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการรุกคืบของทหารรัสเซียในพื้นที่อื่น ๆ ของยูเครนก็ยังคงเผชิญกับภาวะชะงักงัน และถูกทหารยูเครนผลักดันให้ถอยร่นออกจากที่มั่นต่าง ๆ รอบกรุงเคียฟ อีกทั้งยังมีรายงานว่าทหารรัสเซียเริ่มขุดหลุมเป็นที่มั่นตั้งรับเพื่อป้องกันไม่ให้ต้องสูญเสียกำลังพลไปมากกว่านี้ หรืออาจเพื่อเตรียมพักการเคลื่อนพลเข้าโจมตีระยะหนี่ง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่ารัสเซียได้ตัดสินใจล้มเลิกแผนเข้ายึดครองกรุงเคียฟแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ชาติตะวันตกระบุว่า รัสเซียกำลังเผชิญความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า

พวกเขาระบุเมื่อ 25 มี.ค. ว่า รัสเซียได้สูญเสียผู้บัญชาการรบระดับนายพลไปอีก 1 นาย ซึ่งนี่ยิ่งทำลายขวัญกำลังใจของทหารบางหน่วย

บรรดาเจ้าหน้าที่กลาโหมของชาติตะวันตกเชื่อว่า คำประกาศของพลเอกอาวุโส รุดสกอย บ่งชี้ว่า รัฐบาลรัสเซียทราบดีว่าแผนการรบของพวกเขาล้มเหลว

เจ้าหน้าที่ผู้ขอสงวนนามคนหนึ่งบอกกับบีบีซีว่า "รัสเซียยอมรับว่าตนเองไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในปฏิบัติการรบหลายจุดพร้อม ๆ กันได้"

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ขณะนี้รัสเซียได้ตั้งกองทหารด้านยุทธวิธีขึ้นมาใหม่อย่างน้อย 10 กลุ่ม และพวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคดอนบาส

การล่าถอยไม่ได้หมายความว่าผ่อนปรนในเป้าหมาย

การถูกผลักดันครั้งล่าสุด อาจทำให้ได้เห็นกองทัพรัสเซียถอยร่นเข้าไปในเขตที่ยังไม่ถูกยึดครองในเมืองโดเนตสก์ และลูฮันสก์ โดยอาจมีความเป็นไปได้ที่ทหารเหล่านี้จะผนึกกำลังเข้ากับทหารรัสเซียหน่วยอื่น ที่กำลังเคลื่อนพลลงมาสมทบจากเมืองคาร์คิฟและอิซยูม

และหากรัฐเซียสามารถเข้ายึดครองเมืองท่ามาริอูโปลได้สำเร็จ ทหารรัสเซียหน่วยอื่น ๆ ก็จะเคลื่อนพลขึ้นเหนือไปสมทบเพื่อปิดล้อมเขตที่ยังไม่ถูกยึดครองดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายนี้ยังห่างไกลจากความเป็นจริง เพราะกองทัพยูเครนยังคงปกป้องเมืองท่ามาริอูโปลไว้อย่างเหนียวแน่น ทำให้รัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดั้งเดิมได้สำเร็จ

ในทางภูมิศาสตร์แล้วที่ตั้งของเมืองมาริอูโปลปิดกั้นทางเข้าสู่ดินแดนด้านในของยูเครน หากรัสเซียคิดจะเคลื่อนพลจากคาบสมุทรไครเมียและสร้างเส้นทางบนบกที่เชื่อมต่อไปถึงภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียแล้ว ก็จะต้องยึดเมืองมาริอูโปลให้ได้เสียก่อน เพื่อที่จะสร้าง "สะพานแผ่นดิน" (land bridge) เชื่อมต่อเขตอิทธิพลทางบกของรัสเซียเอง

แต่หากรัฐบาลรัสเซียตัดสินใจแล้วว่า การเดินเกมรบโดยมุ่งความสนใจไปที่การพิชิตสมรภูมิทางภาคตะวันออกของยูเครนเป็นหลักคือสิ่งที่เหมาะสมในตอนนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเน้นการโจมตีทางอากาศเป็นหลักในพื้นที่แถบนี้

ดังนั้น กองทัพยูเครนจึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อให้สามารถต้านทานการระดมโจมตีพื้นที่ในแถบนี้ให้ได้

เจ้าหน้าที่กลาโหมชาติตะวันตกคนหนึ่งแสดงความหวังว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชาติตะวันตกส่งไปให้ยูเครนนั้น จะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้กองทัพยูเครนใช้ต่อกรกับข้าศึกได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสของสหรัฐฯ คนหนึ่งชี้ว่า แม้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนเป้าหมายไปยังภูมิภาคดอนบาส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลรัสเซียจะละทิ้งเป้าหมายดั้งเดิมที่ใหญ่กว่าของพวกเขา

คุณมีคำถาม เราหาคำตอบ: ผลกระทบของสงครามในยูเครนต่อประเทศไทย

บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "วิกฤตยูเครน"