รัสเซีย ยูเครน : รัสเซียขัดขวางการส่งอาวุธจากชาติตะวันตก ชี้นาโตใช้ยูเครนทำสงครามตัวแทน

GETTY IMAGES

ที่มาของภาพ, GETTY IMAGES

คำบรรยายภาพ, ความช่วยเหลือที่เป็นอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ งวดแรก มาถึงยูเครนเมื่อเดือนม.ค.

กองทัพรัสเซียแถลงว่าได้ทำลายสถานีไฟฟ้าย่อย 6 แห่ง ในทางตอนกลางและทางตะวันตกของยูเครน ซึ่งจ่ายพลังงานให้กับเส้นทางเดินรถไฟสายที่กำลังขนส่งลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์จากชาติตะวันตก เหตุโจมตีครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบาดเจ็บอีก 18 คน

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า การที่ชาติตะวันตกจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครนนั้น ไม่ต่างจากการทำสงครามกับรัสเซีย

"แท้จริงแล้วนาโตกำลังทำสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทน และกำลังติดอาวุธให้ตัวแทน แต่สงครามก็คือสงคราม"

"ดังนั้น อาวุธเหล่านี้คือเป้าหมายสำหรับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียโดยชอบธรรม ภายใต้บริบทของปฏิบัติการพิเศษ"

นายลาฟรอฟยังระบุว่ามีความเสี่ยงอยู่ "พอสมควร" ที่สงครามครั้งนี้จะยกระดับขึ้นสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ เขาเน้นย้ำว่าที่ผ่านมารัสเซียพยายามหลีกเลี่ยง ไม่สร้างสถานการณ์ที่ทำให้ความเสี่ยงจากภัยนิวเคลียร์ดูสูงเกินความเป็นจริง แม้จะมีหลายฝ่ายต้องการเช่นนั้นก็ตาม

"ความเสี่ยงอันตรายที่มีอยู่นั้นร้ายแรงและจริงจัง เราจะต้องไม่ประมาท" รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียกล่าว

GETTY IMAGES

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งหนึ่งที่ถูกทำลาย เพื่อขัดขวางการขนส่งลำเลียงอาวุธจากชาติตะวันตก

นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวตอบโต้ว่า คำพูดของนายลาฟรอฟนั้นเป็นเพียง "คำขู่เพื่อให้ทั่วโลกหวั่นเกรงและเลิกสนับสนุนยูเครน" เขายังชี้ว่ารัสเซียหมดหวังที่จะหยุดยั้งความช่วยเหลือทางทหารซึ่งหลั่งไหลมาจากทั่วโลก และรู้สึกว่าฝ่ายตนกำลังจะพ่ายแพ้ จึงได้อ้างเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามขึ้นมา

ในขณะเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่อาคารกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐในแคว้นทรานส์นิสเทรีย (Transnistria) ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียในประเทศมอลโดวา รายงานเบื้องต้นระบุว่าเหตุดังกล่าวเป็นการโจมตีด้วยจรวดอาร์พีจี (RPG) ของบุคคลไม่ทราบฝ่าย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมยูเครนชี้ว่าเหตุดังกล่าวเป็น "แผนการยั่วยุ" ของรัสเซีย ซึ่งต้องการสร้างความปั่นป่วนเพื่อปูทางสู่การขยายขอบเขตของสงคราม โดยก่อนหน้านี้กองทัพรัสเซียประกาศว่า กำลังดำเนินการสร้างสะพานแผ่นดิน หรือเส้นทางบนบกที่เชื่อมต่อดินแดนใต้การปกครองของตนตามแนวชายฝั่งทะเลดำ ซึ่งอาจขยายไปถึงประเทศมอลโดวาด้วย

ทำเนียบขาวไม่ปฏิเสธอาจคว่ำบาตรแฟนสาวปูติน

โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงชี้แจงต่อสื่อมวลชน หลังมีเสียงวิจารณ์และคำครหาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จงใจละเว้นการคว่ำบาตรคนใกล้ชิดบางรายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน รวมถึงนางอลินา กาบาเอวา วัย 38 ปี อดีตนักกีฬายิมนาสติกระดับเหรียญทองโอลิมปิก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแฟนสาวหรือภรรยาลับของผู้นำรัสเซีย

GETTY IMAGES

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, นางอลินา กาบาเอวา

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เจตนาจะไม่ตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินการคว่ำบาตรนางกาบาเอวา ผู้ที่ได้รับฉายา "สตรีหมายเลขหนึ่งลับ" ของรัสเซีย เนื่องจากเกรงว่านายปูตินจะมองเป็นเรื่องมุ่งโจมตีชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไป จนอาจส่งผลให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ - รัสเซียที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งยกระดับความตึงเครียดสูงขึ้นไปอีก

นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า การที่นางกาบาเอวายังไม่ถูกดำเนินการคว่ำบาตรเช่นเดียวกับบุตรสาวทั้งสองของนายปูตินนั้น เป็นเพราะยังคงตรวจสอบและพิจารณาบุคคลที่อาจเข้าข่ายถูกคว่ำบาตรไม่เสร็จสิ้น โดยจะมีการประกาศรายชื่อบุคคลกลุ่มนี้เพิ่มเติมอีกในเร็ววัน

"ไม่มีใครรอดจากมาตรการคว่ำบาตรของเราไปได้" โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว