อิแทวอน : คนไทยเสียชีวิต 1 ราย เหตุเบียดกันตายในกรุงโซล ยอดเสียชีวิตรวม 154 ราย

โศกนาฏกรรมอิแทวอน

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, โศกนาฏกรรมอิแทวอน

ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เบียดเสียดยัดเยียดในย่านเที่ยวกลางคืนอิแทวอนของกรุงโซล เกาหลีใต้เพื่อเฉลิมฉลองงานเทศกาลฮาโลวีน เมื่อ 29 ต.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 154 ราย โดยในจำนวนนี้ เป็นชาวต่างชาติ 26 ราย ตัวเลขผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 149 ราย ขณะที่สถานทูตไทยในกรุงโซล เปิดเผยว่ามีคนไทยเสียชีวิต 1 ราย

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เปิดเผยหลังจากได้รับรายงานจากตำรวจเกาหลีใต้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางการเกาหลีใต้เพื่อสอบถามรายละเอียด และแจ้งให้ญาติของผู้เสียชีวิตรับทราบ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในการจัดการศพผู้เสียชีวิต

กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของผู้เสียชีวิตคนไทย เป็นหญิงไทยอายุ 27 ปี ที่เดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อเรียนภาษา 2 เดือน

ขณะที่ ผู้ใช้สังคมออนไลน์คนหนึ่ง ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นครูสอนภาษาเกาหลีในไทย

"ครูน่ารักเสมอ เวลาไปเรียนซื้อขนมของกินไปฝากครูด้วย ส่วนมากไม่ค่อยได้สอน แต่จะเม้าส์กันเรื่องไร้สาระ จนหมดเวลา ครูสอนบอกเตือนเรื่องการดูนิสัยของคนเกาหลีหรือผู้ชายที่จะคุยที่จะใช้ชีวิตร่วมด้วย แนะนำแต่สิ่งดี ๆให้เสมอ ไม่เคยลืมคำพูดคำสอนที่ครูได้สอนไว้"

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โพสต์ภาพว่าผู้เสียชีวิตคนไทย 1 ในที่อิแทวอน คือ นางสาว นัฐธิชา มาแก้ว ศิษย์เก่าสาขาภาษาเกาหลี ของคณะฯ

สถานทูตไทยระบุคำแนะนำแก่คนไทยในเกาหลีใต้ด้วยว่าให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปท่องเที่ยวในงานเฉลิมฉลองที่อาจจะมีความหนาแน่นในช่วงนี้

สถานทูตไทยแจ้งข้อมูลด้วยว่า หากคนไทยท่านใดต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 010-6747-0095 ได้ตลอดเวลา

BBC

ศูนย์บริการชุมชนฮันนัมดงในกรุงโซล ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ติดตามผู้บาดเจ็บและสูญหายจากเหตุการณ์นี้บอกกับบีบีซีด้วยว่า มีรายงานผู้สูญหายมากถึง 2,900 คน ที่มีญาติแจ้งตามหา

ผู้นำหลายประเทศออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุเศร้าสลดดังกล่าว ทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ นายริชี ซูแน็ก นายกฯ อังกฤษ นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายจัสติน ทรูโด นายกฯ แคนาดา

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมประกาศช่วงเวลาไว้ทุกข์แห่งชาติและสั่งลดธงชาติลงครึ่งเสาในสถานที่ราชการทั่วประเทศ นอกจากนี้เทศบาลกรุงโซลยังจัดพื้นที่ไว้อาลัยที่โซลพลาซ่าและอิแทวอนพลาซ่า เพื่อเปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต

ชาวต่างชาติเสียชีวิตกี่คน

จากที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนชาวต่างชาติที่เสียชีวิต โดยตำรวจเกาหลีใต้กล่าวกับบีบีซีว่า มีชาวต่างชาติเสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ที่ 25 คน ขณะที่กระทรวงบริหารจัดการสาธารณะและความมั่นคงของเกาหลีใต้ระบุตัวเลขนี้ที่ 20 คน

ตอนนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุด พบว่า มีผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติ 26 คน

  • ชาวอิหร่าน 5 คน
  • ชาวจีน 4 คน
  • ชาวรัสเซีย 4 คน
  • ชาวอเมริกัน 2 คน
  • ชาวญี่ปุ่น 2 คน
  • ชาวฝรั่งเศส 1 คน
  • ชาวออสเตรเลีย 1 คน
  • ชาวนอร์เวย์ 1 คน
  • ชาวออสเตรีย 1 คน
  • ชาวเวียดนาม 1 คน
  • ชาวไทย 1 คน
  • ชาวคาซัคสถาน 1 คน
  • ชาวอุซเบกิซสถาน 1 คน
  • ชาวศรีลังกา 1 คน

ผู้คนต่างตื่นตระหนก

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, ผู้คนต่างตื่นตระหนก

หลังเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา เชว ซอง-บอม หัวหน้าของหน่วยงานดับเพลิงของกรุงโซลแถลงว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวในวัยยี่สิบเศษ โดยพบว่า ผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นผู้หญิง 98 คน และผู้ชาย 56 คน

เขาบอกด้วยว่า การหาสาเหตุของโศกนาฎกรรมครั้งนี้เป็น "เรื่องสำคัญที่สุด"

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระบุว่า มีคนหลายสิบคนหัวใจหยุดเต้น วิดีโอที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์แสดงภาพคนนอนหมดสติขณะได้รับการช่วยเหลือจากทีมเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน โดยมีคนจำนวนมากยืนรายล้อมอยู่ 

เหตุร้ายแรงนี้เกิดขึ้นราว 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 20.00 น. ตามเวลาไทย ก่อนหน้านี้ มีคนโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่ามีคนเบียดเสียดกันมากที่ย่านอิแทวอนจนรู้สึกไม่ปลอดภัย 

เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้ประสบภาวะหัวใจล้มเหลว 50 คน หลังเกิดเหตุร้ายในย่านอิแทวอน ต่อมาราว ตีสองครึ่ง ตามเวลาท้องถิ่น ทางการจึงประกาศตัวเลขออกมาว่ามีผู้เสียชีวิต 59 คน และได้รับบาดเจ็บ 150 คน

ในเกาหลีใต้ มีแนวโน้มว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่จะพูดแค่ว่าคน "หัวใจหยุดเต้น" จนกว่าจะได้รับการยืนยันอย่างทางการโดยแพทย์ว่าเสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ มีคนโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่ามีคนเบียดเสียดกันมากที่ย่านอิแทวอนจนรู้สึกไม่ปลอดภัย  

เกิดเหตุได้อย่างไร

รายงานข่าวระบุว่า เหตุเบียดเสียดของฝูงชนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเกิดขึ้นขณะมีคนราว 1 แสนคน ที่มาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน

ปาร์ค จุง ฮุน ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุกับรอยเตอร์ว่า ฝูงชนจำนวนมากเป็นเรื่องปกติในเทศกาลคริสต์มาสและการเฉลิมฉลองด้วยพลุดอกไม้ไฟ แต่เหตุการณ์คืนที่ผ่านมา "มีคนจำนวนมากกว่าปกติถึง 10 เท่า" กว่าที่เขาเคยเจอ

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ข้อความฉุกเฉินถูกส่งเข้าโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในเขตยงซาน ที่ตั้งของย่านอิแทวอน แจ้งเตือนให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินบริเวณใกล้ ๆ กับโรงแรมฮามิลตันในอิแทวอน

ฝูงชนจำนวนมากเดินเข้าไปยังตรอกแคบ ๆ แห่งหนึ่งในย่านอิแทวอน ผู้เห็นเหตุการณ์บรรยายภาพที่เห็นว่า มีคนพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาจากฝูงชนที่กำลังหายใจไม่ออก แต่ละคนพยายามตะกายร่างของตัวเองปีนไปบนร่างกายของคนอื่น ๆ

มีผู้เห็นเหตุการณ์  บอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามควบคุมเหตุการณ์ขณะฝูงชนเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองในย่านนี้

เจ้าหน้าที่กู้ชีพฉุกเฉิน ต้องรับมือกับผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก และถูกร้องเรียกจากผู้บาดเจ็บให้เข้าไปช่วยปฐมพยาบาลกู้ชีวิตของพวกเขา

ภาพเคลื่อนไหวจากที่เกิดเหตุที่ถูกเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นร่างของผู้เสียชีวิตในห่อพลาสติก ขณะที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจผู้บาดเจ็บ

ลี บอม ซุก แพทย์ผู้ให้การปฐมพยาบาลต่อเหยื่อในเหตุการณ์บรรยายช่วงเวลาขณะช่วยชีวิตต่อสถานี้โทรทัศน์วายทีเอ็นว่า "เมื่อผมพยายามทำซีพีอาร์ปั๊มหัวใจต่อเหยื่อ 2 คนแรกที่นอนอยู่บนทางเท้า ทันใดนั้นจำนวนของผู้บาดเจ็บที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเกินกว่าที่ทีมกู้ชีพจะรับมือได้" เขากล่าว และบอกว่า "คนมุงบริเวณนั้นหลายคนพยายามมาช่วยพวกเราทำซีพีอาร์" 

"มันยากจะหาคำใดมาบรรยาย ใบหน้าของเหยื่อจำนวนมากซีดเซียว ผมจับชีพจรและลมหายใจพวกเขาไม่ได้ และเหยื่อจำนวนมากมีเลือดไหลออกจากจมูก"

rescue workers

ที่มาของภาพ, Getty Images

ไว้อาลัยเศร้าสลด

วันนี้ (31 ต.ค.) รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เปิดให้ประชาชนเดินทางไปไว้อาลัยและวางดอกไม้ ให้แก่เหล่าผู้เสียชีวิตที่ศาลาว่าการกรุงโซล ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด

ที่สนามหญ้าใกล้กับศาลาว่าการกรุงโซล หญิงเกาหลีใต้คนหนึ่งได้ไว้อาลัย พร้อมถือป้ายข้อความว่า "คนหนุ่มสาวทุกคนควรได้มีชีวิตในสถานที่ที่ปลอดภัยและสงบสุข"

บีบีซีได้พูดคุยกับเธอ เธอระบุว่า "มีลูก 2 คน อายุ 30 ปีกลาง ๆ และมีหลานสาวอายุ 7 ขวบอีกคน เธอควรได้เติบโตในประเทศที่ปลอดภัย" ลี อิน-ซุค วัย 63 ปี กล่าว

"นี่มันเป็นโศกนาฏกรรมจากมนุษย์ มันจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้ารัฐบาลเตรียมการมาดี มันน่าหวาดกลัวมาก แต่ก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล รวมถึงผู้ใหญ่ที่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองเหล่านี้"

"ฉันทำอะไรไม่ได้ นอกจากนิ่งอยู่ตรงนี้ และไว้อาลัยให้เหยื่อ"

"คนหนุ่มสาวทุกคนควรได้มีชีวิตในสถานที่ที่ปลอดภัยและสงบสุข"
คำบรรยายภาพ, "คนหนุ่มสาวทุกคนควรได้มีชีวิตในสถานที่ที่ปลอดภัยและสงบสุข"

โจนาธาน เฮ้ด ผู้สื่อข่าวบีบีซียังได้พูดคุยกับนักศึกษาจากเนเธอร์แลนด์และอิตาลี ที่มาวางดอกไม้ไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต พวกเขาเปิดเผยว่า อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย

"ตรงสุดซอย มีผู้เสียชีวิต 30-40 คนอยู่รอบตัวฉัน" มิงค์ จากเนเธอร์แลนด์ กล่าว โดยเธอมาถึงอิแทวอน และเห็นผู้คนกำลังปั๊มหัวใจให้คนที่หมดสติอยู่บนพื้น

"ทุกคนพึ่งสนุก ยิ้ม ทำตัวบ้า ๆ แต่งตัวให้ดูสวย ไม่คิดเลยว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น"

"กรุงโซลขึ้นชื่อว่า มีตำรวจอยู่แทบทุกที่ รู้สึกปลอดภัย" เฟเดอริกา จากอิตาลี ระบุ "สถานการณ์มันควรจะควบคุมได้ดีกว่านี้"

Reuters

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, ย่านอิแทวอนในเวลานี้

“อีจีฮัน” อดีตผู้เข้าแข่งขันหาไอดอล Produce 101 ซีซันที่ 2 ว่าได้เสียชีวิตลงแล้ว จากเหตุการณ์ในอิแทวอน

935 Entertainment ต้นสังกัดของเขาก็ได้ออกมายืนยันข่าวการเสียชีวิตโดยระบุว่า “เป็นความจริงที่ อีจีฮัน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่อิแทวอน เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา เราได้แต่หวังว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่เมื่อเราทราบข่าว เราต่างก็ช็อกอย่างมาก ทางเราต้องระมัดระวังเพราะทางครอบครัวของเขาอยู่ในช่วงที่โศกเศร้าอย่างหนัก ขอไว้อาลัยต่อผู้วายชนม์” อีจีฮัน เป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ Produce 101 ซีซัน 2 โดยเขาอยู่ในอันดับที่ 98 และถูกคัดตัวออกในรอบแรก หลังจากที่เขาปรากฏตัวในรายการ เขาก็เริ่มผันตัวมาเป็นนักแสดง ปรากฏตัวในซีรีส์ทางเว็บไซต์เรื่อง Today Was Another Nam Hyun Day

อิแทวอน ย่านความบันเทิงและแสงสว่างยามกลางคืนของโซล

อิแทวอน เป็นย่านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งคนเกาหลี ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลักษณะกายภาพของพื้นที่ประกอบไปด้วยตรอกซอกซอยเล็ก ๆ และมีบาร์เปิดตามข้างถนน รวมทั้งร้านค้า ภัตตาคารที่ขายอาหารนานาชาติจากทั่วโลก

แม้การจัดเทศกาลฮาโลวีนไม่ได้เป็นธรรมเนียมดั้งเดิมหรือวันหยุดของชาวเกาหลีใต้ แต่ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้

เทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ ยังถือว่าเป็นการจัดงานครั้งแรกหลังจากการปลดล็อกการสวมใส่หน้ากากอนามัยในช่วงการระบาดของโควิด-19

getty

ที่มาของภาพ, Getty Images

getty

ที่มาของภาพ, Getty Images