โควิด-19 : จีนตำหนิทรัมป์หลังยื่นคำขาดให้ WHO ปรับปรุงการทำงานในภาวะโรคระบาด

นายโดนัลด์ ทรัมป์

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, นายทรัมป์ยังกล่าวหา WHO ว่าไม่เป็นอิสระจากจีนจนน่าตกใจ

จีนตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยื่นจดหมายให้ผู้นำองค์การอนามัยโลก (WHO) พร้อมขู่หยุดให้เงินอุดหนุนถาวร

เว็บไซต์ แอลแอไทม์ส รายงานว่า นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนบอกว่า จดหมายของนายทรัมป์เต็มไปด้วยการคาดคะเน และเป็นการพยายามดึงความสนใจของสาธารณชนด้วยการป้ายสีจีน เพื่อลดการถูกวิจารณ์เรื่องการทำงานของรัฐบาลตนเอง เขาบอกด้วยว่าการให้เงินอุดหนุนเป็นการตัดสินใจร่วมของรัฐสมาชิกทั้งหมด และสหรัฐฯ มีพันธะผูกพันต้องจ่ายเต็มจำนวน

"การตัดสินใจโดยพลการว่าจะหยุดความสนับสนุนทางการเงินต่อองค์การระหว่างประเทศ เป็นการทำตามอำเภอใจเพียงฝ่ายเดียว" เขาบอก และเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดปัดความรับผิดชอบ และให้ความร่วมมือกับนานาชาติให้มากกว่านี้

จดหมายฉบับดังกล่าวส่งถึงนาย เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO วิจารณ์การทำงานขององค์การในการรับมือภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธ.ค. ปีที่แล้ว พร้อมระบุเส้นตาย 30 วันให้ WHO "ปรับปรุงตัวครั้งใหญ่" มิฉะนั้นสหรัฐฯ จะยกเลิกการให้เงินสนับสนุนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และถอนตัวจากการเป็นสมาชิกด้วย

วานนี้ (18 พ.ค.) สหรัฐฯ บอกว่า WHO "เป็นหุ่นเชิดของจีน" ด้วย

สหรัฐฯ มีรายงานผู้ติดเชื้อกว่า 1.5 ล้านคน จากจำนวนผู้ติดเชื้อราว 4.8 ล้านคน ทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกว่า 9 หมื่นราย

การยื่นคำขาดของนายทรัมป์ มีขึ้นในช่วงที่ WHO กำลังถูกกดกันจากทั่วโลก ที่การประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลกเมื่อวานนี้ ดร. เทดรอส สนับสนุนการตรวจสอบการทำงานขององค์การ และบอกว่า "การประเมินอย่างเป็นอิสระจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด"

เนื้อความในจดหมายว่าอย่างไรบ้าง

นายทรัมป์เผยแพร่จดหมายฉบับดังกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อคืนวันจันทร์ หลังจากการประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก

ในที่ประชุมสมัชชา นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข สหรัฐฯ กล่าวหา WHO ว่าปล่อยให้โรคแพร่ระบาดจนควบคุมไม่ได้ และคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย

ข้าม Twitter โพสต์
ยินยอมรับเนื้อหาจาก Twitter

บทความนี้ประกอบด้วยเนื้อหาจาก Twitter เราขอความยินยอมจากคุณก่อนใช้คุกกี้ หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ บันทึกอะไรลงไป คุณอาจต้องอ่านนโยบายคุกกี้ของ Twitter และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Twitter ก่อนให้ความยินยอม หากต้องการอ่านเนื้อหานี้ โปรดเลือก "ยินยอมและไปต่อ"

คำเตือน:เนื้อหาภายนอกอาจมีโฆษณา

สิ้นสุด Twitter โพสต์

นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังกล่าวหา WHO ว่าไม่เป็นอิสระจากจีนจนน่าตกใจ และบอกด้วยว่าเพิกเฉยต่อสิ่งที่เขาระบุว่าเป็น "รายงานที่เชื่อถือได้หลายฉบับ" เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่นของจีน ช่วงต้นเดือน ธ.ค. หรือก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ยังกล่าวหาจีนหลายครั้งว่าล้มเหลวในการจัดการกับโรคระบาด

ทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาลักษณะนี้มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศจีนบอกว่า จีนให้ความร่วมมือและสื่อสารกับ WHO อย่างดีมาตลอด และไม่เคยพยายามชักจูงองค์การนี้

เนื้อความอื่นในจดหมาย นายทรัมป์ยัง

  • อ้างถึงรายงานว่า WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินล่าช้า เพราะถูกกดกันจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
  • วิจารณ์การที่ WHO ชื่นชมความโปร่งใสของจีน ทั้งที่มีการปิดบังข้อมูลและขาดการประสานงานกับนานาชาติ
  • กล่าวหา WHO ว่าล้มเหลวในการแสดงความเห็นเรื่องการถูกเลือกปฏิบัติของชาวแอฟริกันในจีน
  • บอกว่า ถ้าดร. เทดรอสไม่ได้ทำเหมือนที่ดร. ฮาร์เล็ม บรันดท์แลนด์ ผอ. WHO ช่วงสถานการณ์โรคซาร์ส ในปี 2003 ก็คงช่วยชีวิตคนได้จำนวนมาก

โดยรวมแล้ว นายทรัมป์กล่าวหา ดร.เทดรอสว่าทำผิดซ้ำ ๆ และ WHO เป็นบทเรียนราคาแพงของโลก "ทางเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าได้คือ WHO ต้องแสดงให้เห็นได้จริง ๆ ว่าเป็นอิสระจากจีน" เขาระบุในจดหมาย

ท้ายที่สุด เขาเรียกร้องให้ WHO มุ่งมั่น "ปรับปรุงตัวครั้งใหญ่" ภายในเวลา 30 วัน แต่เขาไม่ได้ลงรายละเอียดว่าหมายถึงอะไร

นาย เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO

ที่มาของภาพ, Reuters

หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามนี้ สหรัฐฯ จะหยุดให้เงินอุดหนุนเป็นการถาวร และจะทบทวนอีกครั้งว่าจะยังเป็นสมาชิกของ WHO หรือไม่

เดือนที่แล้วสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของ WHO ประกาศระงับการให้เงินอุดหนุนชั่วคราว ปีที่แล้วเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯ คิดเป็นเกือบ 15% ของเงินอุดหนุนทั้งหมดที่ WHO ได้รับ

การประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลกเป็นประชุมประจำปี ในปีนี้จัดให้เป็นการประชุมเสมือนจริง ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ค. จนถึงตอนนี้ ข้อถกเถียงส่วนมากเป็นประเด็นเรื่องบทบาทของ WHO และข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบแผนการรับมือภาวะโรคระบาดนี้ นอกจากนี้ มีมติที่จะทำให้ประเทศยากจนสามารถเข้าถึงวัคซีนหรือการรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยผู้ผลิตเอกชนได้

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าววานนี้ว่า วัคซีนที่พัฒนาโดยจีนจะเป็นของคนทั่วโลก และรับรองว่าวัคซีนจะหาซื้อได้ง่ายและมีราคาที่เอื้อมถึงสำหรับประเทศกำลังพัฒนา

นสพ. เดอะไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่าสหรัฐฯ กำลังวางแผนว่าจะไม่เอาด้วยกับแผนข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่ามตินี้จะผ่านความเห็นชอบแม้สหรัฐฯ จะคัดค้านก็ตาม