ผู้นำเกาหลีเหนือเตือนประชาชนเตรียมรับมือกับวิกฤตขาดแคลนอาหารครั้งรุนแรง

Kim Jong-un

ที่มาของภาพ, EPA

คำบรรยายภาพ, การยอมรับถึงสถานการณ์ความยากลำบากในประเทศของผู้นำเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเรียกร้องให้ประชาชนเตรียมรับมือกับวิกฤต "อันยากลำบาก" หลังจากกลุ่มเพื่อสิทธิมนุษยชนเตือนว่าประเทศกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอาหารและความไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

นายคิมกล่าวเรื่องนี้ในที่ประชุมพรรคคนงานเกาหลีเหนือ โดยเขาเปรียบสถานการณ์ในปัจจุบันว่าเหมือนกับทุพภิกขภัยครั้งเลวร้ายในเกาหลีเหนือเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1990

การยอมรับถึงสถานการณ์ความยากลำบากในประเทศของผู้นำเกาหลีเหนือเช่นนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยในการประชุมเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) นายคิมเรียกร้องให้บรรดาผู้นำพรรค "ต่อสู้กับ 'ทุพภิกขภัยที่ยากลำบากอีกครั้ง' เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากให้ประชาชนของเรา แม้จะเล็กน้อยก็ตาม"

ทุพภิกขภัยในเกาหลีเหนือ (Arduous March) เป็นคำที่เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเรียกห้วงเวลาแห่งความยากลำบากของประเทศที่เผชิญภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงระหว่างปี 1994 - 1998 ซึ่งเป็นช่วงที่อดีตสหภาพโซเวียตล่มสลายทำให้เกาหลีเหนือขาดความช่วยเหลือที่สำคัญ ส่งผลให้ประชาชนราว 3 ล้านคนต้องเสียชีวิตจากโรคขาดสารอาหาร

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายคิมได้เตือนว่าประเทศกำลังเผชิญ "สถานการณ์เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์" และ "ความท้าทายมากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อน"

สถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกาหลีเหนือต้องปิดพรมแดนเพื่อสกัดการระบาดของโรค ส่งผลให้การค้ากับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักต้องหยุดชะงักลง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังกำลังเผชิญการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากนานาชาติต่อการดำเนินโครงการนิวเคลียร์ในประเทศด้วย

Farm workers in North Korea in 2012

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, คนเกาหลีเหนือกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โดยเฉพาะเมืองในแถบชายแดนที่ติดกับจีน

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีคำเตือนว่าคนในเกาหลีเหนือกำลังประสบความยากลำบาก โดยรายงานหลายชิ้นระบุว่า ปัญหานี้ดูเหมือนจะรุนแรงเป็นพิเศษบริเวณเมืองตามแนวชายแดนที่ติดกับจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้คนมักมีรายได้เลี้ยงครอบครัวจากการลักลอบขนสินค้าเข้ามาจากฝั่งจีน

มีรายงานว่าราคาข้าวโพด ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนเกาหลีเหนือในชนบทมีความผันผวนอย่างมาก โดยบางครั้งข้าวโพดหนึ่งกิโลกรัมมีราคาแพงกว่าเงินเดือนของชาวบ้านบางคน

ลินา ยูน นักวิจัยจากฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุในรายงานชิ้นล่าสุดที่อ้างอิงข้อมูลจากคนในเกาหลีเหนือผู้ไม่ต้องการเปิดเผยนามว่า "ตอนนี้แทบจะไม่มีอาหารจากจีนเข้ามาในประเทศเกือบ 2 เดือนแล้ว"

"มีขอทานเพิ่มขึ้นมาก บางคนเสียชีวิตจากความหิวโหยบริเวณพื้นที่แนวชายแดน และยังไม่มีสบู่ ยาสีฟัน หรือแม้แต่แบตเตอรี่"

เมื่อเดือนที่แล้ว นายโทมัส โอเค คีนทานา ผู้จัดทำรายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนเกาหลีเหนือ ได้เตือนว่า "วิกฤตอาหารครั้งรุนแรง" ได้ทำให้เกิดปัญหาขาดสารอาหารและความอดอยากในประเทศนี้แล้ว

"มีรายงานการเสียชีวิตจากความอดอยาก รวมทั้งมีเด็กและคนชราที่ต้องออกมาขอทานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากครอบครัวไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้"

People wearing protective face masks commute amid concerns over the new coronavirus disease (COVID-19) in Pyongyang, North Korea March 30, 2020

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, เกาหลีเหนือปิดพรมแดนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อป้องกันประเทศจากโควิด-19

ลอรา บิคเกอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโซล ระบุว่า นายคิม จอง-อึน ขอแรงสนับสนุนจากคนในพรรคช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญกับความยากลำบาก เพื่อให้แน่ใจว่าคำเตือนนี้เป็นสิ่งที่มาจากตัวเขา หรือหากสถานการณ์เลวร้ายลงเขาก็จะสามารถกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาได้

นอกจากนี้ เขายังอาจกล่าวโทษว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 หรือการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของนานาชาติต่อโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

แต่ถึงอย่างนั้น เกาหลีเหนือกลับยังคงเดินหน้าโครงการพัฒนาและทดลองขีปนาวุธรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง

คำบรรยายวิดีโอ, เกาหลีเหนือแสดงแสนยานุภาพท้าทายว่าที่ ปธน.สหรัฐฯ คนใหม่

เหตุใดเกาหลีเหนือจึงประสบปัญหาหนัก

ระบบเศรษฐกิจเกาหลีเหนือถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากรัฐบาล และเป็นประเทศที่มีการค้าขายเสรีน้อยที่สุด

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายมหาศาลในการบำรุงรักษากองทัพและระบบความมั่นคงต่าง ๆ ก็ทำให้มีเงินเหลือตกมาถึงประชาชนเพียงน้อยนิด

การดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของนานาชาติเพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือล้มโลกโครงการนิวเคลียร์ รวมทั้งการปิดพรมแดนสกัดโควิด-19 ก็ยิ่งซ้ำเติมปัญหาทางเศรษฐกิจให้เลวร้ายลง

โดยการค้ากับจีนซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจเกาหลีเหนือถูกระงับลงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 เกาหลีเหนือระบุว่าการปิดพรมแดนมีขึ้นเพื่อให้ประเทศปลอดจากโควิด-19 แต่นักวิเคราะห์หลายคนแสดงความกังขาต่อคำกล่าวอ้างนี้