พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
ประชาชนประท้วงต่อต้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม "ฉบับสุดซอย" ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการชุมนุมบนท้องถนนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลาออก
ศาลรธน. มีมติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขณะนั้น พ้นตำแหน่ง เนื่องจากการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่กี่วันต่อมา กองทัพก็ทำรัฐประหาร
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงมติเมื่อ 21 ส.ค. 2557 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 191 เสียง งดออกเสียง 3 ในเวลาต่อมา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง มีผล 24 ส.ค. 2557
ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้รับการรับรองด้วยเสียงท่วมท้นในการลงประชามติ ซึ่งผู้เห็นต่างไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมรณรงค์คัดค้าน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ยังคงเปิดช่องให้กองทัพเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มี 16 หมวด 279 มาตรา เนื้อหามีการปรับปรุงให้สอดคล้องตามข้อสังเกตพระราชทานให้ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในหมวดที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจ หลังผ่านการลงประชามติของประชาชนมาแล้ว
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี คดีทุจริตโครงการจำนำข้าว
รัฐสภามีมติท่วมท้นเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ด้วยคะแนน 500 เสียง จาก 750 เสียง วุฒิสมาชิกที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งมาก่อนหน้าพร้อมใจโหวตในทางเดียวกัน
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ เกิด "แฟลชม็อบ" ของกลุ่มนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษา เช่น ม. ธรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ม. รามคำแหง และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง คือ หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยุบสภา หลังจากสมาชิกกลุ่ม "เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย" ถูกจับกุมขณะถือป้ายประท้วง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ จ.ระยอง
กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "คณะประชาชนปลดแอก" จัดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีผู้ร่วมชุมนุมหลายหมื่นคน ถือว่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่การรัฐประหาร คสช. โดยแกนนำย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง 2 หลักการ และ 1 ความฝัน
เกิดปรากฏการณ์นักเรียนมัธยม "ชูสามนิ้ว" และติดโบว์ขาวต้านเผด็จการในอย่างน้อย 16 จังหวัด
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 10 พ.ย. 2564 ระบุว่า การชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อ 10 ส.ค. 2563 มี "เจตนาซ่อนเร้นล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มิใช่เป็นการปฏิรูป" สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างทางการเมือง พร้อมเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อนิยามของประชาธิปไตย และคำถามถึงการบังคับใช้ของคำสั่งศาล
กิจกรรมประท้วงต่อต้านนายกฯ ประยุทธ์เกิดขึ้นหลายจุด อาทิ ที่ลานคนเมือง หน้าศาลากว่าการ กทม, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง, หน้ารัฐสภา แยกเกียกกาย, ใกล้ทำเนียบรัฐบาล
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับตีความการดำรงตำแหน่ง "นายกฯ 8 ปี" และสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลำดับ 1 ขยับขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประวิตรเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก
ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ หนึ่งในนั้นคือการเสนอให้ตัดอำนาจ ส.ว. ในการร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หรือที่รู้จักในชื่อ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” และกำหนดให้นายกฯ มาจาก ส.ส. เท่านั้น ก่อนที่เสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. และ ส.ว. จะตีตกร่างทั้งหมด
สังคมให้ความสนใจเอกสารชื่อ “ความเห็นต่อมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ลงนามโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่งให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยาว 3 หน้า
ศาลรัฐธรรมนูญประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณากรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยสั่งขอเอกสารเพิ่มเติม และนัดพิจารณาคดีครั้งต่อไป วันที่ 14 ก.ย. 2565
ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง จึงกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในวันที่ 30 ก.ย. 2565 เวลา 15.00 น.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดี “นายกฯ 8 ปี”