โควิด-19 : สหราชอาณาจักรเดินหน้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้วัยรุ่น 16-17 ปี ในอีกไม่กี่สัปดาห์
รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อ 4 ส.ค. จะฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกของไฟเซอร์ให้เด็กอายุระหว่าง 16-17 ปี จำนวน 1.4 ล้านคน ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังคณะกรรมการร่วมด้านวัคซีนและภูมิคุ้มกัน (JCVI) เห็นว่าปลอดภัย
"เราไม่มีเวลาที่จะเสียแล้วในการดำเนินการเรื่องนี้" ศาสตราจารย์ โจนาทาน แวน-แทม รองประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ พูดถึงเยาวชนที่จะต้องกลับไปเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายในปีการศึกษาใหม่ในเดือนหน้า และเสริมว่า "ผมต้องการดำเนินการเรื่องนี้ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
เมื่อเดือนที่แล้ว JCVI ขอเวลาตรวจสอบข้อดีข้อเสียของการให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 16-17 ปี รวมทั้งรายงานที่ว่าด้วยอาการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจที่เป็นผลข้างคียงที่พบได้น้อย
แต่ในการแถลงเมื่อวันพุธ JCVI อาการแบบนี้พบได้ "น้อยมากจริง ๆ และมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้วหลายวันซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่ม
ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุค่าเฉลี่ยว่า ในจำนวนเยาวชนชายอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก 1 ล้านคน มีเพียง 9.8 ราย ที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) แต่ค่าเฉลี่ยจะเพิ่มเป็น 67 รายต่อ 1 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนโดส 2 ไปแล้ว และในหมู่ผู้มีอาการเกือบทั้งหมดหายดีในเร็ววัน
JCVI ระบุว่า วัคซีนโดสแรกจะให้ภูมิคุ้มกันอย่างดีต่อการป่วยหนักในกลุ่มเด็กอายุ 16-17 ปี และช่วยไม่ให้ต้องนอนป่วยที่โรงพยาบาลได้ราว 80% แต่ยังไม่ระบุว่าเด็กกลุ่มนี้ควรได้วัคซีนโดสสองเมื่อไร
นับแต่ ธ.ค. ปีที่แล้ว ถึง 4 ส.ค. ปีนี้ 73% ของประชากรอายุตั้งแต่ 18 ปีในสหราชอาณาจักร ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และมากกว่า 88% ได้รับเข็มแรกแล้ว
เมื่อ 20 ก.ค. JCVI ออกคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนให้เด็กอายุระหว่าง 12-15 ปี ที่มีความเสี่ยงโควิดมาก เนื่องจาก :
- มีความพิการทางระบบประสาท
- มีอาการดาวน์ซินโดรม
- มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง รวมถึงเด็กที่เป็นโรคมะเร็งด้วย
- มีปัญหาด้านการเรียนรู้อย่างรุนแรง
ส่วนคนที่อายุ 16-17 ปี และมีความเสี่ยงติดโควิดสูง ก็สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามกฎที่มีอยู่แล้ว
นอกจากนี้ JCVI ยังแนะนำให้เด็กอายุ 12-17 ปีที่อาศัยอยู่ร่วมกับคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้รับการฉีดวัคซีนด้วย เพื่อเป็นการป้องกันทางอ้อม
คนที่อีกไม่ถึง 3 เดือนจะอายุ 18 ปีแล้วก็สามารถขอรับวัคซีนได้ โดยมีจุดมุ่งหมายให้พวกเขาได้รับการป้องกันก่อนที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัย หรือเริ่มทำงาน
จะได้วัคซีนตัวไหน และปลอดภัยต่อเด็กหรือไม่
เด็ก ๆ จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นวัคซีนตัวเดียวที่สหราชอาณาจักรอนุมัติให้ใช้กับเด็กที่อายุเกิน 12 ปี
ไม่มียาตัวไหนที่ปลอดภัย 100% เป็นการหาสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับผลดีที่จะได้ แต่ไฟเซอร์จะไม่ได้รับการอนุมัติหากไม่ได้รับการพิจารณาจากทางการแล้วว่าปลอดภัย
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น แต่ก็พบได้น้อยมาก คืออาการกล้ามเนื้อหัวใจและเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่พบในผู้ชายที่มีอายุน้อยและหลังได้รับวัคซีนโดสที่สอง
อย่างไรก็ดี สำนักงานการแพทย์ยุโรป (European Medicines Agency หรือ EMA) ซึ่งอนุมัติวัคซีนต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป บอกว่าเกิดขึ้นเพียง 1-2 ราย ใน 1,000,000 คน และเกือบทุกคนก็หายเป็นปกติ
เด็กทุกคนในสหราชอาณาจักรจะได้รับวัคซีนไหม
ไม่ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้
ที่ปรึกษาด้านวัคซีนของรัฐบาลบอกว่าผลดีของการฉีดวัคซีนให้เด็กที่สุขภาพดีมีน้อยมาก นี่เป็นเพราะมีเด็กน้อยมากที่ล้มป่วยสาหัสหรือเสียชีวิตจากโควิด
นอกจากนี้ JCVI บอกเมื่อเดือนที่แล้วว่า ยังไม่ชัดเจนว่าการฉีดให้เด็กเพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อไปสู่ผู้ใหญ่มีประโยชน์มากแค่ไหน ในเมื่อคนที่เปราะบางหลายคนก็มีภูมิคุ้มกันแล้ว และก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การให้วัคซีนเด็กจะสามารถป้องกันพวกเขาจากอาการลองโควิด
จากข้อมูลของทางการอังกฤษ มีเด็กราว 25 คนที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีปัญหาสุขภาพรุนแรงอยู่แล้ว รวมถึงอาการทางระบบประสาทที่ซับซ้อน โดยในจำนวนนี้มี 6 รายที่ไม่มีปัญหาสุขภาพมาก่อน
มีชาติไหนที่ฉีดให้เด็กแล้วบ้าง
หลายประเทศ รวมถึงแคนาดาและบราซิล เริ่มให้วัคซีนกับเด็กแล้ว
EMA อนุมัติให้ใช้ไฟเซอร์กับเด็กอายุมากกว่า 12 ปี เมื่อเดือน พ.ค. หลังงานวิจัยพบว่าภูมิคุ้มกันตอบสนองในเด็กอายุ 12-15 ปี คล้ายกับคนอายุ 16-25 ปี เด็ก ๆ พบว่าอาการข้างเคียงที่เจอเหมือนผู้ใหญ่ อาทิ อาการปวดหัว
- ชาติในสหภาพยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี เริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กแล้ว
- เยอรมนีตัดสินใจให้วัคซีนไฟเซอร์กับเด็กอายุมากกว่า 12 ปี แต่เฉพาะที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว
- สหรัฐฯ แนะนำให้ฉีดวัคซีนให้เด็กที่อายุมากกว่า 12 ปีทุกคน และมีรายงานว่าจะฉีดวัคซีนให้เด็กอายุน้อยถึง 4 ขวบ ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
- รัฐบาลฮ่องกงเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กที่อายุเกิน 12 ปีแล้ว โดยส่วนหนึ่งคืออยากให้พวกเขากลับสู่ชีวิตและการเรียนตามปกติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ขณะนี้ ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นากำลังทดลองวัคซีนของพวกเขากับเด็กที่อายุน้อยถึง 6 เดือน